สุพรรณบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพมหานคร 107 กิโลเมตร จังหวัดที่อยู่ติดกัน (จากทิศเหนือ วนตามเข็มนาฬิกา) ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และกาญจนบุรี
ประวัติศาสตร์
สุพรรณบุรีเป็นเมืองโบราณ พบหลักฐานทางโบราณคดีมีอายุไม่ต่ำกว่า 3,500-3,800 ปี โบราณวัตถุที่ขุดพบมีทั้งยุคหินใหม่ ยุคสำริด ยุคเหล็ก และสืบทอดวัฒนธรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ ฟูนัน อมราวดี ทวารวดี และศรีวิชัย สุพรรณบุรีเดิมมีชื่อว่า ทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ หรือ พันธุมบุรี[3] ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าจีน แถบ บริเวณตำบลรั้วใหญ่ไปจดตำบลพิหารแดง
ต่อมาพระเจ้ากาแตได้ย้ายเมืองมาตั้งอยู่ที่ฝั่งขวาของแม่น้ำ แล้วโปรดให้มอญน้อยไปสร้างวัดสนามชัย และบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ชักชวนให้ข้าราชการจำนวน 2,000 คนบวช จึงขนานนามเมืองใหม่ว่า สองพันบุรี[3]
ครั้งถึงสมัยพระเจ้าอู่ทอง ได้สร้างเมืองมาทางฝั่งใต้หรือทางตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ชื่อเมืองเรียกว่า อู่ทอง จวบจนสมัยขุนหลวงพะงั่ว เมืองนี้จึงเรียกว่าชื่อว่า สุพรรณบุรี นับแต่นั้นมา[ต้องการอ้างอิง]
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองสุพรรณบุรีเป็นเมืองหน้าด่านและเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ ต้องผ่านศึกสงครามหลายต่อหลายครั้ง สภาพเมืองตลอดจนโบราณสถานถูกทำลายเหลือเพียงซากปรักหักพัง จนกระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองสุพรรณบุรีได้ฟื้นตัวขึ้นใหม่ และตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน (ลำน้ำสุพรรณ) มาจนตราบทุกวันนี้
ความสำคัญของสุพรรณบุรีในด้านประวัติศาสตร์การกอบกู้เอกราชไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ ชัยชนะแห่งสงครามยุทธหัตถีที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา ณ สมรภูมิดอนเจดีย์ เป็นมหาวีรกรรมคชยุทธอันยิ่งใหญ่ที่ได้ถูกจารึกไว้ และมีการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ
ในด้านวรรณคดี เป็นเมืองต้นกำเนิดแห่งตำนาน "ขุนช้างขุนแผน" วรรณคดีไทยเรื่องราวและสถานที่ที่ปรากฏตามท้องเรื่องยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน อาทิ บ้านรั้วใหญ่ วัดเขาใหญ่ ท่าสิบเบี้ย ไร่ฝ้าย วัดป่าเลไลยก์ วัดแค อำเภออู่ทอง และอำเภอศรีประจันต์
สุพรรณบุรี ดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์บนพื้นที่ราบภาคกลางสืบสานความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตเมื่อ พ.ศ. 1420 จากนามเดิมเมืองพันธุมบุรีในยุคทวารวดีตามหลักฐานทางโบราณคดีได้จารึกชื่อไว้ในพงศาวดารเหนือ และนาม "สุพรรณภูมิ" ปรากฏในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชระบุว่าเป็นนครรัฐที่มีความสำคัญมาก่อนกรุงศรีอยุธยา เมื่อมีการสถาปนากรุงศรีอยุธยา เมืองสุพรรณบุรีจึงจัดอยู่ในฐานะเมืองลูกหลวงซึ่งเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญอีกด้วย
ภูมิศาสตร์
แผนภูมิแสดงสภาพภูมิอากาศของ |
จังหวัดสุพรรณบุรี
(วิธีอ่าน) |
ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อุณหภูมิ วัดเป็นองศาเซลเซียส |
ปริมาณหยาดน้ำฟ้า วัดเป็นมิลลิเมตร | ที่มา: [1] |
|
แสดงข้อมูลเป็นมาตราอังกฤษ |
ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อุณหภูมิ วัดเป็นองศาฟาเรนไฮต์ |
ปริมาณหยาดน้ำฟ้า วัดเป็นนิ้ว |
|
ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของสุพรรณบุรีเป็นที่ราบต่ำติดชายฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี มีทิวเขาขนาดเล็กอยู่ทางเหนือและทางตะวันตกและทิศเหนือ มีอุทยานแห่งชาติพุเตย แหล่งนํ้าสำคัญคือเขื่อนกระเสียว ด้านตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่ราบลุ่มของแม่น้ำสุพรรณบุรี (แม่น้ำท่าจีน) ใช้เป็นพื้นที่ปลูกข้าว
ข้อมูลภูมิอากาศของสุพรรณบุรี
|
เดือน
|
ม.ค.
|
ก.พ.
|
มี.ค.
|
เม.ย.
|
พ.ค.
|
มิ.ย.
|
ก.ค.
|
ส.ค.
|
ก.ย.
|
ต.ค.
|
พ.ย.
|
ธ.ค.
|
ทั้งปี
|
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F)
|
31.7 (89.1)
|
33.9 (93)
|
35.7 (96.3)
|
36.9 (98.4)
|
35.4 (95.7)
|
34.2 (93.6)
|
33.6 (92.5)
|
33.3 (91.9)
|
32.3 (90.1)
|
31.5 (88.7)
|
30.6 (87.1)
|
30.3 (86.5)
|
33.28 (91.91)
|
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F)
|
19.2 (66.6)
|
21.7 (71.1)
|
23.5 (74.3)
|
25.1 (77.2)
|
25.3 (77.5)
|
25.0 (77)
|
24.6 (76.3)
|
24.6 (76.3)
|
24.6 (76.3)
|
24.4 (75.9)
|
22.4 (72.3)
|
19.4 (66.9)
|
23.32 (73.97)
|
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว)
|
6.7 (0.264)
|
8.9 (0.35)
|
18.0 (0.709)
|
65.1 (2.563)
|
143.4 (5.646)
|
101.4 (3.992)
|
113.9 (4.484)
|
136.1 (5.358)
|
275.5 (10.846)
|
192.8 (7.591)
|
39.8 (1.567)
|
11.2 (0.441)
|
1,112.8 (43.811)
|
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย
|
1
|
1
|
2
|
5
|
12
|
13
|
15
|
16
|
19
|
13
|
4
|
1
|
102
|
แหล่งที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา
|
การเมืองการปกครอง
หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 10 อำเภอ 110 ตำบล 977 หมู่บ้าน โดยทั้ง 10 อำเภอมีดังนี้
แผนที่อำเภอในจังหวัดสุพรรณบุรี
ชั้น
|
หมายเลข
|
อำเภอ
|
ประชากร (พ.ศ. 2560)
|
พื้นที่ (ตร.กม.)
|
ความหนาแน่น (คน/ตร.กม.)
|
รหัสไปรษณีย์
|
ระยะทางจากตัวเมือง
|
1
|
1 |
อำเภอเมืองสุพรรณบุรี |
168,178 |
540.9 |
310.92 |
72000
|
-
|
1
|
2 |
อำเภอเดิมบางนางบวช |
72,542 |
552.3 |
131.34 |
72120
|
51
|
2
|
3 |
อำเภอด่านช้าง |
68,415 |
1,193.6 |
57.31 |
72180
|
74
|
2
|
4 |
อำเภอบางปลาม้า |
77,966 |
481.3 |
161.99 |
72150
|
15
|
2
|
5 |
อำเภอศรีประจันต์ |
62,895 |
181.0 |
347.48 |
72140
|
19
|
2
|
6 |
อำเภอดอนเจดีย์ |
46,230 |
252.081 |
183.39 |
72170
|
33
|
1
|
7 |
อำเภอสองพี่น้อง |
128,464 |
750.4 |
171.19 |
72110, 72190
|
38
|
2
|
8 |
อำเภอสามชุก |
54,441 |
355.9 |
152.96 |
72130
|
36
|
1
|
9 |
อำเภออู่ทอง |
123,510 |
630.29 |
195.95 |
72160, 72220
|
34
|
3
|
10 |
อำเภอหนองหญ้าไซ |
49,362 |
420.2 |
117.47 |
72240
|
54
|
|
รวม |
852,003 |
5,358.008 |
159.01 |
|
|
จังหวัดสุพรรณบุรีมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 127 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี, เทศบาลเมือง 2 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และเทศบาลเมืองสองพี่น้อง, เทศบาลตำบล 44 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 80 แห่ง[4]
- อำเภอเมืองสุพรรณบุรี
- อำเภอเดิมบางนางบวช
- เทศบาลตำบลเขาพระ
- เทศบาลตำบลนางบวช
- เทศบาลตำบลบ่อกรุ
- เทศบาลตำบลเขาดิน
- เทศบาลตำบลปากน้ำ
- เทศบาลตำบลเดิมบาง
- เทศบาลตำบลหนองกระทุ่ม
- เทศบาลตำบลทุ่งคลี
|
- อำเภอด่านช้าง
- อำเภอบางปลาม้า
- เทศบาลตำบลโคกคราม
- เทศบาลตำบลบางปลาม้า
- เทศบาลตำบลบ้านแหลม
- เทศบาลตำบลไผ่กองดิน
- เทศบาลตำบลต้นคราม
- เทศบาลตำบลตะค่า
- เทศบาลตำบลบ้านแหลมพัฒนา
- อำเภอศรีประจันต์
- อำเภอดอนเจดีย์
- เทศบาลตำบลดอนเจดีย์
- เทศบาลตำบลสระกระโจม
|
- อำเภอสองพี่น้อง
- อำเภอสามชุก
- อำเภออู่ทอง
- อำเภอหนองหญ้าไซ
|
รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ชื่อ
|
ช่วงเวลาดำรงตำแหน่ง
|
1. พระยาสุนทรสงคราม (จัน สุนทรพงษ์)
|
พ.ศ. 2394–ไม่ทราบ
|
2. พระยาสุนทรสงครามรามพิไชย (แจ่ม สุนทรวิภาต)
|
พ.ศ. 2412–2420
|
3. พระยาสุนทรสงครามรามพิไชย (สว่าง อมาตยกุล)
|
พ.ศ. 2421–2425
|
4. พระยาสุนทรสงครามรามพิไชย (จัน แสงชูโต)
|
พ.ศ. 2426–2429
|
5. พระยาสุนทรสงครามรามภักดี (พัน รัตนกุล)
|
พ.ศ. 2431–2435
|
6. พระยาอภัยพลภักดิ์ (หม่อมหลวงอุกฤษ เสนีย์วงค์)
|
พ.ศ. 2435–2439
|
7. พระอร่ามมณเฑียร (หม่อมราชวงศ์ใหญ่ นรินทรกุล)
|
พ.ศ. 2440
|
8. พระยาสุนทรสงคราม (ถม ณ มหาไชย)
|
พ.ศ. 2440–2442
|
9. พระยาอินทรวิชิต (ทองคำ)
|
พ.ศ. 2442–2444
|
10. พระยาสุนทรสงคราม (หม่อมราชวงศ์เล็ก พยัคฆเสนา)
|
พ.ศ. 2444–2454
|
11. พระยาสุนทรสงคราม (อี้ กรรณสูต)
|
พ.ศ. 2454–2466
|
12. พระยาสุนทรสงคราม (ปุย สุวรรณศร)
|
พ.ศ. 2466–2470
|
13. พระยาพิศาลสารเกษตร (พร พิมพสูตร)
|
พ.ศ. 2470–2476
|
14. พระยารามราชภักดี (หม่อมหลวงสวาสดิ์ อิศรางกูร)
|
พ.ศ. 2476–2479
|
15. พันโท พระเจนกระบวนหัด (ทองคำ พรโสภณ)
|
พ.ศ. 2479–2481
|
16. หลวงศรีราชรักษา (ผิว ชาครียรัตน์)
|
พ.ศ. 2481–2485
|
17. นายกังวาล วงษ์สกุล
|
พ.ศ. 2485–2486
|
18. ร้อยเอก หลวงวุฒิราษฎร์รักษา (วุฒิศรสงคราม วุฒิราษฎร์รักษา)
|
พ.ศ. 2486–2487
|
19. นายอรรถสิทธิ์ สิทธิสุนทร
|
พ.ศ. 2487–2488
|
20. นายปรง พหูชนม์
|
พ.ศ. 2488–2489
|
21. นายชุบ พิเศษนครกิจ
|
พ.ศ. 2489
|
22. ขุนธรรมรัฐธุราทร (ธรรมรัฐ โรจนสุนทร)
|
พ.ศ. 2489–2494
|
23. นายสนิท วิไลจิตต์
|
พ.ศ. 2494–2496
|
|
ชื่อ
|
ช่วงเวลาดำรงตำแหน่ง
|
24. พันตำรวจเอก จำรัส โรจนจันทร์
|
พ.ศ. 2496–2497
|
25. นายพินิต โพธิ์พันธุ์
|
พ.ศ. 2497–2500
|
26. นายพัฒน์ บุณยรัตนพันธุ์
|
พ.ศ. 2500–2509
|
27. นายเวียง สาครสินธุ์
|
พ.ศ. 2509–2510
|
28. นายสวัสดิ์ มีเพียร
|
พ.ศ. 2510–2518
|
29. นายสอน สุทธิสาร
|
พ.ศ. 2518–2521
|
30. นายชลิต พิมลศิริ
|
พ.ศ. 2521–2523
|
31. นายจรินทร์ กาญจโนมัย
|
พ.ศ. 2523–2527
|
32. นายอารีย์ วงศ์อารยะ
|
พ.ศ. 2527–2531
|
33. นายธานี โรจนลักษณ์
|
พ.ศ. 2531–2533
|
34. ร้อยตรี สมนึก เกิดเกษ
|
พ.ศ. 2533–2534
|
35. ร้อยเอก ศรีรัตน์ หริรักษ์
|
พ.ศ. 2534–2535
|
36. นายสมพงศ์ ศรียะพันธุ์
|
พ.ศ. 2535–2536
|
37. นายอำนวย ยอดเพชร
|
พ.ศ. 2536–2538
|
38. นายประเสริฐ เปลี่ยนรังสี
|
พ.ศ. 2538–2541
|
39. นายวิพัฒน์ คงมาลัย
|
พ.ศ. 2541–2546
|
40. นายทรงพล ทิมาศาสตร์
|
พ.ศ. 2546–2549
|
41. นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์
|
พ.ศ. 2549–2555
|
42. นายสุภัทร์ ศรีสุนทรพินิต
|
พ.ศ. 2555–2556
|
43. ว่าที่ร้อยตรี สุพีร์พัฒน์ จองพานิช
|
พ.ศ. 2556–2560
|
44. นายนิมิต วันไชยธนวงศ์
|
พ.ศ. 2560–2563
|
45. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป
|
พ.ศ. 2563–2567
|
46. นายพิริยะ ฉันทดิลก
|
พ.ศ. 2567–ปัจจุบัน
|
|
รายชื่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ลำดับ
|
รายชื่อ[5]
|
เริ่มดำรงตำแหน่ง
|
สิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง
|
หมายเหตุ
|
1
|
ศักดา จาละนายก
|
16 ธันวาคม พ.ศ. 2540
|
2 ธันวาคม พ.ศ. 2541
|
|
3 ธันวาคม พ.ศ. 2541
|
10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543
|
|
11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543
|
8 ธันวาคม พ.ศ. 2546
|
|
2
|
สุวัฒน์ จันทร์สว่าง
|
17 ธันวาคม พ.ศ. 2546
|
4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547
|
|
3
|
บุญชู จันทร์สุวรรณ
|
14 มีนาคม พ.ศ. 2547
|
13 มีนาคม พ.ศ. 2551
|
นายก อบจ. จากการเลือกตั้งครั้งแรก
|
20 เมษายน พ.ศ. 2551
|
18 มกราคม พ.ศ. 2555
|
ลาออกก่อนครบวาระ[6]
|
17 มีนาคม พ.ศ. 2555
|
26 ตุลาคม พ.ศ. 2563
|
|
20 ธันวาคม พ.ศ. 2563
|
19 ธันวาคม พ.ศ. 2567
|
|
4
|
อุดม โปร่งฟ้า
|
1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
|
ปัจจุบัน
|
|
โครงสร้างพื้นฐาน
การขนส่ง
- ถนนที่สำคัญในสุพรรณบุรี
สำหรับถนนในหมายเลขที่ 1-10 เป็นถนนที่ใช้ชื่อตัวละครในวรรณคดีไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน นิทานพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่
- ถนนพระพันวษา
- ถนนขุนไกร
- ถนนม้าสีหมอก และ ถนนหมื่นหาญ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3431)
- ถนนเณรแก้ว
- ถนนขุนแผน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3017)
- ถนนนางพิม
- ถนนขุนช้าง (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3318)
- ถนนหลวงทรงพล
- ถนนพลายชุมพล
- ถนนขุนไกร
ส่วนถนนต่อไปนี้ เป็นถนนที่ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่
- ถนนบางบัวทอง-ชัยนาท (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340)
- ถนนมาลัยแมน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 321)
- ถนนประชาธิปไตย
- ถนนวงแหวนรอบเมืองสุพรรณบุรี
- สะพานที่สำคัญ
- สะพานอาชาสีหมอก ๑
- สะพานอาชาสีหมอก ๒
- สะพานอาชาสีหมอก ๓
- สะพานวัดพระรูป
ทางรถไฟ
จังหวัดสุพรรณบุรีนั้นมีทางรถไฟผ่านโดยเป็นทางรถไฟที่แยกมาจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี โดยเปิดเดินรถเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2506 ปัจจุบันมีที่หยุดรถ/ป้ายหยุดรถ/สถานีในเขตจังหวัดสุพรรณบุรีดังนี้
1.ที่หยุดรถหนองวัลย์เปรียง
2.ที่หยุดรถศรีสำราญ
3.ที่หยุดรถดอนสงวน
4.ป้ายหยุดรถดอนทอง
5.ที่หยุดรถหนองผักชี
6.ที่หยุดรถบ้านมะขามล้ม
7.ที่หยุดรถสะแกย่างหมู
8.สถานีสุพรรณบุรี
9.ที่หยุดรถมาลัยแมน
โดยในปัจจุบันนั้นมีรถไฟให้บริการ 2 ขบวน คือขบวนรถชานเมืองที่ 355/356 โดยขบวน 355 ปลายทางสุพรรณบุรีวันอาทิตย์ ขบวน 356 ต้นทางสุพรรณบุรีวันจันทร์ ส่วนวันอื่นๆนั้นขบวนรถจะสิ้นสุดปลายทางแค่ชุมทางหนองปลาดุก
การศึกษา
- โรงเรียน
- ระดับอุดมศึกษา
- ระดับอาชีวศึกษา
สาธารณสุข
บุคคลที่มีชื่อเสียง
พระภิกษุ
นักร้อง
นักแสดง
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
อำเภอ | | |
---|
ประวัติศาสตร์ | |
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
สังคม | การศึกษา | |
---|
สาธารณสุข | |
---|
กีฬา | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
การเมือง | |
---|
|
---|
|
|
---|
เขต 1 | | |
---|
เขต 2 | |
---|
เขต 3 | |
---|
เขต 4 | |
---|
เขต 5 | |
---|
เขต 6 | |
---|
เขต 7 | |
---|
เขต 8 | |
---|
เขต 9 | |
---|
เขต 10 | |
---|