ชิงชัย มงคลธรรม
ชิงชัย มงคลธรรม (เกิด 24 มิถุนายน พ.ศ. 2494) หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลชวลิต ยงใจยุทธ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ 4 สมัย ประวัตินายชิงชัย มงคลธรรม เขาเกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2494[1] ที่อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 8 คนของนายอั้ง และนางจันทร นามสกุลมงคลธรรม ที่รับราชการเป็นครูทั้งคู่ จบการศึกษาระดับ ปวช. และ ปวส. จากวิทยาลัยครูมหาสารคาม และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขามนุษยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม สมัยที่ยังเป็นวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒอยู่ ชีวิตส่วนตัว นายชิงชัย มงคลธรรม มีเอกลักษณ์ประจำที่เป็นที่รู้จักดี คือ ชอบเป่าแคน จากการเคยรับราชการเป็นครูมาก่อน จึงเคยได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง ครูบ้านนอก ด้วย สมรสกับนางยุวพรรณ์ มงคลธรรม มีบุตรชาย 1 คน บุตรสาว 2 คน นายชิงชัย รับราชการเป็นครูตามบิดา มารดา ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งแรกที่จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดพรรคธรรมสังคม ในปี พ.ศ. 2522 จากนั้นในปี พ.ศ. 2535 จึงลงเลือกตั้งอีกครั้งในปี พ.ศ. 2535 สังกัดพรรคความหวังใหม่ เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[2] และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ[3] การรักษาพรรคความหวังใหม่ในปี พ.ศ. 2544 ที่ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้ตัดสินใจยุบพรรคความหวังใหม่เข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 73 เมื่อ 22 มีนาคม 2545 โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อของพรรคความหวังใหม่ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย มีเพียง 3 คนที่ไม่ได้ตามไปด้วย ซึ่งรวมถึง ชิงชัย มงคลธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรระบบบัญชีรายชื่อ ที่ยังอยู่สังกัดพรรคความหวังใหม่ตามเดิม[4] จึงได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนับแต่บัดนั้น แต่พรรคความหวังใหม่ในยุคของนายชิงชัย ไม่มีบทบาทในการเมืองระดับประเทศเลย อีกทั้งบทบาทของนายชิงชัยก็ได้เปลี่ยนกลายมาทำการเมืองในภาคของประชาชนแทน โดยทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมบริหารขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ ที่มีนายสมาน ศรีงาม เป็นเลขาธิการ ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2548 พรรคความหวังใหม่ ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ส่งผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อครบตามจำนวนที่ กกต. กำหนดให้ส่งได้ คือ 125 คน โดยมีหมายเลขประจำพรรค คือ หมายเลข 34[5] โดยนายชิงชัย เป็นผู้สมัครลำดับที่ 1[6] แต่ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้งแต่อย่างใด ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ได้เป็นบุคคลที่พรรคความหวังใหม่จะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี[7] การขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณในการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า นายชิงชัยเป็นผู้หนึ่งที่ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีด้วย ก่อนที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำการชุมนุมจะขึ้นมาปราศรัย และเขาได้เข้าร่วมชุมนุมและปราศรัยอีกหลายครั้ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia