สำหรับเจ้าชายในราชวงศ์ที่ 4 ดูที่ เจ้าชายราโฮเทป
เซคเอมเรวาห์คาอู ราโฮเทป (อักษรโรมัน : Sekhemre-Wahkhau Rahotep) เป็นฟาโรห์ ชาวอียิปต์โบราณ เสวยราชในระยะเวลาช่วงรอยต่อครั้งที่สองแห่งอียิปต์ สมัยที่อียิปต์มีฟาโรห์ปกครองเป็นอิสระแก่กันหลายพระองค์ นักไอยคุปต์วิทยาคิม ไรโฮลท์ และดาร์เรล เบเกอร์ เสนอว่าฟาโรห์ราโฮเทปเป็นฟาโรห์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์ที่ 17 [ 1] [ 3]
หลักฐานที่เกี่ยวเนื่องกับพระองค์
หลักฐานของฟาโรห์ราโฮเทปมีการพบเจอที่อไบดอส และคอปโตส มีดังนี้
[1] ศิลาจารึก UC 14327 ที่พบจากการบูรณะเทวสถานเทพมิน ที่คอปโตส [ 5] ปัจจุบันจารึกหลักนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Petrie ปรากฏความในศิลาจารึกความว่า[ 6] [ 7]
(ปี ... ภายใต้) พระเป็นเจ้าฮอรัส วาห์อังค์, สตรีสองแผ่นดิน ยูเซอร์เรนพุต, ฮอรัสทองคำ วาด ... (... บุตรแห่ง)รา ราโฮเทป, พระผู้พระราชทานชีวิต พระองค์ (ตรัส?) แก่ขุนนางของพระองค์และข้าราชบริพารที่ติดตามทั้งหลาย ... พระวิหาร ... พระองค์ทรงพบ (เกี่ยวกับ) บิดาของข้า (มิน), ผู้เป็นประมุขแห่งเทวดาเจ้าทั้งหลาย, ประตูและบานประตูของท่านพังทลายลงเป็นซาก, (เคยถวายบังคม ? มาก่อน) พระองค์ทรงตรัสว่า: แต่คา(คำสั่ง) จะเกิดขึ้น, ข้าแต่กษัตริย์, เจ้าของเรา คือฮู, แท้จริง, ผู้ที่อยู่ในปาก, และซิอา (ผู้ที่อยู่ในใจ)พทาห์ -เซเคอร์ ... พระผู้สร้างท่าน ... เพื่อท่านจะกระทำให้พวกเขาได้พบพระวิหาร ... ท่านผู้รวบรวมอียิปต์ตอนบน และอียิปต์ตอนล่าง เข้าด้วยกัน ขอให้จิตใจท่านเบิกบานบนบัลลังก์ฮอรัสแห่งชีวิต ... ท่านผู้ปกครองสิ่งที่ดวงอาทิตย์ (ล้อมรอบ) ... พระเป็นเจ้า (...) แห่งราษฎร, ผู้เป็นที่พึ่งตลอด...กลางคืน ... ในยามหลับ ... พระเป็นเจ้าในการแสวงหาสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่แผ่นดินนี้ ราผู้ประทับรูปท่าน ... สิ่งที่ถูกลบ (?)... ดังเช่นในสมัยพระบิดาของท่าน, กษัตริย์ที่ติดตามฮอรัส ไม่เคย ... หายไปในเวลาของเรา ... ซึ่งมีอยู่ก่อนแล้ว ข้าพเจ้าได้สร้างอนุสาวรีย์สำหรับเทพยดา ... สิ่งก่อสร้าง, ที่ถูกนำมา ...
[2] ศิลาหินปูน BM EA 833 ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บริติช [ 8] ภาพในศิลาหลักนี้แสดงรูปคือฟาโรห์ราโฮเทปกำลังถวายเครื่องบูชาแด่เทพโอซิริส แก่ผู้เสียชีวิตสองคนได้แก่เจ้าหน้าที่และนักบวช โดยศิลาแผ่นนี้น่าจะสร้างขึ้นในแหล่งการผลิตที่อไบดอส รวมถึงศิลาของฟาโรห์พันทเจนี และศิลาของฟาโรห์เวปวาเวทเอมซาฟ ก็ผลิตขึ้นจากแหล่งเดียวกัน โดยฟาโรห์ทั้งสามพระองค์นี้ขึ้นครองราชย์ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน[ 9]
[3] พระองค์ยังถูกกล่าวถึงในเครื่องถ้วยของ อเมนีพระราชโอรสกษัตริย์ ซึ่งอุทิศให้แด่ "การปรนนิบัติมินในทุกงานเลี้ยงของเทพมิน " ที่คอปโตส[ 3] [ 10]
[4] นิยายเรื่องคอนซูเอมเฮบกับผี ซึ่งแต่งขึ้นช่วงปลายสมัยราชอาณาจักรใหม่ ตัวเอกพบกับผีที่อ้างว่าเคยเป็น "ผู้คุมการคลัง ของฟาโรห์ราโฮเทป" อย่างไรก็ตามผียังอ้างว่าเสียชีวิตในปีที่ 14 ของรัชกาลฟาโรห์เมนทูโฮเทปซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ครองราชสืบต่อมา ข้อความเหล่านี้ดูจะขัดแย้งกันเนื่องจากในระยะเวลาที่ยาวนาน พระนามฟาโรห์ที่ครองราชถัดจากฟาโรห์ราโฮเทปไม่มีพระนามเมนทูโฮเทปเลย ดังนั้นการระบุกษัตริย์ทั้งสองพระองค์นี้จึงมีปัญหา[ 11]
ทฤษฎีของนักวิชาการ
สคารับ 2 ชิ้นที่ปรากฎจารึกพระนาม "ราโฮเทป" ฟินเดอร์ พีเทรี่ เชื่อว่าคือพระองค์[ 12]
ในขณะที่ไรโฮลท์ และเบเกอร์ เสนอให้ฟาโรห์ราโฮเทป เป็นกษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์ที่ 17 แต่ Jürgen von Beckerath เสนอว่าทรงเป็นกษัตริย์พระองค์ที่สองของราชวงศ์[ 13] [ 14] อีกด้านหนึ่ง Claude Vandersleyen ได้ให้ช่วงเวลาครองราชย์ของฟาโรห์ราโฮเทปอย่างไม่แน่นอนโดยจัดให้พระองค์อยู่ในราชวงศ์ที่ 13 ซึ่งเขาเชื่อว่าฟาโรห์ราโฮเทปมีความเกี่ยวข้องกับฟาโรห์โซเบคเอมซาฟที่ 1 การที่ Vandersleyen จัดช่วงเวลาของพระองค์อยู่ในราชวงศ์ที่ 13 เนื่องจากจำนวนและสภาพหลักฐานของพระองค์[ 15] เบเกอร์เห็นว่าข้อโต้แย้งเหล่านี้ "เบาบางและถูกปฏิเสธโดยนักวิชาการส่วนใหญ่"[ 1]
หากพระองค์เป็นฟาโรห์ช่วงต้นราชวงศ์ที่ 17 จริง พระองค์คงมีพระราชอำนาจในอียิปต์ตอนบน และไปไกลถึงอไบดอส [ 1] จากการสันนิฐานใหม่ของช่วงรอยต่อครั้งที่สองของไรโฮลท์ รัชกาลของฟาโรห์ราโฮเทปจะเกิดขึ้นไม่นานหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ที่ 16 หลังจากการพิชิตทีปส์ โดยชาวฮิกซอส จนเมื่อกองทัพของชาวฮิกซอสได้ออกไปภายหลัง ชาวฮิกซอสได้สร้างความเสียหายไว้ คือการปล้นทำลายเทวสถานและพระราชวัง[ 1] ดังนั้นฟาโรห์ราโฮเทปจึง "โอ้อวดการบูรณะ [ที่พระองค์ดำเนินการ] ในเทวสถานที่อไบดอส และคอปโตส "[ 16] ในอไบดอส พระองค์ก็ทรงบูรณะกำแพงล้อมรอบเทวสถานเทพโอซิริส และที่คอปโตสพระองค์ทรงบูรณะเทวสถานเทพมินที่ "ประตูและบานประตู [ได้] พังทลายลงเป็นซาก"[ 1] ลำดับเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน รวมถึงนักวิชาการบางคนโต้แย้งว่า หากทีปส์ที่เคยถูกพิชิตโดยฮิกซอส ดังนั้นฟาโรห์แห่งอียิปต์ตอนบนที่มีเมืองทีปส์เป็นศูนย์กลางก็ต้องตกเป็นประเทศราชของฮิกซอส
