สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร
สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 (อังกฤษ: George VI of the United Kingdom; 14 ธันวาคม ค.ศ. 1895 — 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952) เป็นพระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักรในราชวงศ์วินด์เซอร์ และเครือจักรภพอังกฤษระหว่าง ค.ศ. 1936 ถึง ค.ศ. 1952 เป็นจักรพรรดิอินเดียพระองค์สุดท้าย (จนกระทั่ง ค.ศ. 1947) และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเสรีรัฐไอริชในทางนิตินัยพระองค์สุดท้าย (จนกระทั่ง ค.ศ. 1949) พระเจ้าจอร์จที่ 6 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1895 ณ ตำหนักซานดริงแฮม นอร์โฟลกในอังกฤษ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองในพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี และครองราชย์ระหว่างวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1936 จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 ที่ตำหนักซานดริงแฮม นอร์ฟอล์ก พระเจ้าจอร์จที่ 6 มิได้เป็นที่หวังว่าจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินและทรงใช้เวลาสมัยแรกอยู่เบื้องหลังพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 พระเชษฐา ทรงรับราชการในราชนาวีระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังสงครามแล้วก็ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจต่าง ๆ ในสังคม ต่อมาเสกสมรสกับเอลิซาเบธ โบวส์-ลีออนใน ค.ศ. 1923 และมีพระราชธิดาสองพระองค์คือ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าหญิงมาร์กาเรต เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน หลังจากพระราชบิดาเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1936 พระเชษฐาก็ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 แต่ไม่ทันถึงปีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็มีพระประสงค์ที่จะแต่งงานกับนางวอลลิส ซิมพ์สัน สตรีหม้ายชาวอเมริกัน แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองและทางศาสนา สแตนลีย์ บอลด์วิน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรถวายคำแนะนำว่าการที่จะอภิเษกสมรสกับวอลลิส ซิมป์สันแล้วยังเป็นพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 จึงทรงสละราชสมบัติเพื่อแต่งงานกับวอลลิส ซิมป์สัน เจ้าชายอัลเบิร์ตซึ่งเป็นดยุกแห่งยอร์กในขณะนั้นจึงทรงขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเชษฐาเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่สามในราชวงศ์วินด์เซอร์ทรงพระนามสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ต่อจากพระเชษฐาซึ่งนักวิชาการได้สันนิษฐานว่าการใช้พระนามจอร์จนั้นเป็นกุศโลบายเพื่อให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนักในการเสวยราชสมบัติของพระองค์ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทรงขึ้นครองราชย์รัฐสภาเสรีรัฐไอริชก็ผ่าน “พระราชบัญญัติความสัมพันธ์ภายนอก” (External Relations Act 1936) ซึ่งริบพระราชอำนาจเกือบทั้งหมดของพระองค์ในไอร์แลนด์ (ยกเว้นด้านการทูต) เหตุการณ์อื่น ๆ ที่มีผลในการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในรัชสมัยของพระองค์ได้แก่ 3 ปีหลังจากทรงขึ้นครองราชย์ราชอาณาจักรของพระองค์นอกจากไอร์แลนด์เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อต้านนาซีเยอรมนี สองปีต่อมาก็เข้าสงครามต่อต้านราชอาณาจักรอิตาลีและหลังจากนั้นจักรวรรดิญี่ปุ่น ผลจากสงครามคือการเสื่อมอำนาจของจักรวรรดิบริติชโดยสหรัฐและสหภาพโซเวียตขึ้นมาเป็นมหาอำนาจแทนที่ ใน ค.ศ. 1947 ขบวนการแยกตัวเพื่ออิสรภาพของอินเดียและปากีสถานก็เริ่มมีความแข็งแกร่งขึ้น สาธารณรัฐไอร์แลนด์ประกาศตัวเป็นอิสระใน ค.ศ. 1949 ในรัชสมัยของพระองค์เป็นสมัยของการสลายตัวของจักรวรรดิอังกฤษไปเป็นเครือจักรภพ ชีวิตในวัยเยาว์พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชสมภพที่ยอร์กคอทเทจ ในตำหนักซานดริงแฮมในนอร์ฟลอค์ ในรัชสมัยของพระปัยยิกาคือ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร พระราชบิดาของพระองค์คือเจ้าชายจอร์จ ดยุกแห่งยอร์ก (ต่อมาคือสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5) เป็นพระโอรสองค์ที่สองของเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ (ต่อมาคือสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร และ สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา พระมารดาของพระองค์คือดัชเชสแห่งยอร์ก (ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีแมรี พระธิดาพระองค์ใหญ่และพระองค์เดียวของดยุกและดัสเชสแห่งเท็ค) วันพระราชสมภพของพระองค์คือวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1895 ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันสิ้นพระชนม์ของพระปัยกา เจ้าชายอัลเบิร์ต พระราชสวามี ครบ 34 ปี ซึ่งเป็นที่มาของพระนามของพระองค์ ซึ่งคือ เจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งยอร์ก โดยพระองค์มีชื่อเล่นที่เรียกกันในพระราชวงศ์ว่า "เบอร์ตี้" (Bertie) ในขณะนั้นทรงอยู่ในลำดับที่ 4 ของการสืบราชสันตติวงศ์ โดยต่อจากพระอัยกา พระบิดา และพระเชษฐา สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เสด็จสวรรคตเมื่อ 22 มกราคม ค.ศ. 1901 และเจ้าชายแห่งเวลส์ได้สืบราชบัลลังก์ต่อโดยมีพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งทำให้พระองค์เลื่อนขึ้นมาอยู่ในลำดับที่สามของการสืบราชสันตติวงศ์ในขณะนั้น กษัตริย์ผู้พูดติดอ่างด้วยปัญหาติดตัวมานับแต่วัยเยาว์กับการพูดติดอ่าง[1] ผลพวงของชีวิตวัยเยาว์อันไม่ราบรื่นจากพระบิดาและแม่นมชอบว่ากล่าวดุด่าบ่อยครั้ง พระองค์จึงเติบโตมาด้วยอุปนิสัยขี้อาย ไม่กล้าพูดจาปราศรัยต่อสังคม ก่อเกิดอาการติดอ่าง เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่รบกวนพระองค์ตลอดระยะเวลาก่อนขึ้นครองราชย์ จวบจนเมื่อขึ้นครองราชย์แล้วไม่วายยังแก้ไขไม่สำเร็จเสียทีเดียว เนื่องจากการแพทย์ในสมัยนั้นยังหาทางจัดการให้ถูกวิธีไม่ได้ ซึ่งนั่นก็สร้างความหงุดหงิดใจแก่พระองค์ไม่ใช่น้อย ช่วงก้ำกึ่งระหว่างก่อนขึ้นครองราชย์ พระองค์ต้องออกงานสังคมมากมายตามภาระหน้าที่ และเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากเอลิซาเบธ โบวส์-ลีออนผู้เป็นพระชายาและดัสเชสแห่งยอร์ก(ในขณะนั้น) ทำให้ได้รับการรักษาจาก ไลโอเนล โล้ก (Lionel Logue) จนหายเป็นปกติ พระราชบุตรสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี มีพระราชธิดาด้วยกัน 2 พระองค์ ซึ่งเสด็จพระราชสมและประสูติในวันที่ 21 เหมือนกัน คือ
พระบรมราชอิสริยยศ และตราอาร์ม
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร
|
Portal di Ensiklopedia Dunia