หลิน เปียว
หลิน เปียว (จีน: 林彪; พินอิน: Lín Biāo; 5 ธันวาคม ค.ศ. 1907 – 13 กันยายน ค.ศ. 1971) เป็นนักการเมืองชาวจีนและจอมพลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้มีบทบาทสำคัญในการนำพาพรรคคอมมิวนิสต์ชนะสงครามกลางเมืองจีน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนตั้งแต่ ค.ศ. 1946 ถึง 1949 หลินเป็นแม่ทัพผู้บัญชาการในการทัพเหลียวเฉิ่นและผิงจินอย่างเด็ดขาด โดยเขาร่วมนำกองทัพสนามแมนจูเรียสู่ชัยชนะและนำกองทัพปลดปล่อยประชาชนเข้าสู่ปักกิ่ง เขาข้ามแม่น้ำแยงซีใน ค.ศ. 1949 สามารถเอาชนะก๊กมินตั๋งได้อย่างเด็ดขาด และเข้ายึดครองมณฑลชายฝั่งทะเลในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เขาอยู่ในอันดับที่สามในบรรดาสิบจอมพล จู เต๋อ และเผิง เต๋อหวย นั้นถือว่าอาวุโสกว่าหลิน และหลินก็มีอาวุโสสูงกว่าเฮ่อ หลง และหลิว ปั๋วเฉิง หลินงดบทบาททางการเมืองหลังสงครามยุติลงใน ค.ศ. 1949 เขาดำรงตำแหน่งหนึ่งในรองนายกรัฐมนตรีร่วมของสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่ ค.ศ. 1954 เป็นต้นมา โดยมีหน้าที่ดูแลระบบราชการพลเรือนส่วนหนึ่งของรัฐบาล และเลื่อนขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีลำดับที่หนึ่งใน ค.ศ. 1964 หลิน มีบทบาททางการเมืองมากขึ้นเมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในรองประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีนร่วมใน ค.ศ. 1958 เขาดำรงสามตำแหน่ง คือ รองนายกรัฐมนตรี รองประธานพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตั้งแต่ ค.ศ. 1959 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน หลินเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของจีน หลินมีส่วนในการสร้างรากฐานให้เกิดลัทธิบูชาบุคคลของเหมา เจ๋อตงในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 และรับการตอบแทนจากการรับใช้การปฏิวัติทางวัฒนธรรมด้วยการได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งที่เหมากำหนดให้ตั้งแต่ ค.ศ. 1966 กระทั่งเสียชีวิต หลินเสียชีวิตในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1971 เมื่อเครื่องบินฮอว์เกอร์ ซิดเดลีย์ ไทรเดนต์ ที่เขากำลังโดยสารอยู่ประสบอุบัติเหตุตกที่อันดูร์ข่าน ประเทศมองโกเลีย "อุบัติการณ์หลิน เปียว" นี้ยังคงเป็นปริศนาและมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับรายละเอียดที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด รัฐบาลจีนให้คำอธิบายอย่างเป็นทางการว่าหลินและครอบครัวของเขาพยายามหลบหนีหลังการก่อรัฐประหารเพื่อโค่นเหมาล้มเหลว ส่วนผู้อื่นโต้แย้งว่าพวกเขาหลบหนีเพราะกลัวว่าจะถูกกำจัด เนื่องจากความสัมพันธ์ของหลินกับผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ นั้นย่ำแย่ลงในช่วงไม่กี่ปีสุดท้ายของชีวิตเขา หลังการเสียชีวิตของหลิน พรรคคอมมิวนิสต์ได้ประณามอย่างเป็นทางการว่าเขาเป็นผู้ทรยศ ตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1970 หลินและเจียง ชิง ภริยาของเหมาถูกตราหน้าว่าเป็น "กองกำลังต่อต้านการปฏิวัติ" ที่สำคัญที่สุดสองกลุ่มของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และถูกรัฐบาลจีนตำหนิอย่างเป็นทางการว่าเป็นต้นเหตุของการกระทำที่เลวร้ายที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว อ้างอิง |
Portal di Ensiklopedia Dunia