หนังสือผู้วินิจฉัย บทที่ 8
ผู้วินิจฉัย 8 (อังกฤษ : Judges 8 ) เป็นบทที่ 8 ของหนังสือผู้วินิจฉัย ในพันธสัญญาเดิม หรือคัมภีร์ฮีบรู ตามธรรมเนียมของศาสนายูดาห์เชื่อว่าหนังสือผู้วินิจฉัยเขียนโดยผู้เผยพระวจนะซามูเอล [ 2] [ 3] แต่นักวิชาการสมัยใหม่มองว่าหนังสือผู้วินิจฉัยเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สายเฉลยธรรมบัญญัติซึ่งครอบคลุมเรื่องราวตั้งแต่หนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ ถึงหนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 2 เชื่อว่าเขียนโดย เขียนโดยผู้เขียนศาสนายาห์เวห์ผู้รักชาติและศรัทธาในสมัยของโยสิยาห์ กษัตริย์ยูดาห์นักปฏิรูปในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล[ 3] บทที่ 8 ของหนังสือผู้วินิจฉัยบันทึกถึงกิจกรรมของผู้วินิจฉัย กิเดโอน อยู่ในส่วนที่ประกอบด้วยผู้วินิจฉัย 6 ถึง 9 และในส่วนที่ใหญ่กว่าคือตั้งแต่วินิจฉัย 6:1 ถึง 16:31
ต้นฉบับ
บทนี้เดิมเขียนด้วยภาษาฮีบรู แบ่งออกเป็น 35 วรรค
พยานต้นฉบับ
บางต้นฉบับในยุคต้นที่มีข้อความของบทนี้เป็นภาษาฮีบรู มีลักษณะเป็นต้นฉบับเมโซเรติก (Masoretic Text) ได้แก่ ได้แก่ ฉบับไคโร (Codex Cairensis; ค.ศ. 895), ฉบับอะเลปโป (Aleppo Codex; ศตวรรษที่ 10) และฉบับเลนินกราด (Leningrad Codex; ค.ศ. 1008) ชิ้นส่วนที่มีข้อความบางส่วนของบทนี้ในภาษาฮีบรูถูกพบในม้วนหนังสือเดดซี ได้แก่ 1Q6 (1QJudg; < 68 ปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งมีวรรคที่หลงเหลือคือ 1[ 9] [ 11]
สำเนาต้นฉบับโบราณที่หลงเหลืออยู่ของคำแปลเป็นภาษากรีกคอยนี ที่รู้จักในชื่อเซปทัวจินต์ (ทำขึ้นในช่วงไม่กี่ศตวรรษสุดท้ายก่อนคริสตกาล) ได้แก่ ฉบับวาติกัน (Codex Vaticanus; B ;
G
{\displaystyle {\mathfrak {G}}}
B ; ศตวรรษที่ 4) และฉบับอะเล็กซานเดรีย (Codex Alexandrinus; A ;
G
{\displaystyle {\mathfrak {G}}}
A ; ศตวรรษที่ 5)[ a]
วิเคราะห์
การศึกษาด้านภาษาศาสตร์โดยชิสโฮล์มเผยให้เห็นว่าเนื้อหาส่วนกลางของหนังสือผู้วินิจฉัย (ผู้วินิจฉัย 3:7–16:31) สามารถแบ่งได้เป็น 2 ช่วงตาม 6 คำสร้อยที่กล่าวว่าชาวอิสราเอลทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์:
ช่วงที่ 1
A 3:7 ויעשו בני ישראל את הרע בעיני יהוה
คนอิสราเอลทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์[ 15]
B 3:12 ויספו בני ישראל לעשות הרע בעיני יהוה
และคนอิสราเอลทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์อีก
B 4:1 ויספו בני ישראל לעשות הרע בעיני יהוה
คนอิสราเอลก็ ทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์อีก
ช่วงที่ 2
A 6:1 ויעשו בני ישראל הרע בעיני יהוה
แล้วคนอิสราเอลก็ ทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์
B 10:6 ויספו בני ישראל לעשות הרע בעיני יהוה
คนอิสราเอลก็ ทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์อีก
B 13:1 ויספו בני ישראל לעשות הרע בעיני יהוה
คนอิสราเอลได้ทำสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระยาห์เวห์อีก
นอกจากนี้จากหลักฐานทางภาษา คำกริยาที่ใช้อธิบายการที่พระเจ้าทรงตอบสนองต่อบาปของชาวอิสราเอลก็มีรูปแบบซ้ำ ๆ และสามารถจัดกลุ่มให้เข้ากับการแบ่งส่วนข้างต้น:
ช่วงที่ 1
3:8 וימכרם , "ทรงขายพวกเขา," จากรากศัพท์ מָכַר , makar
3:12 ויחזק , "ทรงเสริมกำลัง" จากรากศัพท์ חָזַק , khazaq
4:2 וימכרם , "ทรงขายพวกเขา" จากรากศัพท์ מָכַר , makar
ช่วงที่ 2
6:1 ויתנם , "ทรงมอบพวกเขาไว้" จากรากศัพท์ נָתַן , nathan
10:7 וימכרם , "ทรงขายพวกเขาไว้" จากรากศัพท์ מָכַר , makar
13:1 ויתנם , "ทรงมอบพวกเขาไว้" จากรากศัพท์ נָתַן , nathan
เรื่องราวของอาบีเมเลคแท้จริงแล้วเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องกับเรื่องราวของกิเดโอน ช่วยแก้ไขความซับซ้อนจำนวนหนึ่งในเรื่องราวของกิเดโอน
ในเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวที่การทูลร้องทุกข์ของชาวอิสราเอลต่อพระยาห์เวห์ได้พบกับการทรงตำหนิิอย่างรุนแรงมากกว่าจะช่วยให้รอดในทันที ทั้งวงจรกล่าวถึงประเด็นเรื่องความไม่ซื่อสัตย์และความเสื่อมถอยทางศาสนา
เรื่องราวของกิเดโอน (6:1–8:32) ประกอบด้วย 5 ส่วนตามเส้นร่วมศูนย์กลาง — มีความคล้ายคลึงระหว่างส่วนแรก (A) และส่วนที่ 5 (A') เช่นเดียวกับระหว่างส่วนที่ 2 (B) และส่วน 4 (B') ในขณะส่วนที่ 3 (C) อยู่โดด ๆ — สร้างรูปแบบสมมาตรดังนี้:
A. อารัมภบทถึงกิเดโอน (6:1–10)
B. แผนช่วยให้รอดของพระเจ้าผ่านการทรงเรียกกิเดโอน—เรื่องราวของสองแท่นบูชา (6:11–32)
B1. แท่นบูชาแรก—การทรงเรียกและมอบหมายแก่กิเดโอน (6:11–24)
B2. แท่นบูชาที่สอง—การบุกเพื่อชำระบ้าน (6:25–32)
C. การฝ่าฟันเพื่อความเชื่อของตัวกิเดโอน (6:33–7:18)
a. กิเดโอนที่ได้รับการทรงสถิตของพระวิญญาณระดมพล 4 เผ่าเพื่อเตรียมรบกับชาวมีเดียนแม้ยังไม่มั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้า (6:33–35)
b. กิเดโอนขอหมายสำคัญจากพระเจ้าด้วยขนแกะสองกลุ่มเพื่อยืนยันพระสัญญาที่ว่าพระยาห์เวห์จะทรงมอบชาวมีเดียนไว้ในมือของกิเดโอน (6:36-40)
c. เมื่อให้ชาวอิสราเอลที่หวาดกลัวกลับไป พระเจ้าทรงบัญชาให้กิเดโอนลงไปที่น้ำเพื่อลดกำลังพลของเขาลงไปอีก (7:1–8)
c'. ด้วยเหตุที่ตัวกิเดโอนยังรู้สึกกลัว พระเจ้าจึงทรงบัญชาให้กิเดโอนลงไปที่ค่ายศัตรูเพื่อฟังคำศัตรู (7:9–11)
b'. พระเจ้าประทานหมายสำคัญแก่กิเดโอนด้วยความฝันของชาวมีเดียน และการตีความความฝันเพื่อยืนยันพระสัญญาที่พระยาห์เวห์จะทรงมอบชาวมีเดียนไว้ในมือของกิเดโอน (7:12–14)
a'. กิเดโอนผู้มนัสการพระยาห์เวห์ได้ระดมพล 300 คนเข้าโจมตีชาวมีเดียนอย่างฉับพลันด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมในพระสัญญาของพระเจ้า (7:15–18)
B'. การทรงช่วยให้รอดของพระเจ้าจากชาวมีเดียน—เรื่องราวของสองยุทธการ (7:19–8:21)
B1'. ยุทธการแรก (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน) (7:19–8:3)
B2'. ยุทธการที่สอง (ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน) (8:4–21)
A'. ปัจฉิมบทถึงกิเดโอน (8:22–32)
เรื่องเล่าของอาบีเมเลค (ผู้วินิจฉัย 8:33–9:5) ในฐานะบทต่อ (และเป็นบทสรุป) ของเรื่องเล่าของกิเดโอน (6:1–8:32) ประกอบด้วยอารัมภบท (8:33–35) ตามด้วยเนื้อเรื่อง 2 ส่วน:
ส่วนที่ 1: การผงาดขึ้นของอาบีเมเลค (9:1–24)
ส่วนที่ 2: ความพินาศของอาบีเมเลค (9.25–57).
แต่ละส่วนประกอบด้วยส่วนย่อย 3 ส่วนพร้อมส่วนเชื่อมระหว่างส่วนย่อย จึงแสดงได้ดังโครงสร้างต่อไปนี้:
อารัมบท (8:33–35)
ส่วนที่ 1: การผงาดขึ้นของอาบีเมเลค (9:1–24)
A. การทรยศของอาบีเมเลคต่อตระกูลเยรุบบาอัล (9:1–6)
B. อุปมาเรื่องต้นไม้ 4 ต้นของโยธามและคำแช่งมีเงื่อนไข (9:7–21)
a. อุปมา (9:7–15)
b. คำแช่ง (9:16–21)
C. ข้อยืนยันแรกของผู้เล่าเรื่อง (9:22–24)
ส่วนที่ 2: ความพินาศของอาบีเมเลค (9:25–57)
A. การทรยศ 2 องก์ของเชเคมต่ออาบีเมเลค (9:25–41)
B. การบรรลุผลของอุปมา: การปราบปรามสามองก์ของอาบีเมเลค (9:42–55)
a. การปราบปรามองก์แรก (9:42–45)
b. การปราบปรามองก์ที่สอง (9:46–49)
c. การปราบปรามองก์ที่สาม (9:50–55)
C ข้อยืนยันที่สองของผู้เล่าเรื่อง (9:56–57)
กิเดโอนเอาใจเผ่าเอฟราอิม (8:1–3)
กิเดโอนชนะเศบาห์และศัลมุนนา (8:4–21)
กิเดโอนปฏิเสธการขึ้นเป็นกษัตริย์ (8:22–28)
การเปลี่ยนผ่านจากกิเดโอนเป็นอาบีเมเลค (8:29–35)
ดูเพิ่ม
ส่วนในคัมภีร์ไบเบิล ที่เกี่ยวข้อง: ผู้วินิจฉัย 6 , ผู้วินิจฉัย 7 , ผู้วินิจฉัย 9
หมายเหตุ
↑ หนังสือผู้วินิจฉัยทั้งเล่มขาดหายไปจากฉบับซีนาย (Codex Sinaiticus) ที่หลงเหลืออยู่[ 13]
อ้างอิง
บรรณานุกรม
Chisholm, Robert B. Jr. (2009). "The Chronology of the Book of Judges: A Linguistic Clue to Solving a Pesky Problem" (PDF) . Journal of the Evangelical Theological Society . 52 (2): 247–55. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2022-11-08. สืบค้นเมื่อ 2024-01-30 .
Coogan, Michael David (2007). Coogan, Michael David; Brettler, Marc Zvi; Newsom, Carol Ann; Perkins, Pheme (บ.ก.). The New Oxford Annotated Bible with the Apocryphal/Deuterocanonical Books: New Revised Standard Version, Issue 48 (Augmented 3rd ed.). Oxford University Press. ISBN 978-0-19-528881-0 .
Fitzmyer, Joseph A. (2008). A Guide to the Dead Sea Scrolls and Related Literature . Grand Rapids, MI: William B. Eerdmans Publishing Company. ISBN 978-0-8028-6241-9 .
Halley, Henry H. (1965). Halley's Bible Handbook: an abbreviated Bible commentary (24th (revised) ed.). Zondervan Publishing House. ISBN 0-310-25720-4 .
Hayes, Christine (2015). Introduction to the Bible . Yale University Press. ISBN 978-0-300-18827-1 .
Niditch, Susan (2007). "10. Judges". ใน Barton, John ; Muddiman, John (บ.ก.). The Oxford Bible Commentary (first (paperback) ed.). Oxford University Press. pp. 176–191. ISBN 978-0-19-927718-6 . สืบค้นเมื่อ February 6, 2019 .
Ulrich, Eugene, บ.ก. (2010). The Biblical Qumran Scrolls: Transcriptions and Textual Variants . Brill.
Webb, Barry G. (2012). The Book of Judges . New International Commentary on the Old Testament . Eerdmans Publishing Company. ISBN 978-0-8028-2628-2 .
Würthwein, Ernst (1995). The Text of the Old Testament . แปลโดย Rhodes, Erroll F. Grand Rapids, MI: Wm. B. Eerdmans. ISBN 0-8028-0788-7 . สืบค้นเมื่อ January 26, 2019 .
Younger, K. Lawson (2002). Judges and Ruth . The NIV Application Commentary. Zondervan. ISBN 978-0-310-20636-1 .
แหล่งข้อมูลอื่น