พระมังคลพุทธเจ้า
หลังจากศาสนาของพระโกณฑัญญะพุทธเจ้าอันตรธานไป เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติถึงอสงไขยหนึ่ง เรียกว่า ภาละอสงไขย ล่วงมาถึงสารมัณฑกัปหนึ่ง จึงมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติขึ้น 4 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์แรกในสารมัณฑกัปนี้ทรงพระนามว่า พระมังคละพุทธเจ้า พระประวัติพระมังคละพุทธเจ้า ประสูติเป็นมังคละราชกุมาร ในวงศ์กษัตริย์แห่งอุตตระนคร พระราชบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าอุตตระ และพระราชมารดาทรงพระนามว่าพระนางอุตตรา มังคละราชกุมารทรงเกษมสำราญอยู่ 9,000 ปี ในปราสาท 3 หลัง ชื่อ ยสวา รุจิมา และสิริมา มีพระมเหสีพระนามว่า พระนางยสวดี และทรงมีสนมนารีแวดล้อมอีก 30,000 นาง วันหนึ่ง พระมังคละทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้งสี่ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช พระองค์จึงมีพระทัยน้อมไปทางบรรพชา เมื่อพระนางยสวดีเทวีประสูติพระโอรส พระนามว่า สีลวากุมาร จึงได้เสด็จออกบรรพชาด้วยม้าปัณฑระ มีผู้ออกบรรพชาตามจำนวน 3 โกฏิ มังคละราชกุมารทรงบำเพ็ญความเพียรอยู่ ณ บ้านอุตตรคาม เป็นเวลา 8 เดือน จนถึงวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางอุตตรา ธิดาของอุตตรเศรษฐี และรับหญ้า 8 กำจากอุตตระอาชีวก ปูลาดใต้ต้นนาคะ (ต้นกากะทิง) เป็นโพธิบัลลังก์ ทรงเอาชนะเหล่ามารด้วยพระบารมี และได้ตรัสรู้เป็นพระวิริยาธิกะพุทธเจ้าในคืนนั้น พระมังคละพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา แก่พระภิกษุผู้บรรพชาตามจำนวน 3 โกฏิ ที่ชัฏสิริวัน สิริวัฒนนคร ทำให้พระภิกษุ 3 โกฏินั้นสำเร็จเป็นพระอริยบุคล ธรรมาภิสมัยในพุทธกาลของพระมังคละพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 3 วาระ คือ
พระมังคละพุทธเจ้า ทรงประชุมสาวกสันนิบาต 3 ครั้ง
พระมังคละพุทธเจ้ามีพระสาวกองค์สำคัญ คือ
พระมังคละพุทธเจ้ามีพระวรกายสูง 88 ศอก มีพระรัศมีแผ่ทั่วหมื่นโลกธาตุ พระรัศมีนี้รุ่งเรืองกว่าพระพุทธเจ้าองค์ใด ๆ เมื่อพระชนมายุได้ 90,000 ปี จึงปรินิพพานที่พระวิหารอุตตราราม พระศาสนาของพระองค์ดำรงอยู่นาน 90,000 ปีจึงอันตรธานไป ความเกี่ยวข้องกับพระพุทธโคดมในสมัยของพระมังคละพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็น สุรุจิพราหมณ์ มีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย จึงเดินทางไปยังสำนักของพระพุทธเจ้า และขออาราธนาให้พระพุทธองค์พร้อมทั้งเหล่าพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ไปรับภัตตาหารบิณฑบาตที่บ้านของตนเอง ซึ่งพระพุทธองค์ทรงรับอาราธนา แต่เมื่อกลับไปบ้านก็พบว่าบ้านตนช่างคับแคบนัก พระอินทร์จึงแปลงกายเป็นช่างก่อสร้าง พระบรมโพธิสัตว์บอกว่าอาจสร้างไม่เสร็จภายในหนึ่งวัน พระอินทร์แปลงย้อนถามว่าถ้าตนทำได้เสร็จก่อนกำหนดท่านจะให้ค่าจ้างไหม พระโพธิสัตว์ตอบว่า อะไรก็ได้ แม้ชีวิตก็จะให้ แล้วพระโพธิสัตว์ก็เข้าไปในบ้าน พระอินทร์ก็เนรมิตศาลาใหญ่พร้อมอาสนะเสร็จ ก็เรียกพราหมณ์ให้ออกมาดู พระโพธิสัตว์เห็นเข้าก็ดีใจอย่างยิ่งแล้วเข้าไปในบ้านเพื่อเอาค่าจ้างมาให้ แต่พอออกมาช่างก่อสร้างก็หายไป วันต่อมาพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยเหล่าพระภิกษุสงฆ์ก็เดินทางมารับบิณฑบาต พระโพธิสัตว์อาราธนาให้อยู่จนครบ 7 วันพระพุทธองค์ก็ทรงรับอาราธนา เมื่อครบ 7 วันพระพุทธองค์ทรงประทานภัตตานุโมทนากถาแล้วทรงทราบด้วยพระญาณว่าพราหมณ์นี้มีบุญมาก และหวังพระสัพพัญญุตญาณจึงตรัสว่า "ท่านสุรุจิพราหมณ์ท่านนี้ กาลล่วงไปในอนาคตกำหนดได้ 2 อสงไขยเศษอีกแสนกัป จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงนามว่าพระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัปนั้น" สุรุจิโพธิสัตว์มีความปีติยินดีมาก หลังจากนั้นไม่นานพระโพธิสัตว์มีความเบื่อหน่ายในโลก จึงออกบวชในพระพุทธศาสนา ศึกษาพระไตรปิฏก และเจริญพระกรรมฐาน จนสำเร็จอภิญญา หลังสิ้นอายุขัย ไปเกิดเป็นพระพรหมอยู่บนพรหมโลก ดูเพิ่ม
|
Portal di Ensiklopedia Dunia