โบอิง 737 แมกซ์
โบอิง 737 แมกซ์ (อังกฤษ: Boeing 737 MAX family) เป็นรุ่นของอากาศยานที่ออกแบบโดยโบอิง ซึ่งเป็นการนำเครื่องบินโบอิง 737 เน็กซต์เจเนอเรชัน รุ่นก่อนหน้ามาพัฒนาต่อ เพื่อนำมาแข่งขันกับแอร์บัส เอ320นีโอจากแอร์บัส โบอิง 737 แมกซ์ได้ขึ้นบินครั้งแรกในเดือนมกราคม ปีค.ศ. 2016[1] และได้เริ่มให้บริการในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017 โดยมาลินโดแอร์[2] โบอิง 737 แมกซ์มีพื้นฐานการออกแบบจากโบอิง 737 รุ่นก่อนหน้า โดยมีการเปลี่ยนแปลงในบางส่วน คือ เครื่องยนต์ ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ลีป ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น, การเปลี่ยนแปลงตามหลักอากาศพลศาสตร์, รวมถึงส่วนปลายปีกแบบแยกส่วน และเฟรมเครื่องบิน การพัฒนาการพัฒนาในช่วงแรกในปี ค.ศ. 2006 โบอิงได้มีการประกาศแผนที่จะสร้างเครื่องบินรุ่นใหม่ตามหลังโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ โดยมีจุดประสงค์ในการทดแทนโบอิง 737[3] ต่อมาได้การเลื่อนโครงการจนถึงปีค.ศ. 2011[4] ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2010 แอร์บัสได้มีการเปิดตัวเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ เพื่อปรับปรุงการเผาผลาญเชื้อเพลิงและประสิทธิภาพการทำงานด้วยเครื่องยนต์ใหม่: ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ลีป และแพตแอนด์วิตนีย์ PW1000G[5] ต่อมาในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2011 โบอิงได้มีการประกาศการพัฒนาเครื่องบินโบอิง 737 รุ่นใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ซึ่งมีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงน้อยกว่าของเอ320นีโอถึง 4%[6] ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2015 โบอิง 737 แมกซ์ลำแรกเสร็จสิ้นการประกอบเครื่องที่โรงงานในวิชิทอ, รัฐแคนซัส และได้เปิดตัวครั้งแรกที่โรงงานผลิตของโบอิงที่เรตอนในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2015[7][8][9] ต่อมาเครื่องบินได้ทำบินครั้งแรกในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2016 โดยทำการขึ้นบินออกจากท่าอากาศยานเรตอนมิวนิซิปอล[10] โดยมีการทำการทดสอบต่างๆ[11] การส่งมอบครั้งแรกของ 737 แมกซ์คือ 737 แมกซ์ 8 ซึ่งส่งมอบให้กับมาลินโดแอร์ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2017; และเริ่มใช้งานในวันที่ 22 พฤษภาคม[2] นอร์วิเจียนแอร์อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นสายการบินที่สองที่ให้บริการ 737 แมกซ์ โดยมีการให้บริการเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก[12] การสั่งระงับการบินของโบอิง 737 แมกซ์หลังจากอุบัติเหตุของโบอิง 737 แมกซ์ 8 ทั้งสองครั้งในเดือนตุลาคม 2018 และเดือนมีนาคม 2019 โบอิง 737 แมกซ์ได้ถูกสั่งระงับการบินทั่วโลก[13] โดยประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่ได้ระงับการบินของ 737 แมกซ์ โดยตามมาด้วยสิงคโปร์, อินเดีย, ทูร์เคีย, เกาหลีใต้, สหภาพยุโรป, ออสเตรเลียและมาเลเซียในวันต่อมา โดยองค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศสุดท้ายที่สั่งระงับการบินของ 737 แมกซ์ ระหว่าง 20 เดือนที่เครื่อง 737 แมกซ์ถูกระงับการบิน โบอิงได้ทำการปรับปรุงแก้ไขระบบ MCAS ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทั้งสองเหตุการณ์ เพื่อให้เครื่องบินได้รับการรับรองจากองค์การบริหารการบินทั่วโลกและนำกลับมาขึ้นบินอีกครั้ง[14] ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทางบริษัทโบอิงได้รับผลกระทบทั้งทางการเงินและทางกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ก็ได้มีการฟ้องร้องถึงศาล สุดท้ายแล้วโบอิงได้จ่ายเงิน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจ่ายค่าปรับไป 243.6 ล้านดอลลาร์, เงินชดเชยต่อสายการบิน 1.77 พันล้านดอลลาร์, และจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวขอผู้เสียชีวิตอีกกว่า 500 ล้านดอลลาร์[15][16] การรับรองและการกลับสู่การบริการต้นเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 โบอิงพบปัญหาในการอัปเดตซอฟต์แวร์ของ 737 แมกซ์[17] ซึ่งส่งผลกระทบต่อความพยายามในการรับรองจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติ[18] ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายนถึง 1 กรกฎาคม FAA และโบอิงได้ทำการบินทดสอบสำหรับการรับรองหลายครั้ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน FAA ประกาศว่าโบอิง 737 แมกซ์ได้รับอนุญาตให้กลับไปให้บริการ ก่อนที่เครื่องบินแต่ละลำจะสามารถกลับมาให้บริการได้ จำเป็นต้องมีการซ่อมแซมตามที่กำหนดไว้ และต้องให้นักบินเข้ารับการฝึกอบรมสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้[19] ในวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2020 โกว์ลีญัสอาแอเรียสเป็นสายการบินแรกที่เริ่มนำโบอิง 737 แมกซ์กลับเข้ามาบริการ[20] และอเมริกันแอร์ไลน์เป็นสายการบินแรกที่นำกลับมาใช้งานในประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม[21] รุ่นโบอิง 737 แมกซ์ 7รุ่น แมกซ์ 7 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุดในตระกูล 737 แมกซ์ โดยมีพื้นฐานมาจาก 737-700 บินได้ไกลกว่า 1,000 ไมล์ทะเล (1,900 กม.) และรองรับที่นั่งอีกสองแถวโดยลดค่าเชื้อเพลิง 18% ต่อที่นั่ง[22] โดยรุ่นแมกซ์ 7 มีแผนเปิดตัวกับเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 แต่ก็ได้เลื่อนคำสั่งซื้อเหล่านี้ออกไป[23][24] 737 แมกซ์ 7 จะเข้ามาแทนที่ 737-700 และคาดว่าจะบรรทุกผู้โดยสารได้ 12 คนและบินได้ไกลกว่าคู่แข่งแอร์บัส เอ319นีโอ ประมาณ 400 ไมล์ทะเล (740 กม.) โดยมีต้นทุนการดำเนินงานลดลง 7% ต่อที่นั่ง[25] โบอิง 737 แมกซ์ 7 ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะเริ่มให้บริการในปีค.ศ. 2023-2024[26] โบอิง 737 แมกซ์ 8เครื่องบิน 737 แมกซ์รุ่นแรกที่ถูกพัฒนา คือ รุ่นแมกซ์ 8 โดยจะนำมาแทนที่ 737-800 โบอิงวางแผนที่จะปรับปรุงพิสัยการบินจาก 3,515 ไมล์ทะเล (6,510 กม.) เป็น 3,610 ไมล์ทะเล (6,690 กม.)[27] รุ่นแมกซ์ 8 มีน้ำหนักตัวเปล่าที่ต่ำกว่าและน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดที่สูงกว่าแอร์บัส เอ320นีโอ คู่แข่งของรุ่นแมกซ์ 8 โบอิง 737 แมกซ์ 200737 แมกซ์ 200 ซึ่งเป็นรุ่นความจุสูงของ 737 แมกซ์ 8 ซึ่งได้เปิดตัวในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 และได้รับการตั้งชื่อสำหรับที่นั่งสำหรับผู้โดยสารได้ถึง 200 คนในรูปแบบที่นั่งชั้นเดียว 737 แมกซ์ 200 จะประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 20% ต่อที่นั่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าแมกซ์ 8 ประมาณ 5%[28][29] โบอิง 737-8ERXสายการบินได้แสดงแนวคิดของเครื่องบิน 737-8ERX บนพื้นฐานของ 737 แมกซ์ 8 ที่มีน้ำหนักนำขึ้นสูงสุด 194,700 ปอนด์ (88.3 ตัน) โดยใช้ปีก ล้อลงจอด และส่วนกลางจากเครื่องแมกซ์ 9 เพื่อให้มีพิสัยบินที่ไกลกว่า 4,000 ไมล์ทะเล (7,400 กม.) พร้อมที่นั่ง 150 ที่นั่ง ใกล้กับแอร์บัส เอ321LR[30] โบอิง 737 แมกซ์ 9737 แมกซ์ 9 ซึ่งเป็นรุ่นขยายของแมกซ์ 8 ได้เปิดตัวพร้อมกับคำสั่งซื้อ 201 ลำในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 จากไลอ้อนแอร์[31] โดยเปิดตัวในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2017[32]ลูกค้าเปิดตัว ไลอ้อนแอร์ กรุ๊ป รับแมกซ์ 9 ลำแรกเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2018 ก่อนเข้าให้บริการกับไทยไลอ้อนแอร์[33] 737 แมกซ์ 9 จะเข้ามาแทนที่ 737-900 และแข่งขันกับ แอร์บัส เอ321นีโอ โบอิง 737 แมกซ์ 10รุ่น แมกซ์ 10 ถูกเสนอเป็นรุ่นขยายของแมกซ์ 9 ในช่วงกลางปี 2016 ทำให้สามารถจัดที่นั่งได้ 230 ที่นั่งในชั้นเดียวหรือ 189 ที่นั่งในรูปแบบสองชั้น เทียบกับ 193 ที่นั่งในที่นั่งสองชั้นสำหรับแอร์บัส เอ321นีโอ ด้วยความยาวลำตัวของรุ่นแมกซ์ 10 ที่ยืดออกเล็กน้อยขนาด 66 นิ้ว (1.7 ม.) ทำให้เครื่องบินสามารถใช้ปีกและเครื่องยนต์ ซีเอเอ็ม ลีป1บี จากรุ่นแมกซ์ 9 โดยจะมีเพียงแค่ล้อลงจอดจะใช้ระบบใหม่[34] 737 แมกซ์ 10 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2017 โดยมีคำสั่งซื้อและสัญญาสั่งซื้อ 240 รายการจากลูกค้ากว่าสิบราย[35] การกำหนดค่าตัวแปรโดยคาดการณ์ต้นทุนการเดินทางและค่าที่นั่งที่ลดลง 5% เมื่อเทียบกับ เอ321นีโอ[36][37] รุ่นแมกซ์ 10 มีความจุใกล้เคียงกับแอร์บัส เอ321เอกซ์แอลอาร์ แต่จะมีพิสัยบินสั้นกว่าและประสิทธิภาพการทำงานบนพื้นดินที่น้อยกว่า[38] รุ่นแมกซ์ 10 เปิดตัวในโรงงานเรนทอนของ โบอิง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 และมีกำหนดบินครั้งแรกในปี 2020[39][40] รุ่นแมกซ์ 10 ได้ขึ้นบินครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2021[41] ในช่วงปลายทศวรรษ 2010 โบอิงทำงานบนเครื่องบินโบอิงขนาดกลางรุ่นใหม่ (NMA) ซึ่งมีเครื่องบินสองรุ่นรองรับผู้โดยสารได้ 225 หรือ 275 คน และกำหนดเป้าหมายกลุ่มตลาดเดียวกันกับ 737 แมกซ์ 10 และแอร์บัส เอ321นีโอ[42] เครื่องบินขนาดเล็กในอนาคต (FSA) ก็ได้มีการประกาศโครงการเช่นเดียวกัน[43] โครงการ NMA ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 เนื่องจากโบอิงมุ่งเน้นไปที่การนำโบอิง 737 แมกซ์กลับมาให้บริการให้เร็วที่สุดและประกาศถึงแนวทางใหม่สำหรับโครงการในอนาคต โบอิงบิสนิซเจ็ตบีบีเจ แมกซ์ 8 และ บีบีเจ แมกซ์ 9 เป็นรุ่นเครื่องบินธุรกิจของ 737 แมกซ์ 8 และ 9 โดยใช้เครื่องยนต์ ซีเอฟเอ็ม ลีป-1B และ ปลายปีกใหม่เช่นเดียวกับของแมกซ์ 8 และ 9 โดยบีบีเจ แมกซ์ 8 จะมีพิสัยการบิน 6,325 ไมล์ทะเล (11,710 กม.) และ บีบีเจ แมกซ์ 9 มีพิสัยการบิน 6,255 ไมล์ทะเล (11,580 กม.)[44] บีบีเจ แมกซ์ 7 เปิดตัวในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 ด้วยพิสัยการบิน 7,000 ไมล์ทะเล (12,960 กม.) และต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่าบีบีเจดั้งเดิม 10%[45] บีบีเจ แมกซ์ 8 ทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2018 ก่อนส่งมอบครั้งแรกในปีเดียวกัน และจะมีพิสัยการบิน 6,640 ไมล์ทะเล (12,300 กม.) พร้อมถังเชื้อเพลิงเสริม[46] ผู้ให้บริการณ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 ผู้ให้บริการโบอิง 737 แมกซ์รายใหญ่ที่สุดห้าสายการบิน ได้แก่ เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ (69), ไรอันแอร์ (55), อเมริกันแอร์ไลน์ (42), แอร์แคนาดา (32) และไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ (24) อุบัติเหตุและอุบัติการณ์สำคัญไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ 610ในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ 610 ได้ตกลงสู่ทะเลชวา 13 นาทีหลังจากบินขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตาในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เที่ยวบิน 610 เป็นเที่ยวบินภายในประเทศซึ่งเดินทางไปยังท่าอากาศยานเดปาตี อาเมียร์ เมืองปังกาลปีนัง มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 189 คน โดยเที่ยวบินนี้เป็นอุบัติเหตุการบินที่ร้ายแรงครั้งแรกของ 737 แมกซ์ ซึ่งเครื่องบินลำที่เกิดเหตุถูกส่งมอบให้ไลอ้อนแอร์สองเดือนก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ[47][48] คณะกรรมการความปลอดภัยในการคมนาคมขนส่งแห่งชาติของอินโดนีเซียได้เปิดเผยรายงานขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับอุบัติเหตุ โดยระบุว่าสาเหตุการตกนั้นเกิดจากระบบ MCAS ซึ่งทำให้เครื่องบินตก เนื่องจากข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่ผิดพลาด หลังจากเครื่องบินไลอ้อนแอร์ตก โบอิงได้ออกคู่มือการปฏิบัติงานโดยให้คำแนะนำแก่สายการบินเกี่ยวกับวิธีจัดการกับการอ่านค่าห้องนักบินที่ผิดพลาด[49] เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 302ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2019 เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 302 ได้ตกลงหลังจากขึ้นบินจากอาดดิสอาบาบาได้เพียง 6 นาที[50] เที่ยวบิน 302 เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศจากอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ไปยังไนโรบี ประเทศเคนยา[51] มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 157 คน โดยเครื่องบินโบอิง 737 แมกซ์ 8 ลำนี้ได้ส่งมอบให้เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ประมาณ 4 เดือนก่อนเกิดเหตุ[52] หลักฐานที่ได้รับจากจุดเกิดเหตุระบุว่า ในขณะที่เครื่องบินตก เครื่องบินถูกกำหนดค่าให้กดหัวลง คล้ายกับไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ 610[53] เที่ยวบิน 302 เป็นอุบัติเหตุของเครื่องบินแมกซ์ 8 ครั้งที่สองในเวลาน้อยกว่าห้าเดือนหลังจากที่ไลอ้อนแอร์เที่ยวบิน 610 ตกในอินโดนีเซียในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018 และยังเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์และของประเทศเอธิโอเปีย[54][55] จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีการสั่งระงับการบินของโบอิง 737 แมกซ์ทั่วโลกและมีการสอบสวนหาสาเหตุการตกของเครื่องบิน เพื่อนำไปแก้ไขต่อไป[56] อะแลสกาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1282ในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2024 อะแลสกาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1282 ส่งผลให้เกิดการสูญเสียแรงดันในเครื่องบินโบอิง 737 แมกซ์ 9 หลังอุปกรณ์สำหรับการปิดช่องประตูทางออกฉุกเฉินเกิดระเบิดออก[57] ส่งผลให้เกิดการสูญเสียแรงดันในเครื่องบิน รุ่นแมกซ์ 9 คล้ายกับ 737-900อีอาร์ จะมีตัวเลือกในการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการปิดช่องประตูทางออกฉุกเฉินตามความหนาแน่นของที่นั่งในห้องโดยสาร ในเครื่องบินที่มีความหนาแน่นของที่นั่งน้อย จะไม่จำเป็นต้องมีประตูทางออกฉุกเฉินในจุดนั้นและจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ปิดช่องประตูทางออกนั้นแทน ดังเครื่องบินที่เกิดเหตุ โดยขณะกำลังไต่ขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติพอร์ตแลนด์ อุปกรณ์ปิดช่องประตูหนึ่งเกิดหลุดออก[58] เครื่องบินได้วนกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่พอร์ตแลนด์ โดยที่ในผู้โดยสาร 171 คนและลูกเรือ 6 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเด่นชัด ขณะเกิดเหตุได้มีของใช้ของผู้โดยสารขนาดเล็ก แผ่นรองเบาะที่รองหัวของที่นั่งถูกดูดออกจากเครื่องบิน โดยตามคำบอกเล่าของผู้โดยสาร เสื้อของเด็กชายที่นั่งอยู่ในแถวใกล้เคียงถูกดูดออกในขณะที่แม่ของเขาจับตัวของเขาไว้[59][60] เอฟเอเอ โบอิง อะแลสกาแอร์ไลน์ และเอ็นทีเอสบี ได้ร่วมกันสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติการณ์ โดยในเบื้องต้นอะแลสกาแอร์ไลน์ได้ระงับการทำการบินของโบอิง 737 แมกซ์ 9 ทั้ง 65 ลำในฝูงบินเป็นการชั่วคราว[61] โดยต่อมาเอฟเอเอได้สั่งระงับการทำการบินของ 737 แมกซ์ 9 จำนวน 171 ลำทั่วโลกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ปิดช่องประตูในลักษณะเดียวกันเพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขหากจำเป็น[62] โดยอะแลสกาแอร์ไลน์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ได้รายงานว่าพบสกรูที่ยึดติดได้ยึดอยู่อย่างหลวมในบางลำ[63] ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 เอ็นทีเอสบีได้รายงานว่าสกรูสี่ตัวหลักไม่ได้ถูกติดตั้งบนเครื่องบินลำที่เกิดเหตุตั้งแต่การส่งมอบให้อะแลสกาแอร์ไลน์โดยโบอิงหลังจากมีการเปิดช่องประตูเพื่อทำการซ่อมบำรุง[64] ข้อมูลจำเพาะ
เครื่องบินที่ใกล้เคียงกันรุ่นที่ใกล้เคียงกันเครื่องบินที่ใกล้เคียงกันอ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia