บทในพันธสัญญาใหม่
มัทธิว 2 (อังกฤษ: Matthew 2) เป็นบทที่ 2 ของพระวรสารนักบุญมัทธิวในพันธสัญญาใหม่ เล่าถึงเหตุการณ์หลังการประสูติของพระเยซู ได้แก่ การเข้าเฝ้าของพวกนักปราชญ์ และความพยายามของกษัตริย์เฮโรดที่จะปลดพระชนม์พระกุมารเมสสิยาห์ การหนีไปอียิปต์ของโยเซฟและครอบครับ และการกลับมาอาศัยในอิสราเอลโดยตั้งรกรากที่เมืองนาซาเร็ธ
ต้นฉบับ
ข้อความต้นฉบับเขียนด้วยภาษากรีกคอยนี บทนี้แบ่งออกเป็น 23 วรรค
พยานต้นฉบับ
ต้นฉบับบางส่วนในยุคต้นที่มีเนื้อหาของบทนี้ได้แก่:[a]
วิเคราะห์
เรื่องเล่าเกี่ยวกับวัยทารกของพระเยซูในพระวรสารมัทธิวมีความคู่ขนานกับเรื่องราวเกี่ยวกับวัยทารกของโมเสสในวรรณกรรมของศาสนายูดาห์และในงานเขียนของโยเซพุส ดังแสดงในตารางด้านล่าง
เรื่องเล่าในมัทธิว |
แหล่งที่มา |
เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับโมเสส |
แหล่งที่มา
|
การใคร่ครวญของโยเซฟเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของมารีย์ |
มัทธิว 1:18–25
|
การใคร่ครวญของอัมรามเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของภรรยา |
โยเซพุส, Ant 2.210-216
|
โยเซฟได้รับการบอกว่าพระเยซูจะทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของประชาชนของพระองค์ให้พ้นจากบาป |
มัทธิว 1:21
|
โมเสสได้รับการกำหนดให้เป็นผู้ช่วยให้รอดของประชาชนของเขา |
โยเซพุส, Ant 2:228; b. Sot.a 12b
|
เฮโรดทรงทราบจากธรรมาจารย์เรื่องการถือกำเนิดของผู้ปลดปล่อยอิสราเอล |
มัทธิว 2:4–6
|
ฟาโรห์ทรงทราบจากอาลักษณ์หรือนักวิทยาคมเรื่องการถือกำเนิดของผู้ปลดปล่อยอิสราเอล |
โยเซพุส, Ant 2:205, 234; Jerusalem Targum on Exodus 1:15
|
เฮโรดจึงมีรับสั่งให้สังหารทารกในเบธเลเฮม |
มัทธิว 2:16–18
|
ฟาโรห์จึงมีรับสั่งให้สังหารทารกเพศชายชาวฮีบรู |
อพยพ 1:22
|
บทนี้ประกอบด้วย 4 ส่วน แต่ละส่วนมีการอ้างถึงคำพูดจากพันธสัญญาเดิมที่มัทธิวเห็นว่าพระเยซูทรงทำให้สำเร็จ:
- มีคาห์ 5:2 - แต่เจ้า เบธเลเฮม ...
- โฮเชยา 11:1 - เราได้เรียกบุตรของเราออกจากอียิปต์
- เยเรมีย์ 31:15 - 'ได้ยินเสียงในเมืองรามาห์ เป็นเสียงโอดครวญและร่ำไห้ นางราเชลร้องไห้คร่ำครวญ เพราะบุตรทั้งหลายของตน นางไม่รับคำปลอบโยนในเรื่องบุตรทั้งหลายของตน เพราะว่าบุตรทั้งหลายนั้นไม่มีแล้ว
- ท่านจะได้ชื่อว่าชาวนาซาเร็ธ - ข้อความนี้ในพระวรสารมัทธิวระบุว่าพระวจนะนี้ "ตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะ"[2] แต่ "ไม่แน่ชัดว่ามัทธิวอ้างถึงคำพยากรณ์ของผู้เผยพระวจนะใด"[3]
ต้นฉบับเต็ม
ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน บทนี้มีความว่า
1 พระเยซูได้ทรงบังเกิดที่บ้านเบธเลเฮมแคว้นยูเดียในรัชกาลของกษัตริย์เฮโรด ภายหลังมีพวกนักปราชญ์จากทิศตะวันออกมายังกรุงเยรูซาเล็ม ถามว่า
2 "พระกุมารผู้ที่ทรงบังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติยิวนั้นอยู่ที่ไหน? เราได้เห็นดาวของท่านทางทิศตะวันออก และเราจึงมาเพื่อจะนมัสการท่าน"
3 เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินดังนั้นแล้ว ก็วุ่นวายพระทัย ทั้งชาวกรุงเยรูซาเล็มก็พลอยวุ่นวายใจไปด้วย
4 แล้วท่านทรงให้ประชุมพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์ของประชาชน แล้วก็ตรัสถามพวกเขาว่า "พระคริสต์จะทรงบังเกิดที่ไหน?"
5 พวกเขาทูลว่า "ที่บ้านเบธเลเฮมแคว้นยูเดีย เพราะว่าผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้ ดังนี้ว่า
6 'บ้านเบธเลเฮม ในแผ่นดินยูเดีย จะไม่เป็นบ้านที่เล็กน้อยที่สุดในสายตาของพวกผู้ครองแผ่นดินยูเดีย เพราะว่าเจ้านายองค์หนึ่งจะออกมาจากท่าน ผู้ซึ่งจะครอบครองอิสราเอล ชนชาติของเรา' "
7 แล้วเฮโรดจึงทรงเชิญพวกนักปราชญ์เข้ามาอย่างลับๆ ทรงสอบถามพวกเขาจนได้ความถี่ถ้วนถึงเวลาที่ดาวนั้นได้ปรากฏขึ้น
8 แล้วท่านทรงให้พวกนักปราชญ์ไปยังบ้านเบธเลเฮมรับสั่งว่า "จงไปค้นหาพระกุมารนั้นเถิด เมื่อพบแล้วจงกลับมาแจ้งแก่เราเพื่อเราจะไปนมัสการท่านด้วย"
9 พวกนักปราชญ์จึงไปตามรับสั่ง และดาวซึ่งพวกเขาได้เห็นทางทิศตะวันออกนั้นได้นำหน้าพวกเขาไป จนมาหยุดอยู่เหนือสถานที่ซึ่งพระกุมารอยู่นั้น
10 เมื่อพวกนักปราชญ์ได้เห็นดาวนั้นแล้วก็มีความยินดียิ่งนัก
11 เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบพระกุมารกับนางมารีย์มารดา จึงก้มลงนมัสการพระกุมารนั้น แล้วเปิดหีบสมบัติของพวกเขาและถวายเครื่องบรรณาการแด่พระกุมาร คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ
12 แล้วพวกนักปราชญ์ได้รับคำเตือนในความฝัน ไม่ให้กลับไปเฝ้าเฮโรด พวกเขาจึงกลับไปยังเมืองของพวกตนทางอื่น
13 เมื่อพวกเขาไปแล้วก็มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้มาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันแล้วบอกว่า "จงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดาหนีไปประเทศอียิปต์ และคอยอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกเจ้า เพราะว่าเฮโรดจะแสวงหาพระกุมาร เพื่อจะประหารชีวิตเสีย"
14 ในเวลากลางคืนโยเซฟจึงลุกขึ้น พาพระกุมารกับมารดาไปยังประเทศอียิปต์
15 และได้อยู่ที่นั่นจนเฮโรดสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อจะให้สำเร็จตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งได้ตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า เราได้เรียกบุตรของเราให้ออกมาจากอียิปต์
16 เมื่อเฮโรดทรงเห็นว่าพวกนักปราชญ์หลอกท่านก็กริ้วยิ่งนัก จึงทรงสั่งคนไปฆ่าเด็กผู้ชายทั้งหมดในบ้านเบธเลเฮม และในบริเวณใกล้เคียงที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมา โดยนับเวลาตามที่ท่านทรงทราบจากพวกนักปราชญ์
17 ครั้งนั้นก็สำเร็จตามพระวจนะที่ตรัสผ่านทางเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะว่า
18 "ได้ยินเสียงในหมู่บ้านรามาห์ เป็นเสียงโอดครวญและร่ำไห้เสียงดัง คือนางราเชลร้องไห้คร่ำครวญเพราะบรรดาบุตรของตนนางไม่รับฟังคำปลอบใจ เพราะบุตรทั้งหลายไม่อยู่แล้ว"
19 มื่อเฮโรดสิ้นพระชนม์แล้ว ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันที่ประเทศอียิปต์ สั่งว่า
20 "จงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดามายังแผ่นดินอิสราเอล เพราะพวกที่เป็นภัยต่อชีวิตของพระกุมารนั้นตายแล้ว"
21 โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดามายังแผ่นดินอิสราเอล
22 แต่เมื่อได้ยินว่าอารเคลาอัสครอบครองแคว้นยูเดียแทนเฮโรดผู้เป็นพระบิดา เขาก็ไม่กล้าไปที่นั่น และเมื่อได้รับคำเตือนในความฝัน จึงเลยไปยังแคว้นกาลิลี
23 ไปอาศัยในเมืองหนึ่งชื่อนาซาเร็ธ เพื่อจะสำเร็จตามพระวจนะ ซึ่งตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่าท่านจะได้ชื่อว่าชาวนาซาเร็ธ
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
อ้างอิง
บรรณานุกรม
- Albright, W.F. and C.S. Mann. "Matthew." The Anchor Bible Series. New York: Doubleday & Company, 1971.
- Allison, Dale C. Jr. (2007). "57. Matthew". ใน Barton, John; Muddiman, John (บ.ก.). The Oxford Bible Commentary (first (paperback) ed.). Oxford University Press. ISBN 978-0199277186.
- Brown, Raymond E. The Birth of the Messiah: A Commentary on the Infancy Narratives in Matthew and Luke. London: G. Chapman, 1977.
- Carter, Warren. Matthew and Empire. Harrisburg: Trinity Press International, 2001.
- Clarke, Howard W. The Gospel of Matthew and its Readers: A Historical Introduction to the First Gospel. Bloomington: Indiana University Press, 2003.
- France, R.T. "The Formula Quotations of Matthew 2 and the Problem of Communications." New Testament Studies. Vol. 27, 1981.
- Hill, David. The Gospel of Matthew. Grand Rapids: Eerdmans, 1981
- Levine, Amy-Jill. "Matthew." Women's Bible Commentary. Carol A. Newsom and Sharon H. Ringe, eds. Louisville: Westminster John Knox Press, 1998.
แหล่งข้อมูลอื่น