อ้างอิง
↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 Darrell D. Baker: The Encyclopedia of the Pharaohs: Volume I - Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300–1069 BC, Stacey International , ISBN 978-1-905299-37-9 , 2008, p. 341-342
↑ Wallis Budge: Hieroglyphic texts from Egyptian stelae, &c., in the British Museum, Part IV , London: Printed by order of the Trustees [by] Harrison and Sons , 1913, available not-in-copyright here , pl. 24.
↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 K.S.B. Ryholt: The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period, c.1800–1550 BC ,Carsten Niebuhr Institute Publications, vol. 20. Copenhagen: Museum Tusculanum Press , 1997, excerpts available online here.
↑ Number 54 on the Karnak king list
↑ H.M. Stewart: Egyptian Stelae, Reliefs and Paintings from the Petrie Collection. Part Two: Archaic to Second Intermediate Period , Warminster 1979, 17-18, no. 78
↑ Image of the stele with translation
↑ Stele on the Petrie Museum catalogue [ลิงก์เสีย ]
↑ Stele on the British Museum catalogue
↑ Marcel Marée: A sculpture workshop at Abydos from the late Sixteenth or early Seventeenth Dynasty , in: Marcel Marée (editor): The Second Intermediate period (Thirteenth-Seventeenth Dynasties), Current Research, Future Prospects , Leuven, Paris, Walpole, MA. 2010 ISBN 978-90-429-2228-0 . p. 247, 268
↑ O. D. Berlev: Un don du roi Rahotep , OLP 6-7 (1975/1976), p. 31-41 pl II.
↑ Simpson, William K. (1973). The Literature of Ancient Egypt . New Haven and London: Yale University Press. ISBN 0-300-01711-1 . , pp. 139–40
↑ Flinders Petrie : Scarabs and cylinders with names (1917), available copyright-free here , pl. XXIII
↑ Jürgen von Beckerath: Untersuchungen zur politischen Geschichte der Zweiten Zwischenzeit in Ägypten , Glückstadt, 1964
↑ Jürgen von Beckerath: Chronologie des pharaonischen Ägyptens , Münchner Ägyptologische Studien 46. Mainz am Rhein, 1997
↑ Claude Vandersleyen: Rahotep, Sébekemsaf Ier et Djéhouty, rois de la 13e Dynastie , Revue d'Égyptologie
↑ Janine Bourriau, Ian Shaw (edit), The Oxford History of Ancient Egypt Oxford University Press, 2000. p.205 ISBN 978-0-19-280458-7
ยุค
ราชวงศ์
ฟาโรห์ (ชาย หญิง ) ไม่ทราบ
ยุคปลาย (664–332 ปีก่อน ค.ศ)
เฮลเลนิสต์ (332–30 ปีก่อน ค.ศ)
ยุค
ราชวงศ์
ฟาโรห์ (ชาย หญิง ) ไม่ทราบ
โรมัน (30 ปีก่อน ค.ศ.–ค.ศ. 313)