นิวคาสเซิลยูไนเต็ดฤดูกาล 2022–23 |
---|
เจ้าของ | กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ RB Sports & Media PCP Capital Partners |
---|
ประธานสโมสร | ยาซิร อัรรุมัยยาน |
---|
ผู้จัดการทีม | เอ็ดดี ฮาว |
---|
สนาม | เซนต์เจมส์พาร์ก |
---|
พรีเมียร์ลีก | อันดับที่ 4 |
---|
เอฟเอคัพ | รอบ 3 |
---|
อีเอฟแอลคัพ | รองชนะเลิศ |
---|
ผู้ทำประตูสูงสุด | ลีก: แคลลัม วิลสัน (18) ทั้งหมด: แคลลัม วิลสัน (18) |
---|
ผู้เข้าชมในบ้านสูงสุด | 52,758 พบ ลิเวอร์พูล, พรีเมียร์ลีก, 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023 |
---|
ผู้เข้าชมในบ้านต่ำสุด | 51,579 พบ บอร์นมัท, อีเอฟแอล, 20 ธันวาคม ค.ศ. 2022 |
---|
ผู้เข้าชมในบ้านเฉลี่ย | 52,127 คน |
---|
ชนะสูงสุด | 6–1 พบ ทอตนัมฮอตสเปอร์, พรีเมียร์ลีก, 23 เมษายน ค.ศ. 2023 |
---|
แพ้สูงสุด | 0–3 พบ แอสตันวิลลา, พรีเมียร์ลีก, 15 มษายน ค.ศ. 2023 |
---|
|
|
|
|
ฤดูกาล 2022–23 เป็นฤดูกาลที่ 130 ในการดำรงอยู่ของนิวคาสเซิลยูไนเต็ดและเป็นฤดูกาลที่ 6 ติดต่อกันของสโมสรในพรีเมียร์ลีก นอกจากลีกแล้ว พวกเขายังจะแข่งขันใน เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2022–23 และ อีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2022–23 จบด้วยการเป็นรองแชมป์ในการแข่งขันรายการหลัง พวกเขาผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2002–03 ภายใต้การคุมทีมของเซอร์บ็อบบี ร็อบสัน โดยมีแอลัน เชียเรอร์ ผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรเป็นกัปตันทีม[1]
สรุปฤดูกาล
ก่อนเปิดฤดูกาล
หลังจากปิดฤดูกาล นิวคาสเซิล ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว อเล็กซ์ เมอร์ฟี่ เซ็นเตอร์ดาวรุ่งวัย 18 ปีของสโมสร กัลเวย์ยูไนเต็ด เข้าสู่ทีมเยาวชนของสโมสรแบบไม่มีการเปิดเผยค่าตัว เมื่อวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม โดยจะเข้าร่วมทีมในวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม[2] ต่อมาในวันพุธที่ 8 มิถุนายน นิวคาสเซิล ได้จ่ายเงินค่าตัว 15 ล้านปอนด์ เพื่อปิดดีลคว้าตัว แมตต์ ทาร์เก็ตต์ ที่ทางสโมสรยืมตัวมาใช้งานในฤดูกาลที่ผ่านมา เข้ามาเป็นการถาวรจาก แอสตันวิลลา[3]
ก่อนหน้านั้น 1 วันคือในวันอังคารที่ 7 มิถุนายน นิวคาสเซิลได้ปล่อยให้ นอริชซิตี ที่ตกชั้นไปเล่นใน อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ยืมตัว ไอแซก เฮย์เดน กองกลางตัวรับไปใช้งานจนจบฤดูกาลพร้อมออปชั่นซื้อขาด หลังจากถูก เอ็ดดี ฮาว ตัดชื่อออกจากทีมเมื่อช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา และไม่อยู่ในแผนการทำทีมของฮาว[4] โดยทั้ง 3 ดีลมีผลอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์เปิดทำการ ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน นิวคาสเซิล ได้ปิดดีลคว้าตัว นิก โพป ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษจาก เบิร์นลีย์ ที่ตกชั้นไปเล่นใน แชมเปียนชิป มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์[5]
โดยก่อนหน้านั้น 2 วันคือในวันอังคารที่ 21 มิถุนายน พวกเขาตัดสินใจขาย เฟรดดี วูดแมน ผู้รักษาประตูสำรองของทีมวัย 25 ปีให้กับ เพรสตันนอร์ทเอนด์ ทีมใน อีเอฟแอลแชมเปียนชิป แบบไม่เปิดเผยค่าตัว[6] ต่อมาในวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน ฟาบรีซีโอ โรมาโน นักข่าวชื่อดังซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการซื้อขายนักเตะ เจ้าของวลีดังว่า Here We Go ได้โพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัวยืนยันว่า นิวคาสเซิล ได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว สเวน บอตมัน ปราการหลังชาวดัตช์จาก ลีลล์ ด้วยค่าตัวจำนวน 37 ล้านยูโร (หรือประมาณ 1,369 ล้านบาท) บวกส่วนเสริม ซึ่ง นิวคาสเซิล มีทีมคู่แข่งในการยื่นข้อเสนอซื้อตัว บอตมัน เช่นเดียวกันคือ เอซี มิลาน[7]
นอกจากนี้ทาง นิวคาสเซิล ยังได้เปลี่ยนแปลงชุดแข่งของทีมที่ใช้ในฤดูกาลนี้เพื่อฉลองครบรอบ 130 ปีการก่อตั้งทีม[8] กระทั่งวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน สเวน บอตมัน ได้เดินทางมายังสนามฝึกซ้อมของ นิวคาสเซิล เพื่อตรวจร่างกายและเซ็นสัญญากับทาง นิวคาสเซิล[9] และได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้นคือในวันอังคารที่ 28 มิถุนายน พร้อมสัญญายาว 5 ปีโดยมีผลในวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม[10][11] นอกจากนี้ทางนิวคาสเซิลยังได้สปอนเซอร์รายใหม่เข้ามาสนับสนุนทีมคือ noon.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์จากตะวันออกกลาง โดยเป็นสปอนเซอร์ที่แขนเสื้อ[12] จากนั้นในวันรุ่งขึ้นคือในวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม ทางสโมสรได้ปล่อยตัว แดน แลงลีย์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งเด็กปั้นของทีมวัย 21 ปีให้ เกตส์เฮด ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่ เนชันนัลลีก หรือ ดิวิชัน 5 ของอังกฤษซึ่งมี ไมค์ วิลเลียมสัน อดีตปราการหลังของทีมคุมทีมอยู่ยืมตัวไปใช้งานเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนจบฤดูกาล[13]
อีก 2 วันถัดมาคือในวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม นิวคาสเซิล ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว จอร์แดน แฮคเกตต์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งวัย 18 ปีจาก ทอตนัมฮอตสเปอร์ มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว โดยเป็น 1 ใน 8 นักเตะดาวรุ่งที่ได้เซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสร หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจระหว่างมาทดสอบฝีเท้ากับทีม ยู-23 ของสโมสร[14] ถัดมาอีก 2 วันคือในวันพุธที่ 6 กรกฎาคม ทีมสาลิกาดงได้ประกาศยืนยันการคว้าตัว ชาร์ลี แม็คอาร์เธอร์ เซ็นเตอร์แบ็กวัย 17 ปีและกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ ชุด ยู-17 มาจากสโมสร คิลมาร์น็อค แบบไม่เปิดเผยค่าตัว[15] นอกจากนี้ทางสโมสรยังให้ความสนใจในการคว้าตัว มาร์โก อาเซนซิโอ กองกลางทีมชาติสเปนของ เรอัลมาดริด ที่ปัจจุบันตกเป็นตัวสำรองและมีค่าตัวอยู่ที่ 20 ล้านยูโร โดยต้องแข่งกับ อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล[16]
ในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม นิวคาสเซิล ได้ลงสนามอุ่นเครื่องนัดกระชับมิตรเกมแรกเจอกับ เกตส์เฮด ที่ ดาร์สลีย์พาร์ก ศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสร[17] ผลปรากฏว่า นิวคาสเซิล เอาชนะไปได้ 5-1[18] ซึ่งศูนย์ฝึกซ้อมแห่งนี้ทางสโมสรได้รับการอนุมัติจากสภาเมืองให้ปรับปรุงเนื่องจากต่ำกว่ามาตรฐาน[19]
ในวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม ทางสโมสรได้ขาย ดไวท์ เกย์ล กองหน้าตัวสำรองไปให้กับ สโตกซิตี แบบไม่เปิดเผยค่าตัว[20]
สิงหาคม
ผลงานในฤดูกาลนี้เริ่มต้นด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ นอตทิงแฮมฟอเรสต์ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม จากการทำประตูของ ฟาเบียน ชาร์ และ แคลลัม วิลสัน ก่อนจะเสมอ 3 นัดรวดคือเสมอกับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน, แมนเชสเตอร์ซิตี และ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ทำให้มีทั้งหมด 6 แต้ม ก่อนจะออกไปเยือนลิเวอร์พูล แล้วแพ้ด้วยสกอร์ 1-2 เมื่อวันพุธที่ 31 สิงหาคม โดยได้ประตูจาก อาเล็กซันเดอร์ อีซัก กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติสวีเดนที่ซื้อมาจากเรอัลโซซิเอดัด ด้วยค่าตัว 63 ล้านปอนด์ ซึ่งประตูนี้เป็นประตูแรกของเขากับสโมสร
กันยายน
ตามด้วยเปิดบ้านเสมอกับคริสตัลพาเลซ แบบไม่มีสกอร์ 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กันยายน ก่อนจะเลื่อนการแข่งขันออกไปเนื่องจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน ในวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน โลริส คารีอุส ได้ย้ายมาจากลิเวอร์พูล แบบไม่มีค่าตัวจากนั้นในวันเสาร์ที่ 17 กันยายน ก็เปิดบ้านเสมอกับบอร์นมัท 1-1 โดยฟิลิป บิลลิง ทำประตูให้บอร์นมัทขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 62 ก่อนที่อาเล็กซานเดอร์ อีซัก จะทำประตูตีเสมอในนาทีที่ 67
ตุลาคม-พฤศจิกายน
เดือนตุลาคม นิวคาสเซิลชนะ 5 จาก 6 นัดมีเสมอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำให้พวกเขาเก็บได้ 16 คะแนน ในเดือนพฤศจิกายน พวกเขาออกไปเยือนและเอาชนะเซาแทมป์ตัน 4-1 ปิดท้ายด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 1-0 ก่อนหลีกทางให้ฟุตบอลโลก 2022
ธันวาคม
นิวคาสเซิลลงแข่งในช่วงบ็อกซิ่งเดย์เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม โดยออกไปเยือนเอาชนะเลสเตอร์ซิตี 3-1 ก่อนจะเปิดบ้านเสมอกับลีดส์ยูไนเต็ด แบบไม่มีสกอร์ในอีก 5 วันต่อมา
มกราคม–กุมภาพันธ์
ในเดือนมกราคม พวกเขาเก็บได้ 5 แต้มจากการลงสนาม 3 นัดคือเสมอกับอาร์เซนอล ชนะฟูลัม และเสมอกับคริสตัลพาเลซ
แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ นิวคาสเซิลทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักเนื่องจากพวกเขาเก็บได้เพียง 2 แต้มจากการลงสนาม 3 นัดคือเสมอบอร์นมัท เวสต์แฮมยูไนเต็ด และแพ้ลิเวอร์พูล ในช่วงปลายเดือน
มีนาคม–เมษายน
นิวคาสเซิลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยชนะได้ถึง 8 จาก 10 นัดรวมถึงการเปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2–0 ออกไปเยือนลอนดอนสเตเดียม ถล่มเวสต์แฮมยูไนเต็ด 5–1 และเปิดบ้านถล่มทอตนัมฮอตสเปอร์ 6–1 ส่วนอีก 2 นัดคือออกไปเยือนแล้วแพ้แมนเชสเตอร์ซิตี 0–2 และออกไปเยือนแล้วแพ้แอสตันวิลลา 0–3
พฤษภาคม
นิวคาสเซิลเริ่มต้นเดือนด้วยการเปิดบ้านแพ้อาร์เซนอล 0–2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม ก่อนจะบุกไปเยือนเอลแลนด์โรด ของลีดส์ยูไนเต็ด แล้วเสมอกัน 1–1 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม จากนั้นเปิดบ้านถล่มไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4–1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม ตามด้วยเปิดบ้านเสมอกับเลสเตอร์ซิตี 0–0 เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม และจากผลในนัดนี้ส่งผลให้นิวคาสเซิลได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2023–24 เป็นที่แน่นอน ก่อนจะออกไปเยือนสแตมฟอร์ดบริดจ์ ของเชลซี ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม
ผู้เล่น
ผู้รักษาประตู
กองหลัง
กองกลาง
(7) โฌแอลินโตน
(8) แอนโทนี กอร์ดอน
(10) อาลาน แซ็ง-มักซีแม็ง
(24) มิเกล อัลมิรอน
(28) โจ วิลล็อก
(36) ฌอน ลองสตาฟฟ์
(39) บรูนู กีมาไรส์
กองหน้า
(9) แคลลัม วิลสัน
(14) อาเล็กซันเดอร์ อีซัก
ซื้อขายนักเตะ
ย้ายเข้า
วันที่ |
ตำแหน่ง |
สัญชาติ |
ผู้เล่น |
จาก |
ค่าตัว |
หมายเหตุ
|
10 มิถุนายน 2022 [a]
|
CB
|
|
อเล็กซ์ เมอร์ฟี่
|
กัลเวย์ ยูไนเต็ด
|
ไม่เปิดเผยค่าตัว
|
|
10 มิถุนายน 2022 [b]
|
LB
|
|
แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์
|
แอสตันวิลลา
|
15 ล้านปอนด์
|
ซื้อขาดจาก แอสตันวิลลา หลังจากยืมตัวมาใช้งาน
|
23 มิถุนายน 2022
|
GK
|
|
นิก โพป
|
เบิร์นลีย์
|
10 ล้านปอนด์
|
|
28 มิถุนายน
|
CB
|
|
สเวน บอตมัน
|
ลีลล์
|
35 ล้านปอนด์
|
|
- ↑ ประกาศการย้ายเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม และกลายเป็นทางการในวันที่ 10 มิถุนายนเมื่อตลาดซื้อขายนักเตะเปิดขึ้น
- ↑ ประกาศการย้ายเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม และกลายเป็นทางการในวันที่ 10 มิถุนายนเมื่อตลาดซื้อขายเปิดขึ้น
ย้ายออก
ยืมออก
- ↑ ประกาศการยืมตัวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน และกลายเป็นทางการในวันที่ 10 มิถุนายนเมื่อตลาดซื้อขายนักเตะเปิดขึ้น
ปรี-ซีซันและกระชับมิตร
นิวคาสเซิลยูไนเต็ดยืนยันว่าพวกเขาจะลงเล่นนัดกระชับมิตรพบกับ เกตส์เฮด,[26] 1860 มึนเชิน,[26] ไมนทซ์ 05,[26] ไบฟีกา,[27] อาตาลันตา,[28] และ อัตเลติกเดบิลบาโอ[28] เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมปรีซีซั่นของพวกเขา.
ชนะ
เสมอ
แพ้
โปรแกรมนัดต่อไป
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด v เบิร์นลีย์
23 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 กระชับมิตร | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 6–1 | เบิร์นลีย์ | ลิสบอน |
|
|
รายงาน |
- ทัคเกอร์
|
สนามกีฬา: ซิดาเดอ โด ฟูเตโบล ผู้ชมในสนาม: 0 คน |
การแข่งขัน
สถิติทั้งหมด
การแข่งขัน
|
นัดแรก
|
นัดสุดท้าย
|
เริ่มต้นที่รอบ
|
ตำแหน่งสุดท้าย
|
บันทึก
|
แข่ง
|
ชนะ
|
เสมอ
|
แพ้
|
ได้
|
เสีย
|
ต่าง
|
ชนะ %
|
พรีเมียร์ลีก
|
6 สิงหาคม 2022 |
28 พฤษภาคม 2023
|
นัดที่ 1
|
อันดับที่ 4
|
38
|
19
|
14
|
5
|
68
|
33
|
+35
|
050.00
|
เอฟเอคัพ
|
7 มกราคม 2023
|
รอบ 3
|
รอบ 3
|
1
|
0
|
0
|
1
|
1
|
2
|
−1
|
000.00
|
อีเอฟแอลคัพ
|
24 สิงหาคม 2022 |
26 กุมภาพันธ์ 2023
|
รอบ 2
|
รองชนะเลิศ
|
7
|
5
|
1
|
1
|
8
|
4
|
+4
|
071.43
|
รวม
|
46
|
24
|
15
|
7
|
77
|
39
|
+38
|
052.17
|
แหล่งที่มา: Soccerway
พรีเมียร์ลีก
ตารางคะแนน
แหล่งข้อมูล:
พรีเมียร์ลีกกฏการจัดอันดับ: 1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม; 4) หากทีมที่ชนะเลิศ, ทีมที่ตกชั้นหรือทีมที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันของยูฟ่า ไม่สามารถตัดสินได้ตามกฎ 1 ถึง 3, จะมีการบังคับใช้กฎ 4.1 ถึง 4.3 – 4.1) คะแนนที่ได้จากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.2) ประตูทีมเยือนจากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.3) เพลย์ออฟ
[29]Notes:
- ↑ ตั้งแต่ผู้ชนะเลิศ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2022–23 คือ แมนเชสเตอร์ซิตี ได้เข้าร่วมแข่งขันแชมเปียนส์ลีกจากผลงานในลีกแล้ว ทำให้สิทธิ์ของผู้ชนะเลิศเอฟเอคัพ (ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม) ถูกส่งต่อให้ทีมอันดับที่หกในลีก
ผลงานในลีกโดยรวม
ผลงานโดยรวม |
เหย้า |
เยือน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
38
|
19
|
14
|
5
|
68
|
33
|
+35
|
71
|
11
|
6
|
2
|
36
|
14
|
+22
|
8
|
8
|
3
|
32
|
19
|
+13
|
อ้างอิง: Premier League
ผลงานในลีกในแต่ละนัด
รอบ | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 26 | 27 | 28 | 29 | 71 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 252 | 37 | 38 |
---|
สนาม | H | A | H | A | A | H | H | A | H | A | H | A | H | A | H | A | H | A | H | A | H | A | H | A | H | A | H | A | A | A | H | A | H | H | A | H | H | A |
---|
ผล | W | D | D | D | L | D | D | W | W | D | W | W | W | W | W | W | D | D | W | D | D | D | L | L | W | W | W | W | W | L | W | W | W | L | D | W | D | D |
---|
อันดับที่ | 5 | 5 | 6 | 7 | 12 | 11 | 10 | 7 | 6 | 6 | 6 | 4 | 4 | 3 | 3 | 3 | 3 | 3 | 3 | 3 | 4 | 4 | 5 | 6 | 5 | 5 | 3 | 3 | 3 | 4 | 3 | 3 | 3 | 3 | 3 | 3 | 4 | 4 |
---|
คะแนน | 3 | 4 | 5 | 6 | 6 | 7 | 8 | 11 | 14 | 15 | 18 | 21 | 24 | 27 | 30 | 33 | 34 | 35 | 38 | 39 | 40 | 41 | 41 | | 41 | 44 | 47 | 50 | 53 | 56 | 56 | | | | | | | |
---|
อ้างอิง:
Premier LeagueA = เยือน;
H = เหย้า;
W = ชนะ;
D = เสมอ;
L = แพ้;
P = เลื่อนการแข่งขันหมายเหตุ:
แมตช์
ชนะ
เสมอ
แพ้
โปรแกรมนัดต่อไป
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน, โปรแกรมการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 ได้ปล่อยออกมา.[32]
ฟูลัม v นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด v เชลซี
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด v ฟูลัม
เชลซี v นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
เอฟเอคัพ
นิวคาสเซิลยูไนเต็ดเข้าในรอบที่ 3 และตกรอบให้กับเชฟฟีลด์เวนส์เดย์[35]
ชนะ
เสมอ
แพ้
โปรแกรมนัดต่อไป
อีเอฟแอลคัพ
นิวคาสเซิลเข้าสู่การแข่งขันในรอบสองและถูกจับสลากออกไปเยือน แทรนเมียร์โรเวอส์[36] จากนั้นจึงแข่งในบ้านกับคริสตัลพาเลซในรอบที่ 3[37] บอร์นมัทในรอบที่ 4[38] และเลสเตอร์ซิตีในรอบก่อนรองชนะเลิศ[39] ต่อมาจึงไปแข่งกับเซาแทมป์ตันในรอบรองชนะเลิศ[40] และเข้าไปแข่งต่อกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในรอบชิงชนะเลิศ[41]
ชนะ
เสมอ
แพ้
โปรแกรมนัดต่อไป
สถิติ
การทำประตู
- อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2023.
อ้างอิง
|
---|
|
ประวัติ | |
---|
สนามเหย้า | |
---|
สนามซ้อม | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
คู่อริ | |
---|
บทความที่เกี่ยวข้อง | |
---|
ฟุตบอลในประเทศอังกฤษฤดูกาล 2022–23 |
---|
|
ทีมชาติ | |
---|
การแข่งขันในลีก | ระดับที่ 1 | |
---|
ระดับที่ 2–4 | |
---|
ระดับที่ 5–6 | |
---|
|
---|
การแข่งขันชิงถ้วย | |
---|
การแข่งขันระดับเยาวชน | รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี | |
---|
รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี | |
---|
|
---|
|
|