โมบิลสูท กันดั้มซี้ด
โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด (อังกฤษ: Mobile Suit Gundam SEED) (เรียกย่อ ๆ ว่า กันดั้มซี้ด) เป็นอนิเมะฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในอนิเมะตระกูลกันดั้ม ของสตูดิโอซันไรส์ แต่ ดำเนินเรื่องในจักรวาลเฉพาะที่ใช้ชื่อศักราชว่า Cosmic Era แยกจากกันดั้มตอนอื่น ๆ ความยาว 50 ตอน ฉายระหว่าง ค.ศ. 2002-2003 ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเป็นของบริษัท DEX และเคยฉายทางไอทีวี ในปี พ.ศ. 2547 ปัจจุบันออกอากาศทางช่อง ASTV3 Happy Variety Channel ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-18.00 น. ในปี พ.ศ. 2552 ยังได้ออกอากาศทางช่อง 5 อีกครั้งด้วย และล่าสุดในปี พ.ศ. 2565 ออกอากาศทางช่อง 9 กด 30 ในรายการช่อง 9 การ์ตูน ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 7.00-7.30 น. โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ด มีภาคต่อที่ชื่อว่า โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ดเดสทินี และมีภาคเสริมหรือ Side Story คือ โมบิลสูท กันดั้ม ซี้ดแอสเทรย์ กับ กันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์ หลังจากนั้นก็มีภาคพิเศษ Gundam Seed Special Edition ออกมาทั้งหมด 3 ตอนจบ ซึ่งเป็นการนำเนื้อเรื่องเดิมมาตัดต่อใหม่ให้กระชับขึ้น และเพิ่มฉากใหม่ ๆ เข้าไป ซึ่งบริษัท DEX ก็ยังเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เหมือนฉบับโทรทัศน์ นอกจากนี้ยังมีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะมีการสร้างกันดั้มชุด SEED นี้ ออกมาเป็นแบบภาพยนตร์ เรื่องย่อไฟแห่งสงครามที่ครุกกรุ่นกำลังจะโหมกระพือในอีกไม่นานนี้..เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามระหว่าง เนเชอรัล และ โคออร์ดิเนเตอร์. โคออร์ดิเนเตอร์ หรือ มนุษย์ที่ได้รับการตัดต่อพันธุกรรม ให้มีความสามารถสูงขึ้นกว่าปกติ ในขณะที่ เนเชอรัล หรือ มนุษย์ซึ่งเกิดตามแบบธรรมชาติ เริ่มมีความอิจฉาริษยาในความสามารถของพวกเขา ความอิจฉาริษยานั้นแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียด และก่อให้เกิดกลุ่มผู้ต่อต้านโคออร์ดิเนเตอร์หรือ บลูคอสมอส (Blue Cosmos) เพราะเหตุนี้ เหล่าโคออร์ดิเนเตอร์จึงได้สร้างโคโลนี่ในอวกาศขึ้นมาเรียก แพลนท์ (PLANT : Productive Ally on Nexus Technology) และเพราะเหตุนี้ทำให้โคออร์ดิเนเตอร์ที่เคยอาศัยบนโลกนั้น เริ่มเหลือน้อยลงทุกที ในที่สุด ไฟแห่งสงครามก็ระเบิดขึ้น ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ CE (Cosmic Era) 70 สามวันหลังจากการประกาศสงครามระหว่างฝ่ายสหพันธ์โลก (OMNI : Oppose Militancy & Neutralize Invasion Enforcer) และ กองทหารของเหล่าโคออร์ดิเนเตอร์ หรือ ซาฟท์ (ZAFT : Zodiac Alliance of Freedom Treaty) ฝ่ายสหพันธ์โลกเริ่มโจมตีแพลนท์เป็นครั้งแรก และใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำลายโคโลนี่ที่มีชื่อว่า "ยูนิอุสเซเว่น (Junius Seven) " ซึ่งเป็นแพลนท์ทางด้านเกษตรกรรม ผู้คนบริสุทธิ์กว่า 200,000 ราย ต้องเสียชีวิต (243,721 คน) จนถูกกล่าวขานว่าเป็นเหตุการณ์ " วาเลนไทน์ เลือด (Bloody Valentine) " ทำให้ฝ่ายแพลนท์ตัดสินใจใช้ N-Jammer (Neutron Jammer) ซึ่งสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของอนุภาคนิวตรอน ทำให้ยับยั้งปฏิกิริยานิวเคลียร์ได้ โดยแพลนท์ยิงฝัง N-Jammer ลงใต้พื้นดินทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนพลังงานอย่างมาก และคลื่นวิทยุบนโลกก็ถูกรบกวนจนใช้การได้ลำบาก ไฟแห่งสงครามที่ก่อตัวขึ้น และจบลงในอีก 11 เดือนต่อมา โดยฝ่ายแพลนท์ได้รับชัยชนะในหลายๆ พื้นที่ในโลก ซึ่งหลังจากสงครามครั้งนี้สงบลง เรื่องราวต่างๆ ก็เริ่มต้นขึ้น คิระ ยามาโตะ ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักเรียนวิศวกรรมหุ่นยนต์ของเฮลิโอโพลิส (Heliopolis) โคโลนี่ของออร์บ ซึ่งเป็นประเทศเป็นกลาง ที่กำลังใช้ชีวิตวัยเรียนอย่างสงบสุข จนกระทั่งถูกฝ่ายซาฟท์ที่นำโดยพันเอกครูเซ่เข้าโจมตี หลังจากค้นพบว่า ออร์บได้พัฒนาโมบิลสูทและยานรบรุ่นใหม่(อาร์คแองเจิ้ล) ร่วมกับสหพันธ์โลกภายในโรงงานหลักของมอร์เก้นเรท (Morgenroete) โดยซาฟท์มีจุดประสงค์ที่จะขโมยโมบิลสูททั้ง 5 เครื่อง (สไตรค์, ดูเอล, บัสเตอร์, อีจิส และบลิทซ์) ยกเว้นเพียงตัวสุดท้ายเท่านั้นที่คิระบังเอิญได้ขึ้นบังคับ นามของมันคือ สไตรค์ จนกระทั่งนำไปสู่สงครามกับเหล่าโมบิลสูทอีก 4 เครื่องที่เหลือ โดยคิระเรียกชื่อโมบิลสูท สไตรค์ว่า "กันดั้ม (Gundam) " จากตัวอักษรนำหน้าข้อความที่ปรากฏในมอนิเตอร์ห้องนักบินตอนเข้าระบบปฏิบัติการของโมบิลสูท คิระ ซึ่งเป็นโคออร์ดิเนเตอร์ ได้แสดงความสามารถปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัติการที่ยังไม่สมบูรณ์ของสไตรค์ในเวลาคับขัน จนเขาสามารถบังคับสไตรค์ต่อสู้กับหุ่นจินน์ของซาฟท์ได้ เพื่อปกป้องเพื่อนๆของเขา และหาหนทางยุติสงครามครั้งนี้ ตัวละครลูกเรืออาร์คแองเจิ้ล
เมื่อยานอาร์คแองเจิ้ลลงมายังโลก ก็ได้รับการติดต่อจากคางาริ ยูระ อัสฮา ซึ่งในตอนนั้นปิดบังฐานะของตัวเองอยู่ และมุ่งหน้าเดินทางสู่ออร์บ เพื่อทำการซ่อมบำรุงที่มอร์เก้นเรท แต่หน่วยทหารที่นำโดยอัสรันก็แอบตามมาจนเกิดการต่อสู้อย่างหนัก สไตรค์ของคิระ และอีจิสของอัสรันก็ต่อสู้กันจนจมไปทั้งสองเครื่อง คิระถูกสรุปว่า M.I.A. (Missing In Action) แต่จริงๆ แล้วเขาได้รับการช่วยเหลือจากสังคราชมาคิโอ ให้ไปพักรักษาตัวอยู่กับ ลักซ์ ไคลน์ และเมื่อคิระได้ทราบข่าวการบุกโจมตีฐานโจชัวร์ เขาจึงต้องการต่อสู้อีกครั้งเพื่อปกป้องเพื่อนๆ และเพื่อสู้กับศัตรูตัวจริงของสงครามครั้งนี้ ลักซ์ จึงให้ความช่วยเหลือด้วยการลอบพา คิระ มาที่โรงเก็บ ZGMF-X10A ฟรีด้อม หุ่นรุ่นใหม่ 1 ใน 2 เครื่อง ของซาฟท์ที่ใช้ข้อมูลของฝ่ายสหพันธ์โลกสร้างขึ้น และติดตั้ง N-Jammer Canceler เพราะฟรีด้อมใช้พลังงานจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ คิระจึงขึ้นบังคับฟรีด้อมกันดั้มมุ่งหน้าสู่โลก เขาสามารถช่วยป้องกันยานอาร์คแองเจิ้ลที่ฐานโจชัวร์ได้สำเร็จ คิระกลับเข้าประจำยานอาร์คแองเจิ้ลอีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะไม่เปิดเผยเทคโนโลยีของฟรีด้อมเด็ดขาด หลังการต่อสู้อันหนักหน่วงกับหุ่นรุ่นใหม่ 3 เครื่อง ของกองทัพสหพันธ์โลก และได้รับการช่วยเหลือจากจัสติสของอัสรัน แต่เกาะของสาธารณรัฐออร์บก็ยังถูกทำลาย คิระจึงออกสู่อวกาศอีกครั้งเพื่อทำศึกตัดสินกับกองทัพซาฟท์ เขาได้พบความจริงอันน่าตกใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของตัวเขาเองและแผนการที่แท้จริงของราอูล จนถึงการต่อสู้ในศึกสุดท้ายที่ยาคินดูเอ้ คิระก็สามารถล้มราอูลลงได้สำเร็จ อายุ 16 ปี สูง165ซ.ม.หนัก65กิโลกรัมในภาคซี้ด และ อายุ 18 ปี สูง170ซ.ม.หนัก58กิโลกรัมในภาคเดสทินี่
ฝ่ายแพลนท์
ฝ่ายออร์บ
บลูคอสมอส
โมบิลสูทกันดั้ม
โมบิลสูทของซาฟท์
โมบิลสูทของสหพันธ์โลก
โมบิลสูทของออร์บยานรบและอื่นๆฝ่ายสหพันธ์โลก
ฝ่ายซาฟท์
ทีมงาน
รายชื่อตอนในการนับจำนวนตอนของเรื่องจะถูกเรียกว่า เฟซ-... (PHASE-00) ตามด้วยจำนวนเลข
หมายเหตุ - ในวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ และ วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 รายการช่อง 9 การ์ตูน ได้ออกอากาศรีรัน โมบิลสูท กันดั้มซี๊ด เฟซที่ 39 และ เฟซที่ 40 -ในวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566 รายการช่อง 9 การ์ตูน ได้ออกอากาศ โมบิลสูท กันดั้มซี้ด เฟซที่ 47 และ เฟซที่ 48 ในวันเดียวกัน และ วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566 รายการช่อง 9 การ์ตูน ได้ออกอากาศ โมบิลสูท กันดั้มซี้ด เฟซที่ 49 และ เฟซที่ 50 ในวันเดียวกัน โดยการตัดเนื้อหาไปบางส่วน เพื่อเร่งรัดให้จบ เพราะว่า จะออกอากาศ โมบิลสูท กันดั้มซี้ดเดสทินี ที่จะออกอากาศ ตอนแรก ใน วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566 ตามกำหนดการรายการช่อง 9 การ์ตูน เพลงประกอบ
ดูเพิ่มแหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia