องค์การจัดการน้ำเสีย

องค์การจัดการน้ำเสีย
ชื่อทางการค้า
อจน.
ชื่อท้องถิ่น
Wastewater Management Authority
ประเภทรัฐวิสาหกิจ
อุตสาหกรรมการบำบัดน้ำเสีย
ก่อตั้ง15 สิงหาคม พ.ศ. 2538; 29 ปีก่อน (2538-08-15)
สำนักงานใหญ่เลขที่ 333 อาคารเล้าเป้งง้วน 1 ชั้น 23 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร, ,
จำนวนที่ตั้ง
  • สำนักงานจัดการน้ำเสีย 31 แห่ง
  • ศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ 17 แห่ง
  • ระบบบำบัดน้ำเสียขนาดเล็ก 9 แห่ง
  • โรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ 1 แห่ง
พื้นที่ให้บริการประเทศไทย
บุคลากรหลัก
บริการ
  • จัดระบบบำบัดน้ำเสีย
  • วิเคราะห์คุณภาพน้ำ
  • การก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย
  • ควบคุมการเดินระบบบำบัดน้ำเสีย
รายได้เพิ่มขึ้น 346,113.36 ล้านบาท
(พ.ศ. 2566)[1]
รายได้จากการดำเนินงาน
เพิ่มขึ้น 69,174.91 ล้านบาท
(พ.ศ. 2566)[1]
รายได้สุทธิ
เพิ่มขึ้น 36,109.79 ล้านบาท
(พ.ศ. 2566)[1]
ทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้น 31,435.15 ล้านบาท
(พ.ศ. 2566)[1]
สินทรัพย์เพิ่มขึ้น 2,519,48 ล้านบาท
(พ.ศ. 2566)[1]
ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 100,349.12 ล้านบาท
(พ.ศ. 2566)[1]
เจ้าของกระทรวงการคลัง (100.00 %)
พนักงาน
117 คน (พ.ศ. 2566)[1]
บริษัทแม่กระทรวงมหาดไทย
เว็บไซต์เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
เชิงอรรถ / อ้างอิง
ข้อมูลงบประมาณ
งบประมาณ
1,943,082,000 บาท
(พ.ศ. 2568)[2]

องค์การจัดการน้ำเสีย (อังกฤษ: Wastewater Management Authority) เป็นรัฐวิสาหกิจของไทย ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย พ.ศ. 2538 เพื่อจัดระบบบำบัดน้ำเสียรวม สำหรับการบำบัดน้ำเสียภายในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร เดิมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม[3]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 จึงได้โอนมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 จึงได้เปลี่ยนแปลงมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย[4] เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจในการบำบัดน้ำเสียของชุมชนซึ่งดำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น[5]

เขตพื้นที่จัดการน้ำเสีย

องค์การจัดการน้ำเสีย ก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดระบบบำบัดน้ำเสียรวม สำหรับการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2542 ให้เพิ่มเติมพื้นที่เทศบาลตำบลแสนสุข จังหวัดชลบุรี พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และพื้นที่จังหวัดอ่างทอง เป็นพื้นที่ในเขตจัดการน้ำเสีย[6]

ในปี พ.ศ. 2545 ได้มีการกำหนดพื้นที่จัดการน้ำเสียเพิ่มเติมอีก 9 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองศรีราชา เทศบาลเมืองสกลนคร เทศบาลเมืองเพชรบุรี เทศบาลเมืองชุมแสง เทศบาลตำบลหัวหิน เทศบาลตำบลบ้านเพ เทศบาลตำบลป่าตอง เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และเมืองพัทยา เป็นเขตจัดการน้ำเสีย[7]

การดำเนินการ

องค์การจัดการน้ำเสีย มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดระบบบำบัดน้ำเสียรวม[8] ในเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียตามพระราชกฤษฎีกา และที่ประกาศเพิ่มเติม ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 องค์การจัดการน้ำเสีย ได้เริ่มต้นการให้บริการเชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้เข้าสู่องค์กร ควบคู่กับการให้บริการเชิงสังคม เพื่อลดภาระด้านงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ โดยมีการให้บริการเชิงพาณิชย์ 4 กิจการ คือ

  1. รับจ้างบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย
  2. รับจ้างบริหารจัดการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ
  3. รับจ้าง ศึกษา ออกแบบ สำรวจ ปรับปรุง และก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย
  4. รับจ้างฝึกอบรมการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำและควบคุมการเดินระบบบำบัดน้ำเสีย

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 องค์การจัดการน้ำเสีย, รายงานประจำปี 2566 องค์การจัดการน้ำเสีย, สืบค้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2567
  2. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๙๘, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
  3. พระราชกฤษฎีจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย พ.ศ. 2538
  4. พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๑
  5. "รายงานพิเศษ : ขยายประเด็น ตอนที่ 4 "การโอนย้ายองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) ให้กระทรวงมหาดไทยบริหารจัดการ"". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-10-24. สืบค้นเมื่อ 2020-11-10.
  6. ประกาศองค์การจัดการน้ำเสีย เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียเพิ่มเติม
  7. "ประกาศองค์การจัดการน้ำเสีย เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียเพิ่มเติม" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-05-04. สืบค้นเมื่อ 2012-01-16.
  8. จัดการน้ำเสียจาก ไทยรัฐ

 

Prefix: a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

Portal di Ensiklopedia Dunia