บทความนี้จำเป็นต้องอัปเดต โปรดปรับปรุงarticleให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด
ผู้ป่วยแรกจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศอินเดีย นั้นมีรายงานในวันที่ 30 มกราคม 2020 โดยได้รับเชื้อมาจากประเทศจีน ข้อมูลเมื่อ 28 พฤษภาคม 2020 กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัว ได้ยืนยันผู้ติดเชื้อรวม 158,333 ราย และรักษาหายแล้ว 67,692 ราย (ในจำนวนนี้เป็นผู้อพยพ 1 คน) มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4,531 รายในประเทศ[ 5] ประเทศอินเดียมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสูงเป็นอันดับที่สี่ในทวีปเอเชีย ด้วยจำนวนยอดผู้ป่วยแตะขีด 100,000 รายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2020[ 8] ในขณะที่อัตราการเสียชีวิต ในประเทศอินเดียนั้นค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ 3.09% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยโลกอยู่ที่ 6.63% (ข้อมูลวันที่ 20 พฤษภาคม 2020)[ 9] จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดของประเทศอินเดีย ครึ่งหนึ่งพบในหกเมืองสำคัญของประเทศอินเดีย ได้แก่ – มุมไบ , เดลี , อะห์มดาบาด , เจนไน , ปูเน และโกลกาตา [ 10] ข้อมูลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2020 มีเพียงดินแดนสหภาพลักษทวีป เป็นเขตบริหารระดับบน แห่งเดียวที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ
ปัจจุบันมีการประกาษให้เป็นการระบาด (epidemic) แล้วในมากกว่า 12 รัฐและยูที ภายใต้ Epidemic Diseases Act, 1897 และสถาบันการศึกษารวมทั้งธุรกิจจำนวนมากได้ปิด ประเทศอินเดียได้จัดการยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวทั้งหมด ด้วยส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วมีความเกี่ยวเนื่องกับประเทศอื่นนอกอินเดีย[ 11]
ในวันที่ 22 มีนาคม 2020 ประเทศอินเดียสั่งประกาศเคอร์ฟีว 14 ชั่วโมงโดยอาสา (voluntary public curfew) ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนเรนทระ โมที รัฐบาลได้ประกาศปิดเมือง (lockdown) ใน 75 อำเภอ (districts) ที่มีรายงานผู้ติดเชื้อยืนยันและในเมืองสำคัญทั้งหมดของประเทศ[ 12] [ 13] ต่อมาในวันที่ 24 มีนาคม นายกรัฐมนตรีจึงได้ออกประกาศปิดเมืองทั้งประเทศ (nationwide lockdown) เป็นเวลา 21 วัน ส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 1.3 พันล้านคนของประเทศอินเดีย[ 14] [ 15] ในวันที่ 14 เมษายน นายกรัฐมนตรีได้ขยายการปิดเมืองทั้งประเทศนี้ออกไปอีกจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม[ 16] ในวันที่ 1 พฤษภาคม ได้มีขยายการปิดเมืองทั่วประเทศออกไปอีกสองสัปดาห์จนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม[ 17] ในวันที่ 17 พฤษภาคม NDMA ยังคงขยายการปิดเมืองทั่วประเทศออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม[ 18]
ไมเคิล ไรอัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารขององค์การอนามัยโลก โปรแกรมความเร่งด่วนส่วนสุขภาพ (health emergencies programme) ระบุว่าประเทศอินเดียมี "ความพร้อมรับมือที่ล้นเหลือ" ("tremendous capacity") ต่อการจัดการกับวิกฤตไวรัสโคโรนานี้ ด้วยฐานะประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเป็นอันดับสอง ย่อมจะมีผลกระทบใหญ่หลวงต่อความสามารถของทั้งโลกในการรับมือต่อโรคระบาดนี้[ 19] ในขณะที่ความเห็นบางส่วนกังวลต่อผลกระทบร้ายแรงที่จะมีต่อเศรษฐกิจจากการสั่งปิดเมืองนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแรงงานไม่ประจำ (informal workers), ธุรกิจขนาดเล็กและเล็กมาก (micro and small enterprises), ชาวนาชาวไร่ (farmers) และผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ (self-employed) ผู้ถูกทิ้งไว้ขาดจากการเดินทางและการเข้าถึงตลาด[ 20] [ 21]
ศูนย์ติดตามการรับมือของรัฐบาลต่อโควิด-19 มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (The Oxford COVID-19 Government Response Tracker (OxCGRT)) ระบุไว้ในรายงานจากข้อมูลที่รวบรวมจาก 73 ประเทศ ว่ารัฐบาลอินเดีย มีการรับมืออย่างเข้มงวดและฉุกละหุก (stringently) มากกว่าประเทศอื่น ๆ ในการลดการระบาด ในรายงานยังชี้ให้เห็นถึงการลงมือของรัฐบาลที่ฉับพลันทันที, การออกนโยบายฉุกเฉิน, การลงทุนในบริการสุขภาพ ฉุกเฉิน, มาตรการด้านการเงิน, การลงทุนในการค้นคว้าวัคซีน และการรับมือต่อเหตุการณ์อย่างทันท่วงทีตลอดเวลา (active response) รวมแล้วทำให้ประเทศอินเดียได้คะแนนไป "100" คะแนน[เต็ม]สำหรับความเข้มงวด (strictness) นี้[ 22] [ 23]
หมายเหตุ
↑ 111 confirmed cases of foreign nationals who have been tested positive in India are also included here
↑ 1 migrated case to another country is also included here
↑ 2 foreign nationals who died in India due to COVID-19 are also included here[ 6] [ 7]
อ้างอิง
↑ "Coronavirus disease named Covid-19" . BBC News . 11 February 2020. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 February 2020. สืบค้นเมื่อ 15 February 2020 .
↑ Sheikh, Knvul; Rabin, Roni Caryn (10 March 2020). "The Coronavirus: What Scientists Have Learned So Far" . The New York Times . สืบค้นเมื่อ 24 March 2020 .
↑ "Kerala confirmed first novel coronavirus case in India" . India Today . 30 January 2020.
↑ Reid, David (30 January 2020). "India confirms its first coronavirus case" . CNBC. สืบค้นเมื่อ 28 March 2020 .
↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 "Home | Ministry of Health and Family Welfare | GOI" . mohfw.gov.in . สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2025 .
↑ "Number of Covid-19 cases in India climbs to 467, death toll rises to nine" . livemint . 23 March 2020. สืบค้นเมื่อ 26 March 2020 .
↑ "60-year-old Yemeni national dies due to coronavirus in Delhi" . Hindustan Times . 27 March 2020. สืบค้นเมื่อ 30 March 2020 .
↑ "India's case count crosses 100,000, Delhi eases restrictions: Covid-19 news today" . Hindustan Times . 19 May 2020. สืบค้นเมื่อ 20 May 2020 .
↑ "Coronavirus pandemic (COVID-19) in India" . Our World in Data . สืบค้นเมื่อ 20 May 2020 .
↑ "Infections over 1 lakh, five cities with half the cases: India's coronavirus story so far" . The Week . สืบค้นเมื่อ 20 May 2020 .
↑
"India Suspends All Tourist Visas Till April 15 Over Coronavirus: 10 Facts" . NDTV.com . สืบค้นเมื่อ 12 March 2020 .
↑ Regan, Helen; Mitra, Esha; Gupta, Swati (23 March 2020). "India places millions under lockdown to fight coronavirus" . CNN.
↑ "India locks down over 100 million people amid coronavirus fears" . Al Jazeera. 23 March 2020.
↑ Withnall, Adam (24 March 2020). "India to go into nationwide lockdown" . The Independent .
↑ "India's Coronavirus Lockdown: What It Looks Like When India's 1.3 Billion People Stay Home" . Ndtv.com. 22 February 2019. สืบค้นเมื่อ 11 April 2020 .
↑
"PM Modi announces extension of lockdown till 3 May" . Livemint . 14 April 2020.
↑ "Lockdown extended till 17 May: What will open, remain closed" . Livemint . 1 May 2020. สืบค้นเมื่อ 14 May 2020 .
↑ "Coronavirus lockdown extended till 31 May, says NDMA" . livemint . 17 May 2020. สืบค้นเมื่อ 17 May 2020 .{{cite web }}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์ )
↑ "India has tremendous capacity in eradicating coronavirus pandemic: WHO" . The Economic Times . 24 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2 May 2020 .
↑ " 'Unprecedented crisis; do whatever it takes': Jayati Ghosh on Covid-19" . Hindustan Times . 28 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2 May 2020 .
↑ Ray, Debraj; Subramanian, S.; Vandewalle, Lore (9 April 2020). "India's Lockdown" . The India Forum . But in societies like India, a lockdown kill: via job loss, increased vulnerability to economic shocks, and via social stigma and misinformation. Then the objective of saving lives as a whole may or may not be achieved by a draconian lockdown.
↑ "India Corona news: India beats other nations in Covid response: Study | India News - Times of India" .
↑ "India scores high on Covid-19 response tracker made by Oxford University" .
สถาบัน
ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรค โรงพยาบาล และสิ่งเกี่ยวข้อง องค์กร
บุคคล
แพทย์ผู้นำ การปฏิบัติ นักวิจัย เจ้าหน้าที่ จีน อิตาลี สหราชอาณาจักร สหรัฐ
อื่น ๆ ผู้เสียชีวิต
ข้อมูล (แม่แบบ)
ทั่วโลก แอฟริกา เอเชีย ยุโรป (แผนภูมิ )อเมริกาเหนือ โอเชียเนีย อเมริกาใต้