นครนายก เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง (บางหน่วยงานจัดให้อยู่ในภาคตะวันออก) ของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นครั้งล่าสุดโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนครนายก พุทธศักราช 2489 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489
ประวัติศาสตร์
สันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองสมัยทวารวดี มีหลักฐานแนวกำแพงเนินดินและสันคูอยู่ที่ตำบลดงละคร แต่นครนายกนั้นปรากฏหลักฐานในสมัยอยุธยาเป็นเมืองหน้าด่านทางทิศตะวันออกในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2437 รัชกาลที่ 5 ทรงจัดลักษณะการปกครองโดยแบ่งเป็นมณฑล นครนายกได้เข้าไปอยู่ในเขตมณฑลปราจีนบุรีจนเมื่อปี พ.ศ. 2445 ทรงเลิกธรรมเนียมการมีเจ้าครองเมืองและให้มีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นแทน ในช่วง พ.ศ. 2486-2489 นครนายกได้โอนไปรวมกับจังหวัดปราจีนบุรีและสระบุรี หลังจากนั้นจึงแยกเป็นจังหวัดอิสระ
ในเอกสารโบราณ
จังหวัดนครนายก ระหว่างปี พ.ศ. 2382 - 2387 ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวต่างประเทศคือ บาทหลวงปาเลอกัวซ์ และ ดาเวนพอร์ท เดินทางมาถึงเมืองนครนายก และได้บันทึกว่า เมืองนครนายกมีพลเมืองประมาณ 5,000 คน ส่วนมากเป็นชาวลาว และมีชาวสยามอยู่ด้วย ราษฎรประกอบอาชีพในการปลูกข้าวและหาของป่าส่งไปขายที่กรุงเทพ.
ที่มาของชื่อ
ที่มาของชื่อนครนายกนั้นไม่ชัดเจนทางประวัติศาสตร์ แนวคิดหลักของที่มาของชื่อมีดังนี้
- จังหวัดนครนายกเดิมชื่อบ้านนาแต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัดนครนายก ในสมัยกรุงศรีอยุธยาดินแดนของนครนายกเป็นป่ารกชัฏ เป็นที่ดอนทำนา หรือทำการเพาะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผล มีไข้ป่าชุกชุมผู้คนจึงพากันอพยพไปอยู่ที่อื่นจนกลายเป็นเมืองร้าง ต่อมาพระมหากษัตริย์ทรงทราบความเดือดร้อนของชาวเมืองจึงโปรดให้ยกเลิกภาษีค่านา เพื่อจูงใจให้ชาวเมืองอยู่ที่เดิมทำให้มีคนอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้นจนเป็นชุมชนใหญ่ และเรียกเมืองนี้จนติดปากว่า เมืองนา-ยก ภายหลังจึงกลายเป็นนครนายกจนทุกวันนี้ [3]
- สมัยก่อนรัชกาลที่ 5 การปกครองส่วนภูมิภาคถูกแบ่งเป็นสมุหนายกและสมุหกลาโหม โดยสมุหกลาโหมปกครองทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารในหัวเมืองด้านใต้ และสมุหนายกปกครองทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารในหัวเมืองด้านเหนือ พื้นที่เดิมของจังหวัดนครนายกนั้นเป็นพื้นที่ที่เคยอยู่สังกัดกับสมุหกลาโหมแต่ภายหลังถูกโอนให้อยู่ภายใต้การดูแลของสมุหนายก พื้นที่ตรงนี้จึงได้ชื่อว่านครนายกนับแต่นั้นเป็นต้นมา [3]
ภูมิศาสตร์
จังหวัดนี้ตั้งอยู่ที่ละติจูดที่ 14 องศาเหนือ และลองจิจูดที่ 101 องศาตะวันออก มีระยะทางจากจากกรุงเทพมหานครตามถนนรังสิต-นครนายก (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305) ผ่านอำเภอองครักษ์ถึงจังหวัดนครนายก ระยะทาง 105 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 2,122 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 1,326,250 ไร่
สภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบ ทางตอนเหนือและตะวันออกเป็นภูเขาสูงชันในเขตอำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับอีก 3 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี นครราชสีมา และปราจีนบุรี ซึ่งมีเทือกเขาติดต่อกับทิวเขาดงพญาเย็น มียอดเขาสูงที่สุดของจังหวัดคือ ยอดเขาเขียวมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,351 เมตร ส่วนทางตอนกลางและตอนใต้เป็นที่ราบอันกว้างใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของที่ราบสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่เรียกว่า "ที่ราบกรุงเทพฯ"
ลักษณะดินเป็นดินปนทรายและดินเหนียวเหมาะแก่การ ทำนา ทำสวนผลไม้ และการอยู่อาศัย
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
-
ธงประจำจังหวัดนครนายก
-
ตราประจำจังหวัดนครนายก
-
ต้นสุพรรณิการ์และดอกสุพรรณิการ์ ต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัด
-
ปลาตะเพียนทอง สัตว์น้ำประจำจังหวัด
การเมืองการปกครอง
หน่วยการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
การปกครองส่วนภูมิภาคของจังหวัดนครนายกแบ่งออกเป็น 4 อำเภอ 41 ตำบล 403 หมู่บ้าน
ข้อมูลอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครนายก
การปกครองส่วนท้องถิ่น
จังหวัดนครนายกมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 46 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก, เทศบาลเมือง 1 แห่ง คือ เทศบาลเมืองนครนายก, เทศบาลตำบล 5 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 39 แห่ง[4] โดยรายชื่อเทศบาลทั้งหมดในจังหวัดนครนายกมีดังนี้
ทำเนียบผู้ว่าราชการจังหวัด
ลำดับ
|
ชื่อ
|
เริ่มดำรงตำแหน่ง
|
ออกจากตำแหน่ง
|
1
|
พระพิบูลย์สงคราม (จอน)
|
1 กุมภาพันธ์ 2445
|
13 กรกฎาคม 2449
|
2
|
พระกรุงศรีบริรักษ์ (สุ่ม)
|
13 กรกฎาคม 2449
|
23 กุมภาพันธ์ 2450
|
3
|
พระพนมสารนรินทร์ (กลึง)
|
23 กุมภาพันธ์ 2450
|
11 มกราคม 2451
|
4
|
พระเสนานิคมพินิจ (ม.ร.ว. ชุบ นพวงศ์)
|
15 มีนาคม 2451
|
14 กรกฎาคม 2458
|
5
|
พระยานายกรชนวิมลภักดี (เจริญ ปริยานนท์)
|
14 กรกฎาคม 2458
|
5 พฤษภาคม 2470
|
6
|
พระศรีนครคาม (ทอง สุทธพินทุ)
|
5 พฤษภาคม 2470
|
16 กรกฎาคม 2471
|
7
|
หม่อมเจ้าธงไชยสิริพันธ์ ศรีธวัช
|
13 สิงหาคม 2471
|
28 กุมภาพันธ์ 2476
|
8
|
หลวงศรีนรานุบาล (สมุทร สาขากร)
|
5 มีนาคม 2476
|
30 เมษายน 2478
|
9
|
หลวงบรรณสารประสิทธิ์ (สิทธิ โรจนวิภาต)
|
13 พฤษภาคม 2478
|
1 สิงหาคม 2481
|
10
|
หลวงวิโรจน์รัฐกิจ (เปรื่อง โรจนกุล)
|
6 สิงหาคม 2481
|
1 พฤษภาคม 2482
|
11
|
หลวงภูวนาทนรานุบาล (สนิท มหามุสิก)
|
5 พฤษภาคม 2482
|
16 พฤศจิกายน 2482
|
12
|
ขุนธรรมรัฐธุราทร (โกมล โรจน์สุนทร)
|
16 พฤศจิกายน 2482
|
1 พฤษภาคม 2484
|
13
|
ขุนไมตรีประชารักษ์ (กิมเซ็ง วัลยกุล)
|
5 พฤษภาคม 2484
|
31 ธันวาคม 2485
|
14
|
นายชุณห์ นกแก้ว
|
1 พฤศจิกายน 2489
|
1 กันยายน 2490
|
15
|
ขุนวรคุตคณารักษ์ (บุญฤทธิ์ วรคุตตานนท์)
|
2 กันยายน 2490
|
1 มกราคม 2491
|
16
|
ขุนสนิทประชากร (สนิท สนิทประชากร)
|
2 มกราคม 2491
|
8 มิถุนายน 2496
|
17
|
นายนวน มีชำนาญ
|
10 มิถุนายน 2496
|
21 กรกฎาคม 2497
|
18
|
นายประพนธ์ ณ พัทลุง
|
22 กรกฎาคม 2497
|
26 เมษายน 2498
|
19
|
นายชูสง่า ฤทธิประศาสน์ (ไชยพันธุ์)
|
27 เมษายน 2498
|
8 ตุลาคม 2502
|
20
|
นายแสวง รุจิรัต
|
9 ตุลาคม 2502
|
30 มิถุนายน 2503
|
21
|
นายประทวน อรรถโกวิท
|
กรกฎาคม 2503
|
30 กันยายน 2510
|
22
|
นายอนันต์ พยัคฆันตร์
|
1 ตุลาคม 2510
|
16 พฤศจิกายน 2510
|
23
|
นายสมอาจ กุยยกานนท์
|
16 ธันวาคม 2510
|
30 กันยายน 2515
|
24
|
นายจำรูญ ปิยัมปตระ
|
1 ตุลาคม 2515
|
1 มกราคม 2519
|
|
ลำดับ
|
ชื่อ
|
เริ่มดำรงตำแหน่ง
|
ออกจากตำแหน่ง
|
25
|
นายเมธี ส.ศรีสุภาพ
|
1 มกราคม 2519
|
30 กันยายน 2521
|
26
|
นายสนิท รุจิณรง
|
1 ตุลาคม 2521
|
30 กันยายน 2523
|
27
|
นายกริช เกตุแก้ว
|
1 ตุลาคม 2523
|
30 กันยายน 2525
|
28
|
นายธานี โรจนาลักษณ์
|
1 ตุลาคม 2525
|
30 กันยายน 2527
|
29
|
นายปัญญา ฤกษ์อุไร
|
1 ตุลาคม 2527
|
30 กันยายน 2531
|
30
|
นายสุชาญ พงษ์เหนือ
|
1 ตุลาคม 2531
|
30 กันยายน 2532
|
31
|
ร้อยตรีพูลศักดิ์ สัตยานุรักษ์
|
1 ตุลาคม 2532
|
15 มิถุนายน 2534
|
32
|
นายประกิต เทพชนะ
|
16 มิถุนายน 2534
|
25 มกราคม 2536
|
33
|
คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช
|
26 มกราคม 2536
|
5 มิถุนายน 2541
|
34
|
ดร.พีรพล ไตรทศาวิทย์
|
6 มิถุนายน 2541
|
30 กันยายน 2542
|
35
|
นายประกิต กันยาบาล
|
1 ตุลาคม 2542
|
30 กันยายน 2544
|
36
|
นายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์
|
1 ตุลาคม 2544
|
30 กันยายน 2547
|
37
|
นายรัชทิน ศยามานนท์
|
1 ตุลาคม 2547
|
30 กันยายน 2548
|
38
|
นายปานชัย บวรรัตนปราณ
|
1 ตุลาคม 2548
|
12 พฤศจิกายน 2549
|
39
|
นายเจตน์ ธนวัฒน์
|
13 พฤศจิกายน 2549
|
6 พฤษภาคม 2551
|
40
|
นายไพรัตน์ สกลพันธุ์
|
6 พฤษภาคม 2551
|
15 มีนาคม 2552
|
41
|
นายปรีชา กมลบุตร
|
16 มีนาคม 2552
|
30 กันยายน 2553
|
42
|
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ
|
1 ตุลาคม 2553
|
13 มกราคม 2555
|
43
|
ดร.สุรชัย ศรีสารคาม
|
23 กุมภาพันธ์ 2555
|
18 ตุลาคม 2556
|
44
|
ดร.ทวี นริสศิริกุล
|
30 ตุลาคม 2556
|
30 กันยายน 2558
|
45
|
ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์
|
1 ตุลาคม 2558
|
30 กันยายน 2559
|
46
|
ดร.ประดิษฐ์ ยมานันท์
|
1 ตุลาคม 2559
|
30 กันยายน 2560
|
47
|
นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ
|
1 ตุลาคม 2560
|
30 กันยายน 2563
|
48
|
นายอำพล อังคภากรณ์กุล
|
1 ตุลาคม 2563
|
30 กันยายน 2565
|
49
|
นายบัญชา เชาวรินทร์
|
2 ธันวาคม 2565
|
30 กันยายน 2566
|
50
|
นายสุภกิณห์ แวงชิน
|
1 ตุลาคม 2566
|
30 กันยายน 2567
|
51
|
นายชานน วาสิกศิริ
|
26 ธันวาคม 2567
|
ปัจจุบัน
|
|
การศึกษา
ในจังหวัดนครนายก มีสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ได้แก่
บุคคลที่มีชื่อเสียง
- พระสงฆ์ พระภิกษุ
- นักการเมือง
จังหวัดนครนายกมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนแรก คือ พระยาวิเศษสิงหนาท (หร่าย รัตนกสิกร)
- บันเทิง
- นักกีฬา
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
14°12′N 101°13′E / 14.2°N 101.22°E / 14.2; 101.22
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดนครนายก
สถานที่ใกล้เคียงกับจังหวัดนครนายก |
---|
|
|
---|
อำเภอ | | |
---|
ประวัติศาสตร์ | |
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
สังคม | การศึกษา | |
---|
สาธารณสุข | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
กีฬา | |
---|
การเมือง | |
---|
|
---|
|
|
---|
เขต 1 | | |
---|
เขต 2 | |
---|
เขต 3 | |
---|
เขต 4 | |
---|
เขต 5 | |
---|
เขต 6 | |
---|
เขต 7 | |
---|
เขต 8 | |
---|
เขต 9 | |
---|
เขต 10 | |
---|