ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน: ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน: ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン ゼロの執行人; โรมาจิ: Meitantei Conan: Zero no Shikkōnin; อังกฤษ: Detective Conan: Zero the Enforcer) เป็น ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเดอะมูฟวี่อันดับที่ 22 ต่อจาก โดยมี ฟุรุยะ เรย์ หรืออามุโร โทรุ เป็นตัวละครหลักสำคัญ กำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561[1] เข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เฉพาะโรงภาพยนตร์ในเครือ SF Cinema ตัวละครสำคัญตัวละครหลัก
ยอดนักสืบวัยประถมที่ตัวตนที่แท้จริงคือ นักเรียนชั้นมัธยมปลาย คุโด้ ชินอิจิ ที่ถูกองค์กรชายชุดดำจับกรอกยาพิษจนตัวหดเล็กลง เขาต้องเผชิญหน้ากับ อามุโร่ โทรุ ที่มีแผนการจับกุมโมริ โคโกโร่ จากเหตุการณ์ระเบิด
นักเรียนชั้นมัธยมปลายสาวผู้มากความสามารถในด้านคาราเต้ เธอต้องร่วมมือกับแม่ของตนในการช่วยเหลือโมริ โคโกโร่ จากการถูกจับกุม โดยขอความช่วยเหลือจากคุโด้ ชินอิจิ เพื่อนชายคนสนิทตั้งแต่เด็ก
นักเรียนชั้นมัธยมปลายผู้มีความสามารถในการไขคดีต่าง ๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน ก่อนจะต้องกลายมาเป็นโคนัน เขาเป็นห่วงทั้งรัน คนที่เขามีความรู้สึกพิเศษ จึงพร้อมช่วยเหลือในการล้างมลทินให้โมริ โคโกโร่
เป็นคนของสายงานตำรวจลับในญี่ปุ่นที่แทรกซึมเข้าไปในองค์กรชุดดำ ฉายา เบอร์เบิ้น ซึ่งมีสายตาหลักแหลม สังเกตการณ์ได้ดี เขาเคยมีเรื่องบาดหมางบางอย่างกับอากาอิ ชูอิจิ ปัจจุบันทำงานที่ร้านปัวร์โร และเขาเป็นคนขององค์กรตำรวจความมั่นคงแห่งชาติ นามแฝง คือ ซีโร่ แต่เขาตั้งตัวเป็นศัตรูกับ โคนัน เพื่อจับกุม โมริ โคโกโร่ จึงได้ชื่อว่า "สายลับสามหน้า"
อดีตตำรวจที่ลาออกมาทำงานเป็น นักสืบเอกชน พ่อของ โมริ รัน ที่ต้องมาเป็นผู้ปกครองให้กับ โคนัน และ คอยเป็นหุ่นเชิดสืบคดีต่าง ๆ ของโคนัน จนได้ชื่อเป็น โคโกโร่นิทรา เขาต้องตกที่นั่งลำบากเมื่อถูกจับกุมข้อหาก่อการร้ายที่หลักฐานทุกอย่างพุ่งตรงมาที่เขา
ทนายความสาว ภรรยาของโมริ โคโกโร่ ที่แยกกันอยู่จากเหตุการณ์ใน ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน: คดีฆาตกรรมไพ่ปริศนา แม้จะไม่ชอบนิสัยแย่ ๆ หลายอย่างของโคโกโร่ อย่างขี้เมาและเจ้าชู้ แต่ลึก ๆ ยังคงรักและห่วงใยโคโกโร่ เหมือนกับแมวที่เธอเลี้ยงและตั้งชื่อตามอย่าง โกโร่ และครั้งนี้เธอพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยสามีร่วมกับลูกสาวอย่าง โมริ รัน
ตัวตนที่แท้จริง คือ มิยาโนะ ชิโฮะ หรือโค้ดเนม "เชอร์รี่" เธอตัดสินใจทรยศองค์กรโดยการกินยาแบบเดียวกับที่โคนันถูกจับกรอกให้ตัวหดเล็กลง เธอคอยทำหน้าที่ช่วยเหลือในการสืบสวนของโคนัน เธอมีความรู้สึกบางอย่างกับเขาแต่ต้องเก็บซ่อนไว้ เธอคอยช่วยโคนันในการหาเบาะแสของคดี
ตำรวจกองความมั่นคงสาธารณะ อยู่ใต้บังคับบัญชาของฟุรุยะ เรย์ ปรากฏตัวอีกครั้งหลังจาก ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน: ปริศนารัตติกาลทมิฬ เขาพร้อมทำงานทุกอย่าง แม้แต่ต้องบาดหมางกับพวกโคนันก็ตาม มองว่าเรย์ เป็นคนที่น่ากลัว
หนึ่งในสมาชิกของขบวนการนักสืบเยาวชน เธอแอบชอบโคนันเพราะเห็นว่าเขาคอยช่วยเหลือเธอในยามลำบากอยู่เสมอ มาครั้งนี้เธอร่วมมือกับเพื่อน ๆ ในการปกป้องประเทศญี่ปุ่น
สมาชิกของขบวนการนักสืบเยาวชน ชื่นชอบการสืบสวน และชอบแย่งซีนสืบสวนแทนโคนันอยู่เรื่อย ทำให้เกิดปัญหาอยู่หลายครั้ง แต่ครั้งนี้เขาร่วมมือกับเพื่อน ๆ ในการปกป้องประเทศญี่ปุ่น
หัวหน้าของขบวนการนักสืบเยาวชน และชอบกินข้าวหน้าปลาไหล เขาชอบคุกคามโคนัน แต่ก็รักเพื่อนทุกคน เขาร่วมมือกับเพื่อน ๆ ในการปกป้องประเทศญี่ปุ่น
ผู้กำกับในกรมตำรวจนครบาลโตเกียว เคยประสบอุบัติเหตุจนทำให้โคม่าเป็นเวลา 10 ปี รวมทั้งสูญเสียตาข้างขวา เขามีความลับอะไรบางอย่างปิดบัง และมีท่าทีว่าจะรู้จักเรย์เป็นอย่างดี
ผู้หมวดหนุ่มของกรมตำรวจ คนรักของหมวดซาโต้ เป็นคนที่จริงใจ และเป็นคนซื่อ เขามักจะใช้การวิเคราะห์ของโคนันช่วยในการตัดสินคดีเสมอ เป็นคนจิตใจดีคนหนึ่ง เขาเป็นหนึ่งในตำรวจที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินให้สั่งฟ้องโมริ โคโกโร่
ตำรวจสาวแห่งกรมตำรวจญี่ปุ่น เป็นที่เนื้อหอมในหมู่ตำรวจหนุ่มๆทั้งหลาย แต่เธอก็ไม่เคยสนใจใคร เพราะเคยมีอดีตที่เจ็บช้ำจากการสูญเสียคนรัก จนกระทั่งรู้จักกับ ทาคางิ วาตารุ ที่ทำให้เธอเปิดหัวใจอีกครั้ง มิวาโกะค่อนข้างทึ่งในความสามารถของโคนันและรับฟังการวิเคราะห์คดีของเขาเสมอ เธอเป็นหนึ่งในตำรวจที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินให้สั่งฟ้องโมริ โคโกโร่
สารวัตรแผนกสืบสวนกรมตำรวจ เขาเคยเป็นผู้บังคับบัญชาของ โมริ โคโกโร่ สมัยยังเป็นตำรวจอยู่ และต้องคอยทำคดีร่วมกับโคนัน เขาเป็นหนึ่งในตำรวจที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินให้สั่งฟ้องโมริ โคโกโร่
สารวัตรหนุ่มที่ตอนแรกมาเป็นศัตรูหัวใจทาคางิ ค่อนข้างฉลาด เวลาโคนันช่วยใบ้ให้แล้วเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน รักอยู่กับคุณครู โคบายาชิ ซึมิโกะ ซึ่งเป็นครูประจำห้องของพวกกลุ่มโคนัน และรักแรกในสมัยประถมของเขาเอง
เพื่อนตำรวจด้วยกันกับหมวดทาคางิ วาตารุ เคยเรียนอยู่ที่ โรงเรียนประถมเทตัน ตอนนี้รักกับ มิอิเกะ นาเอโกะ เพื่อนในห้องเดียวกันสมัยเด็กที่ต่อมาได้เป็นตำรวจจราจร
ผู้กำกับการอาวุโสกองสืบสวนคดีอาชญากรรมแห่งกรมตำรวจนครบาลคนปัจจุบัน ปรากฏตัวครั้งแรกในเดอะมูฟวี่ ภาค 4 และมียศสูงกว่าผู้กำกับมัสสึโมโตะ คิโยนางะอีกด้วย
เลขาประจำสำนักงานทนายความคิซากิ และเป็นคนสนิทของคิซากิ เอริ
พนักงานประจำร้านปัวโร่ต์ที่อยู่ชั้นล่างของสำนักงานนักสืบโมริ เธอสนิทสนมกับอามุโร่ โดยที่ไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริง และพยายามรักษาระยะห่างเพราะกลัวจะโดนแฟน ๆ ของเขารุมด่า ตัวละครรับเชิญ
ทนายความสาวอิสระ เคยว่าความว่าแล้วหลายคดี แต่ไม่เคยชนะสักครั้ง เธอมาเพื่อช่วยว่าความให้กับโมริ โคโกโร่ เธอเต็มไปด้วยอดีตที่ปิดบังไว้มากมาย เธอเป็นลูกสาวภรรยาคนแรกของ ทาจิบานะ เคียวซึเกะ เหยื่อในคดีฆาตกรรมตอน เบย์ออฟเดอะรีเวนจ์
ผู้ช่วยเก่าของเคียวโกะ ผู้ทะเยอทะยานที่ถูกจับกุมในข้อหาเรื่องความมั่นคง จนต้องฆ่าตัวตายในคุก ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
อัยการของกรมตำรวจนครบาลญี่ปุ่น ผู้ที่ต้องทำคดีของโมริ โคโกโร่ คอยทำงานรับใช้หัวหน้าอย่าง ซายาโกะ
หัวหน้าฝ่ายอัยการหญิงของกรมตำรวจนครบาลญี่ปุ่น ผู้สั่งฟ้องโมริ โคโกโร่ในคดีที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อ เพียงเพราะหลักฐานชี้ไปที่เขา การตอบรับ![]() ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน: ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ ทำรายได้ 12.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการรับชม 1.012 ล้านครั้ง และรั้งอันดับที่ 1 ของภาพยนตร์ทำเงินในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว และเมื่อสิ้นสุดการฉาย ภาพยนตร์ทำรายได้ถึง 9.18 พันล้านเยน[3] กลายเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับที่ 9 และมากสุดในบรรดาภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน แซงหน้าภาคที่แล้วอย่าง ปริศนาเพลงกลอนซ่อนรัก ที่ทำรายได้ 6.87 พันล้านเยนในปี 2017[4] อย่างไรก็ตาม สถิตินี้ได้ถูกทำลายลงโดยภาพยนตร์ภาคถัดไปอย่าง ศึกชิงอัญมณีสีคราม ในต่างประเทศ ภาพยนตร์ทำรายได้ 127,365,000 หยวนในจีน,[5] 3,207,824,361 วอนในเกาหลีใต้,[6] 149 ล้านเยนในไต้หวัน,[7] 63,401 ดอลลาร์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,[8] และ $75,161 ดอลลาร์ในสเปน[9] รวมทั้งหมดแล้ว ภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกทั้งสิ้น 108.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] ภาพยนตร์ถูกซื้อลิขสิทธิ์ในฉบับภาษาอังกฤษโดย แบงซูม! เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กลายเป็นภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเรื่องแรกที่ถูกซื้อลิขสิทธิ์ภาษาอังกฤษ ต่อจาก ปริศนาบนถนนสายมรณะ เมื่อปี 2010[10] ภาพยนตร์ได้ฉายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พร้อมคำบรรยายภาษาอาหรับ[11] ต่อมาได้ฉายในอเมริกาในงานอนิเมะเอ็กซ์โป 2019 ด้วยระบบ 4DX[12] ฉบับลิขสิทธิ์ใช้ชื่อตัวละครเป็นภาษาญี่ปุ่น แทนที่ภาษาอังกฤษที่เคยใช้มาก่อน เพลงประกอบ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia