ธี่หยด 2
ธี่หยด 2 (อังกฤษ: Death Whisperer 2) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญเหนือธรรมชาติ ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2567 กำกับโดย ทวีวัฒน์ วันทา และนำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ, เดนิส เจลีลชา คัปปุน, กาจบัณฑิต ใจดี, พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน, พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, อริศรา วงษ์ชาลี และ ปรเมศร์ น้อยอ่ำ[3][4][5] เป็นภาคต่อจากธี่หยด เช่นเดียวกับภาคแรก ภาพยนตร์ถ่ายทำเพื่อเข้าฉายในระบบไอแมกซ์ทั้งระบบ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงใน อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ในปี พ.ศ. 2515 และเสริมแต่งเรื่องราวเพื่ออรรถรสในรูปแบบของภาพยนตร์ชุดผีอมตะ ของ แซม เรย์มี ที่เป็นแรงบันดาลใจของทวีวัฒน์ เมื่อภาคแรก ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกถึงเนื้อเรื่อง อารมณ์แอ็คชั่นและความสยองขวัญ และการเปลี่ยนแนวจากแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ มาเป็น สยองขวัญผสมกับแอคชั่นเเบบไทย ๆ เเละนอกจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีการขยายเรื่องราวของธี่หยดให้กว้างออกไปมากกว่าเเค่ครอบครัวหลัก จักรวาลภาพยนตร์แฟรนไชส์ธี่หยด ที่จะมีเรื่องราวของครอบครัวยักษ์และการตามไล่ล่าปีศาจและความชั่วร้ายของสิ่งเหนือธรรมชาติในอนาคต เนื้อเรื่องในปี พ.ศ. 2397 ช่วงสงครามเชียงตุง พวง และพรรคพวกทหารกำลังเดินทางข้ามชายแดน แต่ถูกทหารเชียงตุงไล่ต้อนสังหาร จนเหลือพวงเพียงคนเดียว ผีชุดดำปรากฎกายพร้อมยื่นข้อเสนอให้พวงรอดชีวิต กับการที่จะต้องเก็บลิ้นของมันไว้กับตัวเพื่อให้มันสามารถเดินทางไปหาเเหล่งเหยื่อของมันได้ต่อไป ทำให้พวงรอดจากสงครามครั้งนั้นมาได้โดยหารู้ไม่ว่าหายนะครั้งใหญ่กำลังจะบังเกิดจากผีชุดดำที่ตนตัดสินใจรับข้อเสนอของมัน 121 ปีต่อมา ตุลาคม พ.ศ. 2518 ยักษ์ยังคงตามล่าผีชุดดำที่พรากชีวิตน้องสาวของเขาอย่างไม่ลดละ จนถึงที่ อำเภอพรหมพิราม พิษณุโลก จนกระทั่งเจอวิญญาณที่บอกเบาะแสว่าให้ตามหาคนที่เลี้ยงผีชุดดำ อยู่ที่ดงโขมด แม้ว่าครอบครัวของเขาจะพยายามโน้มน้าวให้เขาเลิกแก้แค้นผีชุดดำ แต่ยักษ์ ก็ยังคงดื้อรั้นและมุ่งมั่นที่จะตามหามันให้เจอ โดยกลัวว่าผีจะกลับมาทำร้ายสมาชิกที่เหลือในครอบครัวของเขา ยักษ์ยังคงติดตามการเสียชีวิตอย่างลึกลับของทารกแรกเกิดที่ค้นพบในบทความในหนังสือพิมพ์และพบเบาะแสที่นำเขาไปสู่ความจริงที่ว่าผีชุดดำถูกควบคุมโดยหมอผีผู้ทรงพลังชื่อพวง ซึ่งหนีไปซ่อนตัวในดงโขมด (เเรงบันดาลใจจากป่าในเขตทิวเขาผีปันน้ำ จังหวัดอุตรดิตถ์) สถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังลึกลับและอันตราย ยักษ์ต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายและอันตรายรอบตัวเขาเพื่อปราบผีชุดดำ ให้แน่ใจว่ามันจะไม่กลับมาทำร้ายครอบครัวของเขาอีก ในขณะเดียวกัน หยาดกำลังจะแต่งงานกับประดิษฐ์ และครอบครัวกำลังเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานของพวกเขา โดยหวังว่ายักษ์จะกลับมาร่วมงานพิธีและพบกับทุกคนอีกครั้ง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าผีชุดดำกำลังจะกลับมาอีกครั้ง สร้างความหวาดกลัวให้กับครอบครัวของยักษ์อีกครั้ง จนทำให้ยักษ์ ต้องออกมารับมือกับสถานการณ์อันเลวร้ายนี้อีกครั้ง โดยที่เขาจะต้องเดิมพันไม่ว่าจะต้องใช้ชีวิตของเขาก็ตามเขาก็ยอม ยักษ์ได้ออกเดินทางพร้อมกับจ่าปพันธ์พร้อมกับคณะของลือชัย เจ้าของปางไม้ที่ อำเภอลับแล ที่ในคณะประกอบไปด้วย หมอเสม พรานป่าฉายาจอมขมังเวทย์ จีรศักดิ์ และ นาวิน หลานชายของลือชัย และโขม ลูกหาบ แต่สุดท้ายคณะของลือชัยก็ถูกอำนาจของผีในดงโขมดเล่นงานจนเสียชีวิตไปทีละคน เริ่มที่หมอเสมที่ถูกจงอางฉกใบหน้าจนตาย จีรศักดิ์ถูกวิญญาณหมอเสมล่อลวงให้ใช้ปืนปลิดชีพตนเอง นาวินถูกเสือสมิงดำกินร่างจนขาด2ท่อน สุดท้าย ยักษ์ จ่าปพันธ์และลือชัยก็ได้พบกับตาพวง อันที่จริงแล้วตาพวงพยายามกำจัดผีชุดดำมาตั้งแต่คราวที่อาศัยในกระต๊อบ วัดปากฝาง ตั้งแต่ ร.ศ. 112 แต่พวกของตาคล้อย ตาทวดของลือชัยที่ถูกผีชุดดำกัดกินร่างของลูกสาวตนเข้าใจผิด จึงยกพวกมาเผาทำลายพิธี ผีชุดดำจึงหลุดจากการกักขัง นับแต่นั้นทำให้ตาพวงที่พยายามหลบหนีเพราะไม่อยากให้ใครตายเพราะตน (ผีชุดดำใช้ตาพวงให้หาเหยื่อเพื่อกินเป็นอาหารของมัน คล้ายกับผีห่าก้อม) ตาพวงใช้ตะกรุดวิรุณจำบังกำบังกายให้พรางตาจากผีชุดดำ แต่สุดท้ายลือชัยก็ตัดแขนของตาพวง ตามข้อตกลงที่ผีชุดดำต้องการลิ้นของมันแลกกับการละเว้นฆ่าคนในตระกูลของลือชัย จนทำให้ผีชุดดำกลับมาเอาลิ้นของมันที่ฝากไว้กับตาพวงได้สำเร็จ พลังอำนาจของมันกลับมาเต็มเปี่ยม และหักหลังลือชัยอย่างเลือดเย็น ยักษ์ที่พยายามต่อสู้แต่ก็ถูกผีชุดดำใช้มนต์สะกดให้ปลิดชีพตัวเองจนเสียทีมันอีกครั้ง ผีชุดดำจึงมุ่งหน้าไปจัดการกับครอบครัวของยักษ์ทันที โดยใช้สารพัดวิธีเพื่อสังหารครอบครัวของยักษ์ ทั้งใช้บทสวดธี่หยดเพื่อจำกัดการควบคุมร่างกาย ควบคุมร่างของแม่บุญเย็น ใช้วิญญาณของยายช่วยไปหลอกยี่ และแปลงกายเป็นแย้มเพื่อเข้าควบคุมจิตใจของหยาดเพื่อยกร่างให้มัน แต่สุดท้ายยักษ์และจ่าก็สามารถมาช่วยทุกคนได้ทันท่วงที ยักษ์ใช้ตะกรุดวิรุณจำบังเข้าไปต่อสู้ แต่ก็เกือบเสียเหลี่ยมให้ผีอีกรอบ โชคดีที่จ่าปพันธ์ทำการเบี่ยงเบนความสนใจ หยาดจึงสวมตะกรุดและให้ยักษ์เข้าไปล่อลวงถ่วงเวลาเพื่อดึงลิ้นของมันออกมาให้ยักษ์ตัดลิ้นของมันได้ สุดท้ายมนุษย์ก็ชนะได้อย่างสมบูรณ์เมื่อยักษ์เอาตะกรุดวิรุณจำบังต่อยเข้ากลางหน้าผากจนทำให้วิญญาณของมันสิ้นสลายไปในที่สุด ครอบครัวกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ก่อนที่ยักษ์จะได้เห็นวิญญาณของแย้มมายืนมองทุกคนอยู่ไกลๆ คล้ายการบอกลาก่อนจะเดินทางต่อไปในโลกหน้า งานสร้างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ผู้สร้าง ผู้กำกับ ทีมงาน และเหล่านักแสดง นำโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ เดนิส เจลีลชา คัปปุน รัตนวดี วงศ์ทอง กาจบัณฑิต ใจดี และ พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ ร่วมบวงสรวงภาพยนตร์ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำ ณ สตูดิโอช่อง 3 หนองแขม[3][6] ต่อมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ช่อง 3 และ เอ็มสตูดิโอ ได้จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือทางธุรกิจในการสร้างภาพยนตร์ที่เตรียมเข้าฉายในปีนี้ 2 เรื่องคือ ธี่หยด 2 ที่มีกำหนดเข้าฉายในช่วงปลายปี ในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2567[7] ส่วนภาพยนตร์อีกเรื่องคือ มานะแมน ภาพยนตร์ ธี่หยด 2 เปิดกล้องถ่ายทำ พร้อมเปิดเผยใบปิดภาพยนตร์แรกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567[8] หลังจากนั้นได้ปล่อยทีเซอร์แรกออกมาในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567[9] ตัวอย่างภาพยนตร์ ธี่หยด 2 ซึ่งเปิดเผยนักแสดงเพิ่มเติมคือ พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, ทศพล หมายสุข และ ธนัตถ์ศรันย์ ซำทองไหล ได้รับการเผยแพร่ในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567[10] ส่วนตัวอย่างสุดท้ายเผยแพร่ในวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567[11] หลังจากนั้น ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2567 ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงภาพยนตร์ โดยมีทีมนักแสดงเข้าร่วมที่บริเวณด้านหน้าอาคารมาลีนนท์[12][13] การเข้าฉายและกระแสตอบรับรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ ธี่หยด 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ณ สุราลัยฮอลล์ และไอคอน ซีเนคอนิค ไอคอนสยาม ภาพยนตร์เข้าฉายรอบปกติในอีกสองวันถัดจากนั้น[14] และทำสถิติเป็นภาพยนตร์ไทยที่มียอดซื้อตั๋วล่วงหน้าสูงสุดตลอดกาล[15] ภาพยนตร์ทำเงินเปิดตัววันแรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ 24.87 ล้านบาท (ทำเงินรวมรอบพิเศษ 26.31 ล้านบาท)[16] และทำเงินเปิดตัววันแรกทั่วประเทศ 80 ล้านบาท[17] หลังออกฉาย 4 วัน ภาพยนตร์ทำเงินรวมในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ 106.41 ล้านบาท[18] และทำเงินรวมทั่วประเทศ 300 ล้านบาท[19] หลังออกฉายครบหนึ่งสัปดาห์ ทำเงินรวมในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ 172.89 ล้านบาท กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567[20] หลังออกฉาย 9 วัน ทำเงินรวมทั่วประเทศผ่านหลัก 500 ล้านบาท ทำลายสถิติของภาคแรกได้สำเร็จ[21] และหลังออกฉาย 25 วัน ทำเงินรวมทั่วประเทศ 739 ล้านบาท กลายเป็นภาพยนตร์ไทยทำเงินรวมทั่วประเทศสูงสุดในรอบ 10 ปี[22] ในประเทศเวียดนาม ธี่หยด 2 เข้าฉายเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2567 สร้างสถิติการจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุดด้วยยอดจองตั๋วรวมกว่า 30,000 ใบ และทำเงินในวันแรกไป 13 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในบรรดาภาพยนตร์ไทยทั้งหมดที่เข้าฉายในประเทศ[23] นอกจากนี้ยังมีกระแสการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้การสนับสนุนโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านภาพยนตร์ "ธี่หยด 2" เปิดพิกัด Must See ของดีเมืองลับแล ธี่อุตรดิตถ์ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความสมดุล แข็งแรงและยั่งยืน[24] และสปอตท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ธี่หยด 2 โลเคชันสุดหลอนในหนังเช็คอิน 4 จุดไฮไลท์ในภาพยนตร์ [25] ภาคต่อณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด ทั้ง 2 ภาคเปิดเผยว่าได้เริ่มวางแผนสร้างภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด 3 แล้วโดยอยู่ระหว่างการเขียนบทแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และยังคงได้ณเดชน์ คูกิมิยะ กลับมารับบท ยักษ์ โดยวางกำหนดเข้าฉายในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568[26] ก่อนที่ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 คุ้ย ทวีวัฒน์ ผู้กำกับธี่หยดทั้ง 2 ภาคจะออกมาประกาศถอนตัวจากการกำกับ ธี่หยด 3 โดยให้เหตุผลว่าตัวเองหมดไอเดียแล้ว แถมเปิดบริษัทของตัวเองรวมถึงรับงานกำกับของค่ายอื่นแล้ว[27] นักแสดง
รางวัลและการเข้าชิง
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia