เมืองพัทยา
เมืองพัทยา เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษแห่งหนึ่งในจำนวนสองแห่งของประเทศไทย (อีกแห่งหนึ่งคือ กรุงเทพมหานคร) ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีระดับเทียบเท่าเทศบาลนคร จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2521[1] เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีหาดทรายและชายทะเลซึ่งมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย โดยแบ่งส่วนภายในของเมืองเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน มีรหัสมาตรฐานไอเอสโอ 3166-2 คือ TH-S ปัจจุบัน มีแผนการเสนอชื่อเมืองพัทยาต่อยูเนสโกให้เป็นเมืองภาพยนตร์ เนื่องด้วยมีการถ่ายทำภาพยนตร์ไม่น้อยกว่า 300 เรื่องต่อปี และรายได้ร้อยละ 90 มาจากการท่องเที่ยว[2]ภายหลังการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา พ.ศ. 2565 ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเมืองพัทยา ประวัติเริ่มรู้จักกันจากคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เมื่อ พ.ศ. 2310 ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า 3 เดือนสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีขณะนั้นยังเป็นพระยาวชิรปราการ (เจ้าเมืองกำแพงเพชร) ลงความเห็นว่า หากกรุงศรีอยุธยายังต่อสู้กับพม่าอย่างอ่อนแอเช่นนี้ ต่อไปจะต้องสูญเสียกรุงให้พม่าอย่างแน่นอน พระเจ้าตากจึงรวบรวมสมัครพรรคพวกออกไปตั้งหลักใหม่ ให้มีกำลังทัพเข้มแข็งขึ้นค่อยกลับมากู้กรุงคืน พระยากำแพงเพชรได้เริ่มเคลื่อนทัพออกจากค่ายวัดพิชัยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ สู้พลางร่นถอยหนีการตามล่า ของทหารพม่าไปพลาง จนกระทั่งเลยเข้าแขวงเมืองชลบุรี พระยากำแพงเพชรหยุดพักทัพที่บริเวณหน้าวัดใหญ่อินทารามในปัจจุบัน แล้วเดินทัพมุ่งตรงไปยังจันทบุรี ระหว่างทางได้พักที่บ้านหนองไผ่ ตำบลนาเกลือ แขวงเมืองบางละมุง ปัจจุบันอยู่ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรพัทยา ตามพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาเล่ม 2 กล่าวเอาไว้ว่า ขณะที่ นายกลม เป็นนายชุมนุมคุมไพร่พลอยู่ที่นั่น ตั้งทัพคอยสกัดคิดจะต่อรองพระยากำแพงเพชรในตอนนั้นขึ้นช้างพลายถือปืนนกสับรางแดงพร้อม ด้วยพลทหารที่ร่วมเดินทางมาแห่ล้อมหน้าหลัง ตรงเข้าไปในระหว่างพวกพลนายกลมมาสกัดอยู่ ด้วยเดชะบารมีบันดาลให้นายกลมเกิดเกรงกลัวพระเดชานุภาพวางอาวุธสิ้น พาพรรคพวกพลเข้าร่วมกองทัพกับพระยากำแพงเพชร จากนั้นพระยากำแพงเพชรก็นำทัพไปหยุดประทับ ณ สถานที่ที่มีหนองน้ำ ครั้นรุ่งขึ้นหรือวันอังคาร แรม 6 ค่ำ เดือนยี่ นายกลมจึงนำไพร่พลหมี่นหนึ่งนำทัพไปถึง ณ ตำบลหนึ่ง และหยุดพักเสียหนึ่งคืน วันต่อมาจึงเดินทัพมาถึง นาจอมเทียนและทุ่งไก่เตี้ย สัตหีบ โดยหยุดพักแรมแห่งละคืน ต่อมาชาวบ้านก็เรียกตำบลนี้ว่า ทัพพระยา และเปลี่ยนมาเรียกใหม่ พัทธยา เนื่องจากเห็นว่าตรงบริเวณที่พระยาตากมาตั้งทัพนั้นทำเลดี และมีลมทะเลชื่อ ลมพัทธยา ซึ่งก็คือลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือในต้นฤดูฝน จึงเรียกสถานที่ แห่งนี้ว่า หมู่บ้านพัทธยา ต่อมาปัจจุบันคำว่า พัทธยา ได้เขียนใหม่เป็น พัทยา[3] อีกเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้พัทยาเป็นที่รู้จักไปทั่ว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2502 เมื่อมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ของทหารอเมริกันประมาณ 4-5 คัน บรรทุกทหารเต็มคันรถ ประมาณคันละ 100 คน จากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งที่นั่นมีฐานทัพของทหารอเมริกันอยู่ มุ่งมาสู่พัทยา และมาเช่าบ้านตากอากาศของพระยาสุนทร บริเวณตอนใต้ของหาด โดยผลัดกันมาพักผ่อนเป็นงวด งวดละสัปดาห์ จากพฤติกรรมของทหารอเมริกันเช่นนี้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นการท่องเที่ยวเมืองพัทยาตอนนี้เอง จากสภาพหมู่บ้านชายทะเลที่เงียบสงบ ก็พลันเปลี่ยนกลับกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ ตราสัญลักษณ์ประจำเมืองพัทยารูปทรงกลมสองวงซ้อนกัน หมายถึง ความเจริญรุดหน้าอย่างต่อเนื่องของเมืองพัทยา ภาพทหารโบราณขี่ม้าอยู่บนหน้าผา หมายถึง ความเป็นเอกราช (เมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเคยแวะมาพักทัพที่พัทยา ก่อนที่จะเข้าตีเมืองจันทบุรีและกลับไปกอบกู้เอกราชของชาติ) ภาพชายหาด ทะเล และ เกาะ ที่อยู่ด้านหลังคนขี่ม้านั้น หมายถึง สภาพทั่วไปของเมืองพัทยา[4] ที่ตั้งและอาณาเขตโดยมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียงดังต่อไปนี้
โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 208.10 ตารางกิโลเมตร (130,062.50 ไร่)
การเมืองการปกครองการบริหารเมืองพัทยา ประกอบด้วย สภาเมืองพัทยา และนายกเมืองพัทยา สภาเมืองพัทยาสภาเมืองพัทยา ประกอบด้วย สมาชิกจำนวน 24 คนโดยมีวาระดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเมืองพัทยา 4 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง ซึ่งเลือกตั้งโดยราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเมืองพัทยา[5]หลังการเลือกตั้งสมาชิกเสร็จแล้วประกาศผล ก็จะทำการเปิดประชุมเพื่อเลือกสมาชิกเป็นประธานสภาเมืองพัทยา 1 คน และ รองประธาน 2 คน เพื่อทำหน้าที่ดำเนินการประชุมและดำเนินกิจการอื่นตามข้อบัญญัติเมืองพัทยา[6] นายกเมืองพัทยานายกเมืองพัทยา 1 คน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเมืองพัทยา[7]ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา 4 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง แต่ภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 นายกเมืองพัทยามาจากการคัดเลือกและแต่งตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยาที่ว่างลงตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 85/2557 โดยให้มีสมาชิกสภาเมืองพัทยาจำนวน 12 คน[8] ท้องที่การปกครองท้องที่เมืองพัทยาครอบคลุมพื้นที่อำเภอบางละมุงบางส่วนจำนวน 4 ตำบล 17 หมู่บ้าน (ตามกฎหมายลักษณะปกครองท้องที่) ดังต่อไปนี้[9]
ชุมชนในเขตเมืองพัทยารายชื่อชุมชน 42 ชุมชนของเมืองพัทยา
สภาพอากาศ
สถานที่ท่องเที่ยวเมืองพัทยา เป็นพื้นที่ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน[11] พัทยาเหนือบริเวณพัทยาเหนือในอดีตเคยเป็นแหล่งชุมชนและอุตสาหกรรมมาก่อน อาชีพหลักของผู้คนแถบนี้คือ การทำประมง จึงทำให้มีบรรยากาศของความเก่าแก่หลงเหลืออยู่ บ้านเรือนโบราณ การเป็นอยู่แบบเรียบง่ายตลอดถนนสายนาเกลือ-พัทยา จนถึงบริเวณวงเวียนปลาโลมาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนเลียบชายหาดซึ่งยาวไปจนถึงพัทยาใต้ ในส่วนของพัทยาเหนือนี้แตกต่างจากบริเวณนาเกลือ โรงแรม บ้านพัก สถานบันเทิง ร้านอาหาร ถูกสร้างขึ้นมากมายริมถนนเลียบชายหาด อีกทั้งสามารถเดินเล่นไปตามทางเท้าริมถนนเลียบชายหาด ด้านติดถนนสุขุมวิทมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างเมืองจำลองพัทยา และสถานพยาบาลขนาดใหญ่ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย พัทยาเหนือมีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น ทิฟฟานี่โชว์ อัลคาร์ซ่าคาบาเร่ต์ พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมี (Teddy Bear Museum Pattaya) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้ออาหารทะเลสด ๆ และแปลก ๆ สามารถหาซื้อได้ที่ตลาดนาเกลือ และนอกจากนี้ย่านตลาดนาเกลือยังได้รับการจัดให้เป็นย่านชุมชนโบราณอีกด้วย พัทยากลางพัทยากลางนั้นโรงแรมส่วนมากจะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่จะได้พบกับบาร์เบียร์ ร้านขายเสื้อผ้า และบาร์อะโกโก้มากมาย บริเวณถนนเลียบชายหาดมีสถานีตำรวจพัทยาและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงห้างสรรพสินค้า พัทยาใต้พัทยาใต้โค้งมากจากถนนเลียบชายหาด แถบนี้ถูกเรียกว่า ถนนคนเดินพัทยา เขตเดินเท้าบริเวณนี้มีร้านค้าเล็ก ๆ มากมาย ซึ่งบริการ ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายเครื่องกีฬา ร้านขายเครื่องประดับ และร้านขายของที่ระลึก ที่นี่ยังมีบาร์มากมาย และยังมีร้านอาหารทะเล ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างยื่นลงไปในทะเลเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหาร พัทยาใต้นั้นดูวุ่นวายกว่าส่วนอื่น ๆ ของเมืองพัทยา ถนนอัฐจินดา สัญลักษณ์ของเขตแดนเมืองพัทยาใต้ เมื่อเดินไปตามซอยเล็ก ๆ ซึ่งจะนำทางสู่ถนนพระตำหนักซึ่งเป็นด้านหลังของพัทยาและนำไปสู่ ถนนพัทยาสายสอง หาดจอมเทียนหาดจอมเทียน มีความยาว 6 กิโลเมตร โดยหาดจะถูกแบ่งจากส่วนอื่น ๆ ของเมืองพัทยาด้วยเนินเขาด้านหลังของพัทยาใต้ เมื่อขับรถผ่านเนินเขาและพระพุทธรูปใหญ่ก็จะลงมาสู่หาด ชายหาดนี้เป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมของกีฬาทางน้ำ เนื่องจากพื้นที่แถวนี้มีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งถูกพัดมาจากอ่าวไทย และทะเลที่หาดนี้ยังมีความคับคั่งของเรือน้อยกว่าที่อ่าวพัทยา นอกจากนี้หาดจอมเทียนยังเป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจโดยการอาบแดด นอกจากนี้หาดจอมเทียนยังมีทางเล็ก ๆ ซึ่งมีแหล่งจับจ่ายใช้สอย บาร์เบียร์ และยังมีโรงแรมที่มีหาดส่วนตัว บังกะโลคอมเพล็กซ์ คอนโดมิเนียม และร้านอาหาร เกาะล้านเกาะล้าน อยู่ห่างชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากร่มชูชีพ เรือสกี สกู๊ดเตอร์ โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้าน และเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เช่น เกาะครก และเกาะสากเป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น และเป็นสถานที่ฝึกหัดเรียนดำน้ำ[12] เกาะครกเกาะครกเป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในพื้นที่ทะเลของพัทยา อยู่ห่างจากฝั่งพัทยาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 8 กิโลเมตร เกาะครกมีสถานพักตากอากาศของเอกชน สภาพโดยรอบเกาะเป็นโขดหิน มีหาดทรายอยู่เพียงหาดเดียว อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ คือ หาดเกาะครก ซึ่งมีความยาวของหาด 100 เมตรเศษ เกาะสากเกาะสากเป็นเกาะขนาดเล็ก ห่างจากเกาะล้านไปทางทิศเหนือประมาณ 600 เมตร รูปร่างโค้งเป็นรูปเกือกม้าหงาย มีหาดทราย 2 หาดทางทิศเหนือและใต้ของเกาะ และมีแนวปะการัง บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว[13] หมู่เกาะไผ่หมู่เกาะไผ่จะประกอบด้วย เกาะเหลื่อม เกาะหูช้าง เกาะกลึงบาดาล เกาะมารวิชัย โดยเกาะเหล่าจะตั้งตัวเรียงกันเป็นหมู่เกาะของทะเลพัทยา โดยมีเกาะไผ่ใหญ่ที่สุด เกาะไผ่อยู่ห่างจากชายฝั่งของเมืองพัทยา ประมาณ 23 กิโลเมตร และมีระยะทางที่ห่างจากเกาะล้านประมาณ 9.5 กิโลเมตร หมู่เกาะไผ่ในปัจจุบันทางกองทัพเรือเป็นผู้ดูแลและพัฒนา และอนุญาตให้บุคคลหรือนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวพักผ่อนได้ โดยจะต้องรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด สวนนงนุชสวนนงนุช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ ภายในมีสวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ สวนไม้พุ่ม ไม้ดัด สวนหิน สวนสัตว์ สวนผีเสื้อ สวนอิตาเลียน สวนฝรั่งเศส และอื่น ๆ อีกมากมาย สวนน้ำในเมืองพัทยา
สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ
การเดินทาง
งานและเทศกาลเทศกาลดนตรีพัทยาเป็นเทศกาลดนตรีประจำปีที่จัดขึ้นที่พัทยา โดยเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2545 ลักษณะตัวงานจะจัดในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี มีการแสดงของกลุ่มนักร้อง นักดนตรี ทั้งไทยและต่างประเทศ งานประเพณีวันไหลพัทยาหรือวันไหลพัทยา เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมของชาวเมืองพัทยา ถือว่าเป็นเป็นประเพณีเชื่อมโยงและเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีสงกรานต์ เทศกาลวันไหลพัทยานั้นจะนิยมจัดขึ้นในช่วง วันที่ 19 เมษายน ของทุกปี จะเริ่มเล่นสาดน้ำกันประมาณวันที่ 16 หรือ 17-18-19 เมษายน เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา (Pattaya International Fireworks Festival) จัดประจำทุกปีช่วงเดือนพฤษจิกายน บริเวณชายหาดพัทยากลาง[15] มีการแสดงพลุจากนานาชาติที่จุดกลางอ่าวพัทยา ดูเพิ่มอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia