โอโตเมะโอโตเมะ (ญี่ปุ่น: 乙女; โรมาจิ: Otome; แปล: นางรำโกะเซะจิ ) เป็นบทที่ 21 ของตำนานเก็นจิ ผลงานของ มุระซะกิ ชิคิบุ จากทั้งหมด 54 บท ที่มาของชื่อบท โอโตเมะโอโตเมะ แปลว่า หญิงสาว และ โอโตเมะ บทที่ 21 ของตำนานเก็นจิ หมายถึงหญิงสาวที่ได้รับเลือกให้เป็นนางรำโกะเซะจิ การร่ายรำโกะเซะจิโนะไมโกะเซะจิ โนะ ไม (五節の舞 gosechi no mai) การร่ายรำของหญิงสาว 5 คน , การร่ายรำสะบัดชายแขนเสื้อ 5ครั้ง เป็นการร่ายรำเฉลิมฉลองเทศกาลโตะโยะอะคะริ โนะ เซะจิเอะ ( Toyoakari-no-sechie Festival )เป็นการร่ายรำโบราณตั้งแต่สมัยเฮอันของญี่ปุ่น ตำนานกล่าวว่า เป็นการร่ายรำสะบัดชายแขนเสื้อ 5 ครั้งของเหล่านางอัปสรสวรรค์ [1] เมื่อพวกนางได้ยินเสียง วะกง ( โกะโตะแบบญี่ปุ่น ) ของจักรพรรดิเท็มมุ (Tenmu) ทรงบรรเลงขณะประพาสภูเขาโยชิโนะ การร่ายรำนี้ จะแสดงเบื้องพระพักตร์ของจักรพรรดิในราชพิธีชำระมลทินประจำปีตั้งแต่สมัยเฮอัน ได้รับการกล่าวถึงในวรรณกรรมสมัยเฮอันบ่อยครั้ง และนับว่าเป็นการแสดงที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในราชสำนัก เพราะนางรำที่ได้รับเลือกมาร่ายรำ โกะเซะจิ โนะ ไม นับว่าเป็นเกียรติยศอย่างสูง แต่ละคนนั้นจะได้รับเลือก ได้รับการสนับสนุน และถือเป็นตัวแทนของตระกูลขุนนางที่มีอำนาจในยุคนั้น ดังนั้น นางรำแต่ละคนจะต้องแบกรับความกดดันของการแข่งขันระหว่างตระกูลที่มีอำนาจด้วย เมื่อยามที่ต้องร่ายรำร่วมกันหน้าพระพักตร์ การร่ายรำโกะเซจิ โนะ ไม รูปแบบที่แสดงในปัจจุบัน สืบทอดแบบอย่างมาตั้งแต่การแสดงในยามสวรรคตของจักรพรรดิไทโช ( Taishô ) [2] เรื่องย่อเก็นจูมีความคิดว่า ยูงิริ ควรได้รับการศึกษาในวิทยาลัย เพื่อจะได้มีความรู้เมื่อได้ก้าวหน้าในตำแหน่งมหาเสนาบดีแห่งรัฐในภายภาคหน้า เมื่อยูริงิผ่านพิธีเกมปุกุเมื่ออายุ 12 แล้ว เขาจึงได้ยศขุนนางขั้น 6 ซึ่งถือเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยเท่านั้น ทั้งๆที่ระดับบุตรชายของเก็นจิ น่าจะได้ยศขุนนางขั้น 4 ทุกคนต่างพากันประหลาดใจ เพราะต่างก็คิดว่ายูงิริจะต้องได้รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว เก็นจินั้นปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้บุตรชายได้รับการศึกษาและมีพื้นฐานความรู้อย่างมั่นคงในทุกด้าน อยากให้เขาได้คบหาเพื่อนฝูงในวิทยาลัย ซึ่งหาได้ยากที่บุตรชายในตระกูลขุนนางชั้นสูงจะเข้าศึกษาในวิทยาลัย เก็นจิทดสอบบุตรชายก่อนที่ยูงิริจะเข้าสอบจริงอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังเชิญนักวิชาการมาสอนเพิ่มเติม ยูงิรินั้นเรียนหนักมากจนสามารถสอบจบการศึกษาได้ภายใน 6 เดือน เก็นจิภูมิใจในตัวบุตรชายมาก[3]
ในเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยวในเดือน 11 เก็นจิเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับหน้าที่เฟ้าหานางรำโกะเซะจิ เก็นจิเลือกหญิงสาวผู้งดงามที่สุดจากบรรดาหญิงสาวที่เฟ้นหามา นางคือบุตรีของ โคะเระมิตสึ คนสนิทของเขาเอง ซึ่งบัดนี้มีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองจังหวัดเซ็ตสึ ยูงิริผู้เศร้าหมองที่ถูกกีดกันไม่ให้พบ คุโมะอิโนะคะริ ที่บ้านคฤหาสน์ซันโจ จึงเดินอย่างเลื่อนลอยเข้าไปในส่วนของคฤหาสน์ที่เก็นจิห้ามเขาเข้าไป จนกระทั่งได้พบเห็นบุตรีของโคะเระมิตสึ ที่มีรูปร่างคล้ายคลงกับ คุโมะอิโนะคะริ เขาจึงปักใจหลงเสน่ห์นางรำโกะเซะจิเข้าแล้ว ยูงิริ ฝากเพลงยาวให้กับบุตรชายคนหนึ่งของโคะเระมิตสึ ส่งให้นาง ทว่า โคะเระมิตสึได้รับสาส์นฉบับนั้นเสียก่อน เขาพอใจมากที่ยูงิริสนใจบุตรีของตน
ช่วงที่คฤหาสน์สร้างเสร็จใหม่ๆเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยน อะกิโคะโนะมุ จึงส่งกล่องประดับประดางดงามบรรจุไว้ด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ดอกไม้ในฤดูใบไม้ร่วงงามๆ ให้มุระซะกิ เป็นของขวัญแนบคำกลอน หมายความว่า ได้ส่งสิ่งแทนฤดูใบไม้ร่วงซึ่งยากที่ฤดูใบไม้ผลิจะได้ชื่นชมมาให้ มุระซะกิรู้สึกสนุกสนานกับการหยอกล้อนี้ของอะกิโคะโนะมุ นางส่งต้นสนประดิษฐ์ผูกไว้ด้วยสาส์นร้อยกรอง จัดใส่ในกล่องใบเดิมส่งกลับตอบแทนให้อะกิโคะโนะมุด้วยเวลาอันรวดเร็ว อะกิโคะโนะมุ ทึ่งกับไหวพริบปฏิพานของมุระซะกิยิ่ง อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia