ชาดา ไทยเศรษฐ์

ชาดา ไทยเศรษฐ์
ชาดา ใน พ.ศ. 2566
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ดำรงตำแหน่ง
1 กันยายน พ.ศ. 2566 – 3 กันยายน พ.ศ. 2567[a]
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน
รัฐมนตรีว่าการอนุทิน ชาญวีรกูล
ก่อนหน้านริศ ขำนุรักษ์
ถัดไปซาบีดา ไทยเศรษฐ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี
เริ่มดำรงตำแหน่ง
23 ธันวาคม พ.ศ. 2550[b]
ก่อนหน้าธีรพันธ์ ธีรยุทธวัฒนะ
เขตเลือกตั้ง
  • เขต 1 (2550 – 2554)
  • เขต 2 (2554 – ปัจจุบัน)
รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ดำรงตำแหน่ง
2 ตุลาคม พ.ศ. 2561 – 24 มีนาคม พ.ศ. 2567[c]
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด7 มิถุนายน พ.ศ. 2504 (63 ปี)
อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย
ศาสนาอิสลาม
พรรคการเมืองภูมิใจไทย (2561–ปัจจุบัน)
การเข้าร่วม
พรรคการเมืองอื่น
ชาติไทย (2531–2551)
ชาติไทยพัฒนา (2552–2561)
คู่สมรสเตือนจิตรา แสงไกร (หย่า)
อัจฉรา ทองเทพ (หย่า)
บุตร7
บุพการี
  • เดชา ไทยเศรษฐ์ (บิดา)
  • ปาลี้ ไทยเศรษฐ์ (มารดา)
ญาติมนัญญา ไทยเศรษฐ์ (น้องสาว)
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
อาชีพนักการเมือง
ทรัพย์สินสุทธิ141 ล้านบาท
(พ.ศ. 2568)[1]
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ไทย
สังกัด กองอาสารักษาดินแดน
ประจำการพ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2567
ยศ นายกองเอก
บังคับบัญชากองอาสารักษาดินแดน

ชาดา ไทยเศรษฐ์ ม.ป.ช., ม.ว.ม. (เกิด 7 มิถุนายน พ.ศ. 2504) เป็นนักการเมืองชาวไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี เขต 2 อดีตรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และอดีตนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี

ประวัติ

ชาดา เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2504 ในครอบครัวมุสลิมปาทาน เป็นบุตรของเดชา กับปาลี้ ไทยเศรษฐ์[2] พี่ชายชื่อ ชัยยศ ไทยเศรษฐ์ และน้องสาวชื่อ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์[2] บิดาถูกลอบสังหารในปี พ.ศ. 2511 ตั้งแต่เขาอายุ 7 ขวบ อีกเจ็ดปีต่อมา พ.ศ. 2518 มารดาถูกลอบสังหาร และในอีก 8 เดือนถัดมา พี่ชายก็เสียชีวิตด้วยสาเหตุการลอบสังหารเช่นเดียวกัน[3]

เขาสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับปริญญาโทสาขาเดียวกัน

ในช่วงวัยรุ่น ชาดาเคยประสบอุบัติเหตุ ทำให้กระดูกคอมีปัญหา[4] ต้องพบแพทย์เพื่อฉีดยาระงับอาการป่วยซึ่งกำเริบเป็นระยะ[5]

เขาเคยสมรสกับเตือนจิตรา แสงไกร และอัจฉรา ทองเทพ มีบุตรชายและบุตรสาวทั้งหมด 7 คน เป็นบุตรในสมรส 4 คน และเป็นบุตรนอกสมรสที่รับรองแล้วอีก 3 คน[2]

การทำงาน

ชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลของจังหวัดอุทัยธานี[5] เริ่มเข้าสู่การเมืองในปี พ.ศ. 2535 โดยลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุทัยธานี และได้รับการเลือกตั้ง สามปีต่อมาเขาได้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี[6] และในปี พ.ศ. 2543 เข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคถิ่นไทย[7] และในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี สังกัดพรรคชาติไทย และได้รับเลือกตั้งอีกสมัยในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา

ในระหว่างดำรงตำแหน่งสภาผู้แทนราษฎร ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์สภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการงบประมาณ

หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจการปกครองในปี พ.ศ. 2557 เขาถูกจับตามองจาก คสช.[8] และเคยถูกเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช. ตรวจค้นบ้านของเขาในปี พ.ศ. 2560[9]

ในปี พ.ศ. 2561 เขาย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานีในการเลือกตั้งปีถัดมา

จากนั้นในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. อีกสมัย และได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน[10] ต่อมาเขาได้รับมอบหมายจากอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นผู้คัดกรองบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งในส่วนท้องถิ่นและปราบปรามผู้มีอิทธิพล[11]

โดยเขาได้กำหนดนโยบายให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ บูรณาการการปฎิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลไปในทิศทางเดียวกัน[12]

ผลงานที่โดดเด่นของเขาคือการปราบปรามผู้มีอิทธิพลอันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการกวาดล้างแหล่งผลิต โรงงานยาเสพติด(ยาบ้า)ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี การปราบปรามคลังเก็บยาเสพติดในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย การสกัดกั้นกลุ่มเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนทางภาคเหนือ และภาคตะวันตก การกวาดล้างกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดต่างๆในหลายพื้นที่ ผลงานของเขาเป็นที่ประจักษ์และนับว่าเป็นการปราบปรามผู้มีอิทธิพลอันเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมากที่สุดยุคหนึ่งของกระทรวงมหาดไทย

ในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เขาได้เปิดปฎิบัติการกวาดล้างนอมินีนายทุนต่างชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเขาสั่งการให้ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย และชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ กรมการปกครอง “DOPA Force” เข้าตรวจค้น-จับกุมโรงเเรม 22 เเห่ง ย่านป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งนับเป็นการเปิดปฎิบัติกวาดล้างนอมินีต่างชาติครั้งแรกของกระทรวงมหาดไทย

ผลงานสุดท้ายของเขาในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยคือเขาได้ดำเนินนโยบายกดดันจนทำให้ทุนยักษ์ใหญ่จีน ที่ลงทุนสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในฝั่งส่วยโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา บริเวณตรงข้ามบ้านวังแก้ว ต.แม่ปะ และบ้านวังผา ตำบลแม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของทหารกะเหรี่ยงบีจีเอฟ. ( กองกำลังพิทักษ์ชายแดน) ได้ประกาศยกเลิกธุรกิจส่วยโก๊กโก่อย่างถาวร โดยเขาได้สั่งการในคำสั่งให้ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพล กรมการปกครอง กรมโยธาธิการและผังเมือง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บูรณาการร่วมกับ กสทช. ในการเปิดปฎิบัติการเชิงรุกบังคับใช้กฎหมาย แก้ไขปัญหาแก็งคอลเซ็นเตอร์ และเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์โดยได้ดำเนินการรื้อถอนเสาสัญญาณ ตัดการจ่ายไฟฟ้า และตัดสัญญาณสื่อสารผิดกฎหมาย มากกว่า 30 จุด ในพื้นที่อำเภอแม่ระมาด อำเภอแม่สอด และอีกหลายพื้นที่ จังหวัดตาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2567 ชาดาได้ประกาศถอนตัวออกจากรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร โดยส่งบุตรสาว ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ เข้าไปดำรงตำแหน่งเดิมแทนตน[13]

คดีความ

ชาดา เคยถูกจับกุมเมื่อปี พ.ศ. 2546 ในข้อหาจ้างวานฆ่าสมเกียรติ จันทร์หิรัญ เลขานุการของประแสง มงคลศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยรักไทย สุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้องในปี พ.ศ. 2548[14] และเคยถูกจับกุมในปี 2545 คดีจ้างวานฆ่านางนิตยา เททายบรรลือ ผู้จัดการบัญชีของบริษัทรับเหมา ต่อมาศาลชั้นต้นยกฟ้องในปี 2548[15][16]

รางวัลและเกียรติยศ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

หมายเหตุ

  1. ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีรวม 1 ปี 2 วัน
  2. ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวม 17 ปี 41 วัน
  3. ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรครวม 5 ปี 173 วัน

อ้างอิง

  1. ไทยรัฐ, ส่องบัญชีทรัพย์สิน "ซาบีดา" รวย 234 ล้าน "ชาดา" รวม 141 ล้าน รมต.อื่นรวยอู้ฟู่ระดับร้อยล้าน, สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2568
  2. 2.0 2.1 2.2 "บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายชาดา ไทยเศรษฐ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-09-07. สืบค้นเมื่อ 2012-05-29.
  3. "ประวัติ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" ส.ส.ภูมิใจไทย ชีวิตสุดผาดโผน จากพ่อค้าเนื้อสู่เจ้าพ่อสะแกกรัง". www.sanook.com/news. 2023-07-13.
  4. ""หนุ่ม กรรชัย" ตัวแทนหมู่บ้านถาม "ชาดา" ให้แล้ว คอท่านเป็นอะไร คนถามว่าดีดหรือเปล่า". www.sanook.com/news. 2023-09-14.
  5. 5.0 5.1 "หนุ่ม กรรชัย ถามชาดาตรง ๆ ใครคือมาเฟียที่อุทัยธานี ฟังคำตอบชัด ๆ ทำลั่นเลย !". kapook.com. 2023-09-14.
  6. Ltd.Thailand, VOICE TV (2023-03-11). "Voice Politics : "ผมคือผู้มีอิทธิพล" - 'ชาดา ไทยเศรษฐ์' หมดสมัยปลายกระบอกปืน". VoiceTV.
  7. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรค นโยบายพรรค ข้อบังคับพรรค และกรรมการบริหารพรรคถิ่นไทย
  8. Ltd.Thailand, VOICE TV (2023-03-11). "Voice Politics : "ผมคือผู้มีอิทธิพล" - 'ชาดา ไทยเศรษฐ์' หมดสมัยปลายกระบอกปืน". VoiceTV.
  9. "ค้นบ้าน "ชาดา ไทยเศรษฐ์ - ส.จ.เปี๊ยก" ทลายคลังอาวุธ จ.อุทัยธานี". พีพีทีวี. 2017-03-24.
  10. โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี "เศรษฐา" นายกฯ ควบ "รมว.คลัง"
  11. "เกลือจิ้มเกลือ 'อนุทิน' ยื่นดาบให้ 'ชาดา ไทยเศรษฐ์' ลุยปราบมาเฟีย". คมชัดลึกออนไลน์. 2023-09-08.
  12. [1]
  13. ""ชาดา" ถอนชื่อออกจากโผ ครม. แพทองธาร 1 ส่ง "ซาบีดา" ลูกสาว นั่ง มท.3 แทน". คมชัดลึก. 3 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  14. "เปิดประวัติ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" เจ้าพ่อแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง". พีพีทีวี. 13 July 2023. สืบค้นเมื่อ 13 July 2023.
  15. "ศาลจำคุกตลอดชีวิต "จ่าแม็ก" ดิ้นขออภัยโทษ". mgronline.com. 2007-10-17.
  16. เคนนี่, คิง (2019-06-17). ""ใครก็หาว่าผมเป็นเจ้าพ่อ"". COP'S Magazine.
  17. โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศกองอาสารักษาดินแดน เป็นกรณีพิเศษแก่ “อนุทิน-เกรียง-ชาดา”
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๖, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
  19. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๑๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔

 

Prefix: a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

Portal di Ensiklopedia Dunia