เรวัช กลิ่นเกษร
พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร (เกิดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498) เป็นอดีตนายตำรวจชาวไทย เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และรักษาการผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นที่รู้จักจากฉายา "มือปราบศยามล" และ "มือปราบขุนดง" ประวัติเรวัช กลิ่นเกษร เกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2499 (ตามใบแจ้งเกิดตรงกับวันอาทิตย์ แรม 3 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม) อย่างไรก็ตาม มารดาได้จดจำวันเกิดจริงไว้เป็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 เขาเติบโตในครอบครัวเจ้าของโรงสี แต่ระหว่างที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้เป็นตาถูกกลุ่มโจรบุกปล้นและฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ พล.ต.ท.เรวัช ในตอนนั้น ต้องกลายเป็นพยานปากเอก ติดตามตำรวจไปชี้ตัวทุกครั้งที่มีการล่าคนร้าย สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนร้ายเป็นอย่างมาก ทำให้ พล.ต.ท.เรวัช โดนดักฆ่า จึงต้องพกปืน .38 ติดตัวและอยู่ในความดูแลของตำรวจ จนเป็นจุดเริ่มต้นกับความฝันที่อยากจะเป็นตำรวจของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร เรวัชสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับปริญญาโทสาขาอาชญาวิทยา จากมหาวิทยาลัยมหิดล หลังเกษียณราชการในเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 เรวัชได้เปิดธุรกิจร้านอาหารและไร่องุ่นชื่อว่า “ณ กานดา” ที่จังหวัดกาญจนบุรี[1][2] ในวันเกษียณราชการ มีบุตรชายทั้ง 5 คนแต่งเครื่องแบบตำรวจเข้าร่วมพิธีอำลาตำรวจของ พล.ต.ท. เรวัช ที่สโมสรตำรวจ สร้างความสนใจให้แก่สื่อมวลชนเมื่อทราบว่าทั้ง 5 คนเป็นบุตรชายของเรวัช ซึ่งล้วนเข้ารับราชการตำรวจตามรอยผู้เป็นพ่อ[3] ต่อมา บุตรชายคนหนึ่งในจำนวนนี้ได้สอบผ่านเนติบัณฑิต และย้ายสายงานไปรับราชการเป็นอัยการจังหวัด รับราชการพล.ต.ท. เรวัช เริ่มต้นรับราชการเป็นเสมียนที่จังหวัดชัยนาท ก่อนขยับขึ้นมาเป็นปลัดอำเภอ ทำหน้าที่ติดตามดูแลนายอำเภอ ช่วงผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์อาละวาดหนัก ชีวิตพลิกผันกลายเป็น “มือปืนในเครื่องแบบฝ่ายปกครอง” ก่อนที่จะตัดสินใจสอบบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ เพราะเป็นความชอบส่วนตัว[4] พล.ต.ท.เรวัช ได้จบหลักสูตรอบรมนายร้อยตำรวจ รุ่น 24 กระทั่งได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ร้อยตำรวจตรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2522 รุ่นเดียวกับ
กระทั่งได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาตามลำดับจนกระทั่งได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 สืบต่อจาก พล.ต.ท. สุรพล ทวนทอง ที่ขยับขึ้นไปดำรงตำแหน่งจเรตำรวจ[6] พร้อมกับรับพระราชทานยศพลตำรวจโท ก่อนจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559 โดยในระหว่างรับราชการได้สร้างผลงานไว้มากมาย เช่น คลี่คลายคดีฆาตกรรมศยามล จนได้รับฉายา มือปราบศยามล แต่ระหว่างที่ไปรับราชการอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และมียศร้อยตำรวจเอก เกิดไปมีเรื่องจนโดนสั่งย้ายห้ามเข้าลพบุรี และสระบุรี ต่อมาในวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งพล.ต.ท. เรวัชเป็นกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ แทนพล.ต.อ. ปัญญา มาเม่น ที่ลาออกไป[7] พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร ติดยศ “นายพล” ขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีเมื่อปี 2550[8] โดยขยับมาจากตำแหน่ง รองผู้บังคับการศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 แล้วย้ายเป็นผู้บังคับการประจำสำนักงานจเรตำรวจ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รองจเรตำรวจ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และนั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กระทั่งเกษียณอายุราชการในปี 2559 เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิงวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ เรวัช กลิ่นเกษร
|
Portal di Ensiklopedia Dunia