รถไฟฟ้าสายสีทอง
รถไฟฟ้าสายสีทอง[1] หรือ โครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง สายสีทอง[2] เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนรองบนพื้นที่ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระบบขนส่งมวลชนทางราง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่สอง (M-Map Phase 2) มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบนถนนเจริญนคร และเชื่อมต่อเข้ากับศูนย์การค้าไอคอนสยาม ดำเนินการโดย กรุงเทพมหานคร, บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ดำเนินการในรูปแบบระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติโดยใช้รถไฟฟ้าล้อยาง และมีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีกรุงธนบุรี โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม วิ่งไปตามแนวถนนเจริญนคร ผ่านศูนย์การค้าไอคอนสยาม สำนักงานเขตคลองสาน สิ้นสุดในช่วงแรกที่บริเวณแยกวงเวียนเล็ก (สมเด็จเจ้าพระยา-ประชาธิปก) รวมระยะทาง 2.7 กิโลเมตร โดยในปี 2567 กรุงเทพธนาคม เปิดเผยว่า มีผู้ใช้บริการ เที่ยวละ 7,400 คน ต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ว่า จะมีผู้ใช้บริการเที่ยวละ 30,000 คน[3] เดิมทีเส้นทางสายนี้เป็นหนึ่งใน 8 เส้นทางศึกษาระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง ของสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานครตั้งแต่ พ.ศ. 2552 เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบนถนนเจริญนคร ไปจนถึงถนนสมเด็จเจ้าพระยา แต่เนื่องจากแผนการดำเนินการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้แผนโครงการเส้นทางสายรองทั้งหมดถูกยกเลิก ต่อมาใน พ.ศ. 2560 ชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารกลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้รับคำแนะนำจาก คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกลุ่มบีทีเอส ให้เข้าพูดคุยกับกรุงเทพมหานครเพื่อขอรื้อฟื้นโครงการและสร้างเส้นทางรองเพื่อขนส่งผู้โดยสารจากโครงการไอคอนสยามเข้ารถไฟฟ้าสายหลัก 3 เส้นทางโดยรอบ ไอคอนสยามจึงเสนองบประมาณการก่อสร้างให้กรุงเทพมหานครเข้าดำเนินการ ก่อนได้รับการอนุมัติการดำเนินการจริงใน พ.ศ. 2561 โครงการทดลองเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563 และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564[4] เดิมกรุงเทพมหานครจะประเมินยอดผู้โดยสาร 6 เดือน[5]เพื่อก่อสร้างสถานีระยะที่หนึ่งเข้าสู่ถนนประชาธิปกอันเป็นที่ตั้งของสถานีสะพานพุทธของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม เพิ่มอีก 1 สถานี แต่ในปี 2565 กรุงเทพมหานครได้หยุดแผนก่อสร้างออกไปก่อนเนื่องจากปริมาณผู้โดยสารน้อยกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งเป็นผลจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อีกทั้งไอคอนสยามไม่ได้สนับสนุนงบดำเนินการก่อสร้าง[6] ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครเองยังมีแผนที่จะโอนโครงการทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การดูแลของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เนื่องมาจากโครงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องและส่งผลต่องบประมาณรวมของกรุงเทพมหานครซึ่งจะทำให้การต่อขยายเส้นทางเป็นไปได้ลำบาก ภาพรวมเป็นระบบรถไฟฟ้าที่มีโครงสร้างแบบยกระดับ ดำเนินการโดย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในลักษณะของการจ้างเดินรถจาก บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เจ้าของโครงการที่ได้รับสัมปทานในการดำเนินโครงการจากกรุงเทพมหานครในการลงทุนและดำเนินการเชิงพาณิชย์ หรือ PPP-Net Cost ภายในกรอบระยะเวลา 30 ปี มีแนวเส้นทางที่เน้นการเชื่อมโยงการเดินทางบนถนนเจริญนครเป็นหลัก เริ่มต้นจากบริเวณสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีวิ่งไปทางทิศตะวันออกแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นทางเหนือเข้าสู่ถนนเจริญนคร ผ่านด้านหน้าศูนย์การค้าไอคอนสยาม และยกระดับข้ามแนวของสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะก่อสร้างขึ้นในอนาคตตามแนวถนนลาดหญ้า เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสมเด็จเจ้าพระยาและสิ้นสุดโครงการบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลตากสิน ระยะทางรวม 2.7 กิโลเมตร เป็นแนวเส้นทางระยะสั้นเพื่อเน้นขนถ่ายผู้โดยสารจากถนนเจริญนคร และศูนย์การค้าไอคอนสยาม เข้าสู่เส้นทางหลักคือรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม โดยในแผนระยะที่สอง จะมีการก่อสร้างสถานีอีกหนึ่งสถานีบริเวณด้านหลังอนุสรณ์สถานสมโภช 100 ปี เขตคลองสาน เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม ส่วนต่อขยายเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ พื้นที่ที่เส้นทางผ่าน
แผนที่เส้นทาง
แนวเส้นทางช่วงที่ 1 : สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี - สำนักงานเขตคลองสาน - สะพานพุทธเป็นเส้นทางยกระดับความสูง 14-17 เมตรจากระดับดินไปตามแนวถนน โดยแบ่งออกได้อีก 2 ระยะดังนี้
ช่วงที่ 2 : สถานีรถไฟฟ้ามหานคร สะพานพุทธ - สถานีรถไฟฟ้ามหานคร อิสรภาพเป็นเส้นทางยกระดับความสูง 14-17 เมตรจากระดับดินไปตามแนวถนน เริ่มต้นจากจุดสิ้นสุดสถานีสะพานพุทธ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนประชาธิปก เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรมที่สถานีสะพานพุทธ (วงเวียนเล็ก) แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนอิสรภาพ ผ่านบิ๊กซี อิสรภาพ, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา แล้วสิ้นสุดเส้นทางที่บริเวณสถานีอิสรภาพ ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล[7] ช่วงที่ 3 : สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี - โรงแรมอนันตรากรุงเทพริเวอร์ไซด์เป็นเส้นทางยกระดับความสูง 14-17 เมตรจากระดับดินไปตามแนวถนน เริ่มต้นจากสถานีกรุงธนบุรี ของรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม เบี่ยงเข้าถนนกรุงธนบุรีทางขวาบริเวณปลายสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เพื่อเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเจริญนครฝั่งใต้ ผ่านวัดเศวตฉัตรวรวิหาร กระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ สมาคมตระกูลลิ้มแห่งประเทศไทย และสิ้นสุดบริเวณซอยเจริญนคร 60 ใกล้กับศูนย์การค้าริเวอร์ไซด์ พลาซ่า โรงแรมอวานีริเวอร์ไซด์กรุงเทพ และโรงแรมอนันตรากรุงเทพริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา[7] รายชื่อสถานี
การเชื่อมต่อ
ทางเดินเข้าอาคารในบางสถานีผู้โดยสารสามารถเดินจากสถานีไปยังอาคารต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้ ดังนี้
รถบริการรับส่งปัจจุบันมีเอกชนร่วมให้บริการรถรับส่งจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทองไปยังสถานที่ แต่ละฝ่ายให้บริการอยู่ โดยปัจจุบันมีดังนี้
เรือรับส่งที่ สถานีเจริญนคร สามารถเดินทางไปยังอาคารบางแห่งด้วยเรือรับส่งจากท่าเรือไอคอนสยาม ดังต่อไปนี้
รูปแบบของโครงการ
ศูนย์ซ่อมบำรุงและศูนย์ควบคุมการเดินรถโครงการมีสถานีซ่อมบำรุงขนาดย่อยต่อจากสถานีกรุงธนบุรีโดยใช้โครงสร้างร่วมกัน (ในลักษณะเดียวกับสถานีซ่อมบำรุงย่อยบางหว้า ถนนราชพฤกษ์) สถานีซ่อมบำรุงดังกล่าวจะไว้ใช้สำหรับงานบำรุงรักษาที่ไม่หนักจนเกินควร ในส่วนของการจอดพักขบวนรถหลังปิดให้บริการ จะใช้วิธีการจอดตามสถานีรายทางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับให้บริการในวันถัดไป แต่สำหรับการซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) จะใช้วิธีการถอดขบวนรถออกจากระบบเพื่อนำไปซ่อมที่ศูนย์ซ่อมบำรุงหมอชิต ร่วมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส โครงการมีศูนย์ควบคุมการเดินรถระยะไกลตั้งอยู่ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต (ที่ทำการใหญ่ของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบัน) และมีศูนย์ควบคุมสำรองอยู่ภายในสถานีซ่อมบำรุงกรุงธนบุรี สิ่งอำนวยความสะดวกมีจุดจอดแล้วจร (park and ride) ที่สถานีต้นทาง (กรุงธนบุรี) สถานีมีทั้งหมด 3 สถานี (และสถานีเพิ่มเติมในอนาคตอีก 1 สถานี) เป็นสถานียกระดับทั้งหมด ตัวสถานีมีความยาวประมาณ 40-50 เมตร ชานชาลายาว 42-48.5 เมตร สามารถรองรับรถไฟฟ้าได้สูงสุด 3 คันต่อขบวน มีทั้งรูปแบบชานชาลาด้านข้างและชานชาลากลาง มีประตูกั้นชานชาลาแบบครึ่งความสูง (Half-height) ทุกสถานี ตัวสถานีออกแบบให้หลบเลี่ยงสาธารณูปโภคใต้ดินและบนดิน และรักษาสภาพผิวจราจรบนถนนมากที่สุด และมีเสายึดสถานีอยู่บริเวณเกาะกลางถนน และบริเวณทางเดินเท้าริมถนนในบางช่วง ขบวนรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทอง ได้เลือกใช้รถไฟฟ้ารุ่น อินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 จากบอมบาร์ดิเอร์ เป็นรถไฟฟ้าแบบเดียวกับที่ใช้งานในโครงการรถไฟฟ้าแอลอาร์ที สาย Bukit Panjang ประเทศสิงคโปร์ ผลิตโดยซีอาร์อาร์ซี ผู่เจิ้น บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชัน ซิสเท็ม (CRRC-PBTS) ในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน ขนาดกว้าง 3.6 เมตร ยาว 12 เมตร สูง 3.7 เมตร จุผู้โดยสารได้สูงสุด 280 คันต่อขบวน รองรับผู้โดยสารสูงสุด 4,200 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทางไปกลับ รับไฟฟ้ากระแสตรง 750 โวลต์จากรางนำทางที่ติดตั้งบนโครงสร้าง ตัวยางล้อใช้ยางรุ่น เอ็กซ์ เมโทร จากมิชลิน ประเทศไทย มีทั้งหมด 3 ขบวน ขบวนละ 2 คัน จัดส่งจากประเทศจีนถึงไทย ณ ท่าเรือแหลมฉบังครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563[8] และยกขึ้นสู่สถานีกรุงธนบุรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2563 ระบบในการเดินรถในการเดินรถไฟฟ้าได้นำระบบอาณัติสัญญาณ CITYFLO 650 ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมการเดินรถโดยอัตโนมัติ เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพ, สะดวกรวดเร็ว, ปลอดภัยสูงสุด และรองรับการเดินรถไฟฟ้าแบบไม่ใช่คนควบคุมขบวนรถ โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการต้นแบบในการนำระบบอาณัติสัญญาณอัตโนมัติมาใช้ในการเดินรถแบบไม่ใช้คนควบคุม (Driverless Operation) ซึ่งผลที่ได้บีทีเอสซีจะนำไปปรับใช้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองต่อไป การให้บริการการดำเนินการภายหลังจากที่ กรุงเทพมหานคร ได้รับเงินสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างจาก บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด หรือศูนย์การค้าไอคอนสยาม เป็นจำนวนเงิน 2,080 ล้านบาท เพื่อขอให้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าเข้าสู่ศูนย์การค้า เพื่อไม่ให้เป็นการปฏิบัติขัดต่อ พ.ร.บ. องค์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 กรุงเทพมหานครจึงเซ็นสัญญามอบสัมปทานโครงการให้กับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดำเนินงาน โดยกรุงเทพธนาคมได้ว่าจ้างให้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานโยธาของโครงการในราคาต่ำสุดที่ 1,070 ล้านบาท และได้ว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่งเป็นผู้เสนองานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าในราคาต่ำสุดที่ 13,520 ล้านบาท โดยบีทีเอสซี ได้ว่าจ้างกลุ่มกิจการร่วมค้าซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสที อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการจัดหาขบวนรถไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบเครื่องกล ระบบการจัดเก็บค่าโดยสาร และระบบโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนบีทีเอสซีจะรับหน้าที่เป็นผู้เดินรถไฟฟ้า จัดเก็บค่าโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษาโครงการตลอดอายุสัมปทานของกรุงเทพธนาคม หรือจนกว่าสัญญาสัมปทานของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสหมดอายุ การพัฒนาและบริหารพื้นที่บนสถานีและป้ายโฆษณาบนสถานีและบนตัวรถ เป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน ถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงในการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างโครงการ โดยไอคอนสยาม มีแผนใช้โครงการประชาสัมพันธ์ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายในศูนย์การค้าไอคอนสยาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มยอดลูกค้าของศูนย์การค้าโดยตรง การให้บริการปกติรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทอง เปิดให้บริการเดินรถโดยเริ่มเดินรถขบวนแรกในเวลา 06.00 น. จากสถานีกรุงธนบุรี และสถานีคลองสาน โดยความถี่การเดินรถจะขึ้นอยู่กับเวลา และความหนาแน่นของผู้โดยสาร และจะมีรถให้บริการตลอดวันจนถึงเวลา 24.00 น. ของแต่ละวัน แต่สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางเชื่อมต่อไปยัง รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท มุ่งหน้าสถานีปลายทางเคหะฯ หรือสถานีปลายทางคูคต จะต้องขึ้นรถขบวนสุดท้ายในเวลา 23.41 น. (สถานีคลองสาน) และ 23.42 น. (สถานีเจริญนคร) ตามลำดับ เพื่อให้เดินทางมายังสถานีกรุงธนบุรีได้ทันรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลมเชื่อมต่อสายสุขุมวิทเต็มระยะสองขบวนสุดท้าย อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทอง มีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 16 บาทตลอดสาย โดยมีส่วนลดพิเศษให้กับผู้ถือบัตรโดยสารประเภทผู้สูงอายุที่ 8 บาทตลอดสาย ทั้งนี้ค่าโดยสารของรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทอง ไม่ได้รวมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสายหลัก ผู้โดยสารที่จะเดินทางจากรถไฟฟ้าสายหลักไปสถานีสายสีทอง จะต้องชำระค่าโดยสารเพิ่มต่างหากที่สถานีกรุงธนบุรีเพื่อเข้าสู่ระบบของรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทองต่อไป อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia