เพลงสดุดีโอลิมปิก (อังกฤษ: Olympic Hymn, กรีก: Ολυμπιακός Ύμνος, Olympiakós Ýmnos) หรือรู้จักกันอย่างไม่เป็นทางการว่าเพลงประจำการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก (อังกฤษ: Olympic Anthem) เป็นเพลงประสานเสียงคันตาตาซึ่งประพันธ์โดยนักประพันธ์เพลงโอเปราชาวกรีก สปีรีโดน ซามาราส (2404–2460) ประพันธ์คำร้องโดยนักกวีชาวกรีก โคสติส ปาลามาส โดยทั้งบทกวีและทำนองได้รับเลือกโดยดีมีตรีโอส วีเกลัส ชาวกรีกซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลคนแรก
ประวัติ
เพลงสดุดีโอลิมปิกได้รับบรรเลงและขับร้องเป็นครั้งแรกในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ค.ศ. 1896 ณ เอเธนส์ ประเทศกรีซ ต่อมา ประเทศเจ้าภาพทุกประเทศได้มอบหมายให้มีการประพันธ์เพลงสดุดีโอลิมปิกโดยเฉพาะขึ้นเป็นฉบับของการแข่งขันนั้น ๆ
สำหรับเพลงฉบับของซามาราสและปาลามาส ได้รับการรับรองเป็นเพลงประจำการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากลในปี 2501 ในการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากลครั้งที่ 54 ณ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพลงสดุดีโอลิมปิกถูกขับร้องเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก ณ โอลิมปิกฤดูหนาว ค.ศ. 1960 ณ สควอว์วัลเลย์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เพลงนี้จึงใช้เป็นเพลงหลักในการเชิญธงโอลิมปิกขึ้นสู่ยอดเสาในพิธีเปิด และระหว่างการเชิญธงดังกล่าวลงจากยอดเสาในพิธีปิด[1] รวมถึงยังใช้บรรเลงก่อนเริ่มการประชุมสมัยสามัญ (ไอโอซีเซสชัน) และสมัยวิสามัญ (โอลิมปิกคองเกรส) ของไอโอซีอีกด้วย[ต้องการอ้างอิง]
เนื้อเพลง
แปลตรงตัวเป็นภาษาอังกฤษ[2]
|
แปลตรงตัวเป็นภาษาไทย
|
O Ancient Spirit immortal, pure father
of the beautiful, the great and the true,
Descend, appear, and sparkle over here
to the glory of thine own earth and heaven.
At running and at wrestling and at throwing,
shine in the momentum of noble contests,
and crown with the unfading branch,
𝄆 and make the body worthy and ironlike. 𝄇
Plains, mountains and seas shine with thee
like a great white-purple temple.
𝄆 And thy pilgrim is running to this here temple, 𝄇
𝄆 O Ancient Spirit immortal, of every people. 𝄇
|
จิตวิญญาณโบราณอันอมตะ บิดาผู้บริสุทธิ์
แห่งความงดงาม ความยิ่งใหญ่ และความสัจจริง,
โปรดลงมา ปรากฏกาย และก่อเป็นประกาย ณ ที่นี้
เพื่อความรุ่งโรจน์แห่งสรวงสวรรค์แลแผ่นดินของท่านเอง
ในการวิ่งแลการต่อสู้แลการขว้างจักร,
การเคลื่อนไหวโชติช่วงเป็นประกายแห่งการแข่งขันอันสูงศักดิ์,
แลมงกุฎจากกิ่งไม้อันมิร่วงโรย
แลทำให้กายาเป็นที่เคารพและแข็งแกร่งดังเหล็กกล้า (x2)
ที่ราบ ภูเขา แลทะเลเปล่งประกายโชติช่วงไปกับเจ้า
ดุจวิหารม่วงอมขาวอันยิ่งใหญ่
แลผู้เดินทางของเจ้ากำลังวิ่งมายังวิหารที่นี้เอง, (x2)
จิตวิญญาณโบราณอันอมตะ, ปวงประชา (x2)
|
ต้นฉบับภาษากรีก
|
ถอดเป็นสัทอักษรสากล
|
ถอดเป็นอักษรละติน
|
ถอดเป็นอักษรไทย
|
Αρχαίο Πνεύμα αθάνατο, αγνέ πατέρα
του ωραίου, του μεγάλου και του αληθινού,
Κατέβα, φανερώσου κι άστραψε εδώ πέρα
στη δόξα της δικής σου γης και τ' ουρανού.
Στο δρόμο και στο πάλεμα και στο λιθάρι
Στων ευγενών αγώνων λάμψε την ορμή
Και με το αμάραντο στεφάνωσε κλωνάρι
𝄆 και σιδερένιο πλάσε και άξιο το κορμί. 𝄇
Κάμποι, βουνά και θάλασσες φέγγουνε μαζί σου
σαν ένας λευκοπόρφυρος μέγας ναός.
𝄆 Και τρέχει στο ναό εδώ προσκυνητής σου 𝄇
𝄆 Αρχαίο Πνεύμα αθάνατο, κάθε λαός. 𝄇
|
[arˈçeo ˈpnevm(a) aˈθanato aɣˈne paˈtera]
[t(u) oˈre.u tu meˈɣalu ce t(u) aliθiˈnu]
[kaˈteva faneˈrosu c‿ˈastraps(e) eˈðo ˈpera]
[sti ˈðoksa tis ðiˈcis su ʝis ce t‿uraˈnu]
[sto ˈðromo ce sto ˈpalema ce sto liˈθari]
[ston evʝeˈnon aˈɣonon ˈlabse tin orˈmi]
[ce me t(o) aˈmarando steˈfanose kloˈnari]
[ce siðeˈrenio ˈplase c(e) ˈaksio to korˈmi] (2x)
[ˈka(m)bi vuˈna ce ˈθalases ˈfegun(e) maˈzi su]
[san ˈenas lefkoˈporfiros ˈmeɣas naˈos]
[ce ˈtreçi sto naˈo eˈðo prosciniˈtis su] (2x)
[arˈçeo ˈpnevm(a) aˈθanato ˈkaθe laˈos] (2x)
|
Archaéo Pnévma athánato, agné patéra
tou oréou, tou megálou ke tou alithinoú
Katéva, phanerósou ki ástrapse edó péra
sti dóxa tis dikís sou gis ke t'ouranoú.
Sto drómo ke sto pálema ke sto lithári
Ston evgenón agónon lámpse tin ormí.
Ke me to amáranto stephánose klonári
𝄆 ke siderénio pláse ke áxio to kormí. 𝄇
Kámpe, vouná ke thálasses phéngoune mazí sou
san énas lefkopórfyros mégas naós
𝄆 Ke tréchi sto naó edó proskynitís sou 𝄇
𝄆 Archaéo Pnévma athánato, káthe laós. 𝄇
|
อาร์เคโอ ปเนฟมา อะทานาโต, อัคเน ปาเตรา
ตู โอเรอู, ตู เมกาโล เค ตู อะลิทินู,
คาเตวา, ฟาเนโรซู คี อัสตรัปเซ เอโด เปรา
สตี โดกซา ติส ดิกีส ซู ยิส เค ตูราโน
สโต โดรโม เค สโต ปาเลมา เค สโต ลิทารี
สโตน เอฟเยโนน อะกอโนน ลามป์เซ ติน โอร์มี
เค เม โต อามารานโด สเตฟาโนเซ โคลนารี
เค ซีเดเรนีโอ ปลาเซ เค อากซิโอ โด โคร์มี (2x)
คามบี, วูนา เค ทาลาสเซส เฟนกูเน มาซี ซู
ซาน เอนาส เอฟโกโปร์ฟีโรส เมกาส นาโอส
เค เตรคี สโต นาโอ เอโด โปรสกีนีติส ซู (2x)
อาร์เคโอ ปเนฟมา อะทานาโต, คาเท ลาโอส (2x)
|
เวอร์ชันภาษาอังกฤษ
เพลงเวอร์ชันภาษาอังกฤษประพันธ์โดย W. Earl Brown และ Shirley Russ โดยถูกใช้เป็นเนื้อร้องในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกบางรายการนับแต่ปี 2527 เป็นต้นมา (โอลิมปิกฤดูหนาวปี ค.ศ. 1960 และ 1980 ใช้คำร้องแตกต่างจากฉบับนี้)
ฉบับภาษาอังกฤษ
|
แปลเป็นภาษาไทย
|
Olympian flame immortal
Whose beacon lights our way
Emblaze our hearts with the fires of hope
On this momentous day
As now we come across the world
To share these Games of old
Let all the flags of every land
In brotherhood unfold
Sing out each nation, voices strong
Rise up in harmony
All hail our brave Olympians
With strains of victory
Olympic light burn on and on
O’er seas and mountains and plains
Unite, inspire, bring honour
To these ascending games
May valour reign victorious
Along the path of golden way
As tomorrow’s new champions now come forth
Rising to the fervent spirit of the game
Let splendour pervade each noble deed
Crowned with glory and fame
And let fraternity and fellowship
Surround the soul of every nation
Oh flame, eternal in your firmament so bright
Illuminate us with your everlasting light
That grace and beauty and magnificence
Shine like the sun
Blazing above
Bestow on us your honour, truth and love[3]
|
เพลิงโอลิมปิกอันอมตะ
ของใครผู้ส่องนำทางเราไป
ช่วยจุดดวงใจของเราขึ้นด้วยไฟแห่งความหวัง
ในวันอันสำคัญยิ่งนี้
บัดนี้เรามารวมกันจากทั่วทั้งโลก
เพื่อร่วมกันในการแข่งขันเก่าแก่นี้
ให้ธงทุกผืนของทุกแผ่นดิน
ได้โบกไสวฉันพี่น้องกัน
ต่างร้องเพลงกันออกมา ด้วยเสียงทรงพลัง
ลุกขึ้นมาประสานเสียง
ผู้คนต่างอวยชัยแด่นักกีฬาโอลิมปิกผู้กล้าหาญของเรา
ด้วยสายใยแห่งชัยชนะ
เพลิงโอลิมปิกจะลุกโชติช่วงต่อไป
เหนือท้องทะเลและภูเขาและผืนแผ่นดิน
สามัคคี ดลใจ นำมาซึ่งเกียรติยศ
แด่การแข่งขันนับจากนี้ไป
ขอให้ความกล้าหาญได้ครองชัยชนะ
ไปตามถนนสายทองคำ
เมื่อผู้ชนะคนใหม่ของพรุ่งนี้ออกไปแล้ว
ไปสู่จิตวิญญาณอันแรงกล้าแห่งการแข่งขัน
ขอให้ความงามสง่าจงแผ่ไปทั่วทุกการกระทำอันสูงส่ง
ประดับด้วยชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์
และให้ภราดรภาพและสัมพันธภาพ
โอบล้อมจิตวิญญาณของทุกชาติชนไว้
โอ้เพลิง ลุกโชตินิรันดร์กลางนภาอากาศ
ช่วยส่องนำเรา ด้วยแสงอันเป็นนิรันดร์
ด้วยความดีงามความงดงามและความสง่านั่น
ส่องประกายคล้ายดวงตะวัน
สว่างไสวอยู่เบื้องบน
โปรดมอบเกียรติยศ ความสัจจริง และรักแก่เราเถิด
|
เพลงในเวอร์ชันอังกฤษ ปกติแล้วจะใช้กันในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก นอกจากนี้ยังมีคำร้องเป็นภาษาอื่นนอกเหนือจากภาษากรีกและภาษาอังกฤษด้วย โดยมักถูกแปลไปเป็นภาษาที่จะใช้ในการร้อง แต่บางการแข่งขันก็แตกต่างออกไป เช่น ในปักกิ่งเกมส์ 2008 มีการใช้เนื้อร้องภาษากรีกแทนภาษาจีน และรีโอเดจาเนโรเกมส์ 2016 มีการร้องเป็นภาษาอังกฤษแทนภาษาโปรตุเกส โตเกียวเกมส์ 2020 ใช้เนื้อเพลงฉบับภาษาอังกฤษแทนภาษาญี่ปุ่น การแข่งขันเดียวที่ใช้เนื้อร้องเวอร์ชันภาษาอังกฤษในการแปลไปเป็นภาษาอื่น คือ ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2010 ณ แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยโดโนแวน เซเดล ผู้ช่วยวาทยากรในระหว่างการแข่งขันได้เรียบเรียงเพลงสดุดีโอลิมปิกขึ้นใหม่ มีการแปลบางบทหนึ่งของกวีไปเป็นภาษาฝรั่งเศสเพื่อแสดงถึงการรับรองการมีภาษาราชการสองภาษาในประเทศแคนาดาอย่างเป็นทางการ[4][5][6]
รายการแสดงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
เพลงสดุดีโอลิมปิกได้รับการบันทึกและบรรเลงเป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย โดยมักเป็นผลมาจากการได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิกสากลมิได้บังคับให้มีการบรรเลงเพลงนี้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษากรีกเท่านั้น แต่ในพิธีเปิดและปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 และโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ณ ปักกิ่ง ประเทศจีน ได้มีการขับร้องเพลงนี้เป็นภาษากรีกแทนที่ภาษาจีนกลางซึ่งเป็นภาษาราชการของประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีในพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ณ รีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ที่มีการใช้ภาษาอังกฤษในการขับร้องแทนภาษาโปรตุเกสซึ่งเป็นภาษาราชการของเจ้าภาพเช่นกัน[5]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง