การแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก [ 1]
(อังกฤษ : Positive illusions )
เป็นทัศนคติ เชิงบวกไม่สมจริง ที่มีต่อตนเองหรือต่อบุคคลที่ใกล้ชิด
เป็นการแปลสิ่งเร้าผิด ในรูปแบบของการหลอกลวงตนเอง (self-deception) หรือการยกย่องตนเอง (self-enhancement) ที่ทำให้รู้สึกดี ดำรงรักษาความเคารพตน (self-esteem) หรือช่วยกำจัดความไม่สบายใจอย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้น ๆ
มีรูปแบบใหญ่ ๆ 3 อย่างคือ ความเหนือกว่าเทียม (illusory superiority) ความเอนเอียงโดยการมองในแง่ดี (optimism bias) และการแปลสิ่งเร้าผิดว่าควบคุมได้ (illusion of control)[ 2]
ส่วนคำภาษาอังกฤษ ว่า "positive illusions" เกิดใช้เป็นครั้งแรกในงานปี 1988 ของเทย์เลอร์และบราวน์[ 2]
โดยมีการกล่าวถึงภายหลังว่า
"แบบจำลอง สุขภาพจิตปี 1988 ของเทย์เลอร์และบราวน์ยืนยันว่า การแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกบางอย่างแพร่หลายเป็นอย่างสูงในความคิดปกติ และเป็นตัวพยากรณ์ค่าเกณฑ์ที่ปกติสัมพันธ์กับสุขภาพจิตที่ดี"
มีข้อถกเถียงที่ยังไม่ยุติว่า บุคคลแสดงปรากฏการณ์นี้อย่างสม่ำเสมอในขอบเขตแค่ไหน และปรากฏการณ์นี้มีประโยชน์อะไรกับบุคคลเหล่านั้น[ 2] [ 4] [ 5] [ 6]
ประเภท
ในเรื่องความเหนือกว่าเทียม (illusory superiority) บุคคลจะมองตนเองในเชิงบวกมากกว่ามองคนอื่น และมองตนในเชิงลบน้อยกว่าคนอื่นมองตน
นอกจากนั้นแล้ว คุณลักษณะที่ดี ๆ ก็จะประเมินว่าเป็นคำกล่าวหมายถึงตน มากกว่าคนโดยเฉลี่ย (คนกลาง ๆ) เทียบกับคุณลักษณะเชิงลบ ที่ประเมินว่าเป็นคำกล่าวถึงตน น้อยกว่าคนโดยเฉลี่ย[ 7]
ต่อต้านความจริงว่า เป็นไปไม่ได้ทางสถิติ ที่คนทุกคนหรือโดยมาก จะดีกว่าคนโดยเฉลี่ย คือแทนที่จะตระหนักถึงข้อดีและข้อเสียของตนเท่า ๆ กัน คนตระหนักถึงข้อดีของตนเอง แต่ไม่ได้ตระหนักถึงข้อเสีย
กล่าวสั้น ๆ ก็คือ คนมักจะเชื่อว่าตนเก่งกว่าที่เป็นจริง
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่พบเกี่ยวกับคุณลักษณะ[ 8]
และความสามารถต่าง ๆ อย่างมากมายกว้างขวาง[ 9]
รวมทั้งความสามารถในการขับรถ[ 10]
ความสามารถในการเลี้ยงลูก[ 11]
ความเป็นผู้นำ ความสามารถในการสอน ค่าทางจริยธรรม และสุขภาพ
รวมทั้งในเรื่องความจำ คือคนโดยมากมักจะรู้สึกว่าตนมีความจำดีกว่าเป็นจริง
การแปลสิ่งเร้าผิดว่าควบคุมได้ (illusion of control) เป็นการประเมินเกินจริงเกี่ยวกับความสามารถของตนในการควบคุมสถานการณ์สิ่งแวดล้อม เช่น การทอดลูกเต๋า หรือการโยนเหรียญ
ส่วนความเอนเอียงโดยการมองในแง่ดี (optimism bias) เป็นความโน้มเอียงที่จะประเมินโอกาสประสบเหตุการณ์ดี ๆ เช่น การชอบงานแรกที่ทำ หรือมีลูกที่มีพรสวรรค์ เกินความจริง และประเมินโอกาสประสบเหตุการณ์ร้าย ๆ เช่น การหย่า หรือเกิดโรคเรื้อรัง ต่ำกว่าความจริง
และเกิดแม้ในการประเมินเวลาที่ต้องใช้ทำงานต่าง ๆ โดยประเมินต่ำกว่าความจริง
แหล่งเกิด
เหมือนกับการรับรู้อื่น ๆ ของมนุษย์ การรับรู้เกี่ยวกับตนเองมักจะมีการแปลสิ่งเร้าผิด
แต่การแปลสิ่งเร้าผิดแบบบวก เป็นเรื่องที่เข้าใจว่าเป็นผลปรากฏของการยกย่องตนเอง (self-enhancement) ซึ่งเป็นความต้องการที่จะมองตนเองในเชิงบวกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้[ 14]
และเป็นหน้าที่หนึ่งของการเพิ่มความเคารพตน (self-esteem)
และอาจมีเหตุจากความต้องการที่จะมองตนเองในเชิงบวกดีกว่าคนรอบตัว[ 15]
แต่ว่าความเอนเอียงรับใช้ตนเอง เช่นนี้ ดูจะมีแต่ในคนที่มองตัวเองในเชิงบวกเท่านั้น
คือ จริง ๆ แล้ว คนที่มองตัวเองในเชิงลบแสดงปรากฏการณ์นัยตรงกันข้าม[ 16]
งานวิจัยบอกเป็นนัยว่า กรรมพันธุ์ อาจจะมีส่วนให้เกิดการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก[ 17]
สิ่งแวดล้อมในเบื้องต้นของชีวิตก็มีบทบาทสำคัญด้วย คนมักจะพัฒนาความเชื่อเชิงบวกเหล่านี้ได้ดีกว่า ในครอบครัวสิ่งแวดล้อมที่ให้ความอบอุ่น[ต้องการอ้างอิง ]
มีคำอธิบายอื่นเกี่ยวกับปรากฏการณ์เช่นนี้ (นอกจากที่ว่า เป็นการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก) เช่น ความยากง่าย หรือความสามัญของงานที่ให้เพื่อการทดสอบ
นอกจากนั้นแล้ว งานที่เปลี่ยนความใส่ใจ จากตนเองไปยังเป้าหมายเปรียบเทียบอื่น จะหยุดคนไม่ให้คิดในเชิงบวกมากเกินความจริง[ 18]
วัฒนธรรม ก็มีบทบาทสำคัญต่อการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก
แม้ว่าจะง่ายที่จะแสดงปรากฏการณ์นี้กับวัฒนธรรมชาวตะวันตกที่เน้นความเป็นตัวของตัวเอง คนในเอเชียตะวันออก ที่เน้นการอยู่ร่วมในสังคมมีโอกาสน้อยกว่าที่จะยกย่องตัวเอง และจริง ๆ แล้วมักจะถ่อมตัวเอง[ 19]
มีงานศึกษาที่แสดงหลักฐานว่า บุคคลต่าง ๆ มีระดับการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกที่แตกต่างกันอย่างสำคัญ
ดังนั้น จะมีคนที่มีความเห็นเชิงบวกอย่างสุด ๆ บางคนก็จะมีแบบอ่อน ๆ บางคนก็แทบจะไม่มี และถ้าตรวจสอบคนทั่วประชากร ปรากฏการณ์นี้ค่อนข้างจะอ่อนโดยทั่ว ๆ ไป[ 20]
ประโยชน์และโทษ
การแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกอาจจะมีทั้งประโยชน์และโทษต่อบุคคล และยังเป็นเรื่องถกเถียงที่ยังไม่ยุติว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นการปรับตัว ทางวิวัฒนาการ หรือไม่[ 4]
คือปรากฏการณ์นี้อาจจะมีผลดีต่อสุขภาพเพราะช่วยบุคคลให้จัดการความเครียดได้ หรือสนับสนุนให้ทำงานให้สำเร็จ[ 4]
แต่ในด้านตรงกันข้าม การคาดหวังเชิงบวกเกินความจริง อาจขัดขวางไม่ให้ทำการป้องกันที่เหมาะสมกับเรื่องเสี่ยงต่อสุขภาพ[ 21]
งานวิจัยไม่นานนี้จริง ๆ ให้หลักฐานว่า คนที่แปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก อาจจะได้ทั้งประโยชน์ในระยะสั้นและโทษในระยะยาว โดยเฉพาะก็คือ การยกย่องตนเองไม่มีสหสัมพันธ์ กับความสำเร็จทางการศึกษา หรืออัตราการจบปริญญา ในมหาวิทยาลัย [ 20]
สุขภาพจิต
แบบจำลอง จิตวิทยาสังคม ของเทย์เลอร์และบราวน์สันนิษฐานว่า ความเชื่อ เชิงบวกจะมีผลต่อความเป็นสุขทางจิต คือการประเมินตัวเองในทางบวก แม้กระทั่งไม่สมจริง ก็จะช่วยให้สุขภาพจิตดี
ส่วนความเป็นสุขในที่นี้หมายถึงการรู้สึกดีเกี่ยวกับตน การมีความคิดสร้างสรรค์ทำงานได้คล่อง การสร้างความสัมพันธ์ที่น่าพอใจกับผู้อื่น และการจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อจำเป็น
ปรากฏการณ์นี้ มีประโยชน์ช่วยให้บุคคลผ่านเหตุการณ์เครียดหรือเหตุการณ์ที่ก่อความบาดเจ็บทางกายหรือใจ เช่น ความเจ็บป่วยที่เสี่ยงต่อชีวิต หรืออุบัติเหตุ รุนแรง
คนที่พัฒนาและรักษาความเชื่อเชิงบวกเมื่อเผชิญกับปัญหาสำคัญเหล่านี้ มักจะดำเนินการไปได้ดีกว่า และเครียดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น งานวิจัยทางจิตวิทยาแสดงว่า ผู้ที่รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง แจ้งว่า มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคนที่ไม่เคยมี
กระบวนการเช่นนี้อาจช่วยป้องกันสุขภาพจิต เพราะว่า สามารถที่จะใช้ประสบการณ์แย่ ๆ ปลุกความรู้สึกเกี่ยวกับความหมายและเป้าหมายแห่งชีวิต
ซึ่งสัมพันธ์กับแนวคิดเรื่อง psychological resilience (ความยืดหยุ่นทางจิต/การฟื้นคืนตนได้ทางจิต) หรือความสามารถของบุคคลที่จะแก้ไขจัดการสู้กับปัญหาและความเครียด
เช่น การยกย่องตน (self-enhancement) สัมพันธ์กับการฟื้นคืนตนได้ในบุคคลที่อยู่ในตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ หรือใกล้ตึกในเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544
ความเชื่อเชิงบวกบ่อยครั้งช่วยให้ทำงานได้มากกว่าและทนกว่า ซึ่งถ้าไม่เชื่อก็อาจจะเลิกไปกลางคัน[ 26]
คือเมื่อเชื่อว่าตนสามารถทำเป้าหมายที่ยากให้สำเร็จ ความคาดหวังนี้บ่อยครั้งจะช่วยให้เกิดกำลังใจและความกระตือรือร้น มีผลเป็นความก้าวหน้าที่ถ้าไม่เชื่อก็จะเป็นไปไม่ได้
ปรากฏการณ์นี้ อาจจะอ้างได้ว่าเป็นการปรับตัว เพราะช่วยให้คนมีความหวังเมื่อเผชิญกับความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้[ 27]
นอกจากนั้นแล้ว การแปลสิ่งเร้าผิด ยังเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับอารมณ์ ที่ดี
คือ งานวิจัยแสดงทิศทางว่า การแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกเป็นเหตุของอารมณ์ที่ดี[ 28]
แต่งานวิจัยหลังจากนั้นกลับพบว่า การแปลสิ่งเร้าผิดทุกอย่าง จะเชิงบวกหรือเชิงลบก็ดี สัมพันธ์กับอาการซึมเศร้าs[ 29]
และก็มีงานศึกษาอื่น ๆ อีกด้วยที่ปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกกับสุขภาพจิต ความเป็นสุข หรือความพอใจในชีวิต โดยยืนยันว่า การรับรู้ความจริงที่ถูกต้อง เข้ากับความสุขในชีวิต[ 6] [ 30]
ในงานปี 1992 ที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเคารพในตน (self-esteem) กับการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก นักวิจัยพบกลุ่มคนที่เคารพในตนสูงโดยที่ไม่แปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก และคนเหล่านี้ก็ไม่ได้เศร้าซึม ไม่ได้เป็นโรคประสาท ไม่ได้ปรับตัวเข้ากับชีวิตได้ไม่ดี ไม่ได้ผิดปกติทางบุคลิกภาพ และดังนั้น จึงสรุปว่า การแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกไม่จำเป็นต่อความเคารพในตน
และเมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีทั้งการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกและความเคารพในตนสูง กลุ่มที่ไม่แปลสิ่งเร้าผิดที่เคารพในตนสูง สามารถวิเคราะห์วิจารณ์ตนเองได้ดีกว่า มีบุคลิกภาพที่เข้ากันดีกว่า และมีระดับ psychoticism ที่ต่ำกว่า[ 31]
งานวิเคราะห์อภิมาน ที่วิเคราะห์งานศึกษา 118 งานที่มีผู้ร่วมการทดลอง 7,013 คนพบว่า มีงานศึกษาที่สนับสนุนแนวคิดของสัจนิยมเหตุซึมเศร้า (depressive realism) มากกว่าไม่สนับสนุน
แต่งานเหล่านี้มีคุณภาพแย่กว่า ใช้ตัวอย่างที่ไม่ได้เป็นคนไข้ (non-clinical) ทำการอนุมานโดยอุปนัยง่าย ๆ กว่า ให้ผู้ร่วมการทดลองแจ้งผลวัดเองแทนที่จะใช้การสัมภาษณ์
และใช้วิธีการทางความเอนเอียงโดยการใส่ใจ (attentional bias) หรือการประเมินโอกาสที่จะเกิดขึ้น (judgment of contingency) เป็นวิธีวัดค่าสัจนิยมเหตุซึมเศร้า
เพราะว่าวิธีการเช่นการระลึกถึงคำวิจารณ์และการประเมินผลงาน ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถใช้วัดได้เหมือนกัน มักจะแสดงผลที่คัดค้านสัจนิยมเหตุซึมเศร้า[ 32]
สุขภาพกาย
นอกจากช่วยให้ปรับตัวทางจิตได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ[ 33]
ความสามารถสร้างและรักษาความเชื่อเมื่อเผชิญเหตุร้าย ก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย
งานวิจัยแสดงว่า ชายที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือได้วินิจฉัยว่าเกิดโรคเอดส์ แล้ว
และประเมินความสามารถควบคุมสภาวะสุขภาพของตนอย่างไม่สมจริงเชิงบวก
ใช้เวลานานกว่าที่จะปรากฏอาการต่าง ๆ มีการดำเนินของโรคที่ช้ากว่า และมีผลดีทางใจอื่น ๆ เช่นการยอมรับความจริง[ 34]
โทษที่เป็นไปได้
มีความเสี่ยงที่เป็นไปได้หลายอย่างถ้ามีการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกเกี่ยวกับคุณสมบัติของตนและสิ่งที่อาจจะเกิดในอนาคต
แรกสุดก็คือ อาจจะตั้งตนให้มีเรื่องแปลกใจแบบไม่น่ายินดีในอนาคตที่ไม่สามารถรับได้ เมื่อความเชื่อเชิงบวกที่ไม่สมจริงไม่ตรงกับความจริง
และอาจจะต้องจัดการปัญหาที่ตามมา
แต่ว่า งานวิจัยเสนอว่า โดยมากแล้ว ผลลบเช่นนี้ไม่เกิดขึ้น
คือ ความเชื่อของคนจะตรงกับความจริงมากกว่าในช่วงต่าง ๆ ที่การยอมรับความจริงจะช่วยตนได้ดี เช่น เมื่อวางแผนในเบื้องต้น หรือเมื่อจะต้องรับผิดชอบหรือได้รับการตอบสนองที่ไม่ดีจากสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้นแล้ว ถึงจะเกิดเหตุการณ์ร้ายหรือความล้มเหลว ก็ไม่ใช่ว่าจะเสียโอกาสทุกอย่างไป เพราะว่าความเชื่อเชิงบวกเกินจริงก็จะช่วยให้ทำการต่อ ๆ ไปได้[ 35]
ความเสี่ยงที่สองก็คือ คนที่แปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกจะตั้งเป้าหมายหรือดำเนินการที่มีโอกาสจะล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ
แต่ความเป็นห่วงนี้ดูจะไม่มีหลักฐาน
คืองานวิจัยแสดงว่า เมื่อคนกำลังคิดถึงแผนการในอนาคตสำหรับตน เช่น จะรับงานหรือศึกษาต่อในขั้นบัณฑิตศึกษา ความคิดมักจะใกล้กับความจริง แต่ว่า การดำเนินการตามแผนนั้นอาจจะทำด้วยความรู้สึกเชิงบวกมากเกินไป
คือ แม้ว่าจะไม่มีอะไรประกันได้ว่า การพยากรณ์ที่สมจริงจะกลายเป็นเรื่องจริงหรือไม่[ 35]
แต่ว่า การเปลี่ยนความคิดแบบสมจริงสมจังเมื่อวางแผน ไปเป็นการมองโลกในแง่ดีเมื่อดำเนินการ อาจจะเป็นพลังช่วยให้ทำงานที่ยากจากต้นจนจบได้สำเร็จ
ปัญหาที่ 3 ก็คือปรากฏการณ์นี้อาจจะมีโทษทางสังคม
หลักฐานมาจากงานศึกษาปี 1989 ที่ตรวจดูการประเมินความสามารถที่ยกย่องตนเอง เกี่ยวกับนิยามโดยเฉพาะ ๆ ของคุณลักษณะและความสามารถ
ผู้วิจัยเสนอว่า โทษทางสังคมเกิดขึ้นเมื่อบุคคลเห็นความสามารถที่ตนนิยามเท่านั้น ว่าเป็นปัจจัยสำคัญให้ทำงานได้สำเร็จ
หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อคนไม่รู้ว่า มีนิยามของความสามารถอย่างอื่น ๆ อีกที่เป็นปัจจัยให้ถึงความสำเร็จได้ การประเมินความเป็นสุขของตนในอนาคตจึงจะเกินความจริง
โทษอย่างที่ 4 อาจเกิดขึ้นเมื่อรู้ว่าความเก่งจริงของตนไม่ตรงกับความคิด
เพราะว่าสามารถทำลายความมั่นใจ แล้วทำให้ทำการได้แย่ลงในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การศึกษาในมหาวิทยาลัยเป็นต้น[ 20]
ดังนั้น แม้ว่าการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกจะมีประโยชน์ในระยะสั้น แต่ก็มาพร้อมกับโทษในระยะยาว
นอกจากนั้นแล้ว ยังปรากฏหลักฐานเชื่อมโยงกับความเคารพตนและการอยู่เป็นสุขที่แย่ลง การหลงตัวเอง (narcissism) และความสำเร็จทางการศึกษาที่แย่ลงในนักเรียนนักศึกษา[ 38]
การแปลสิ่งเร้าผิดเชิงลบ
แม้ว่าจะมีงานศึกษาทางวิชาการในเรื่องการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวกมากกว่า แต่ก็ยังมีการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงลบอย่างเป็นระบบที่ปรากฏในสถานการณ์ที่ต่างกันเล็กน้อย[ 2]
ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่านักศึกษามหาวิทยาลัยจะบอกว่าตนมีโอกาสที่จะมีชีวิตจนกระทั่งอายุ 70 มากกว่าโดยเฉลี่ย แต่ก็เชื่อว่ามีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 100 น้อยกว่าโดยเฉลี่ย
คนมักจะคิดว่าตนสามารถมากกว่าคนโดยเฉลี่ยในงานที่ง่ายเช่นการขี่จักรยานสองล้อ และคิดว่าสามารถน้อยกว่าคนโดยเฉลี่ยในงานที่ยากเช่นการขี่จักรยานล้อเดียว[ 39]
และปรากฏการณ์หลังนี้เรียกว่า ปรากฏการณ์แย่กว่าโดยเฉลี่ย (Worse-than-average effect)[ 40]
ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว คนมักจะประเมินตัวเองสูงเกินจริง เมื่อตัวเองอยู่ในระดับสูงจริง ๆ และมักจะประเมินตนเองต่ำเกินจริง เมื่อตัวเองอยู่ในระดับต่ำจริง ๆ[ 2]
การบรรเทา
ทฤษฎีสัจนิยมเหตุซึมเศร้า (depressive realism) เสนอว่า คนซึมเศร้ามองตนเองและโลกอย่างเป็นจริงมากกว่าคนมีสุขภาพจิตดี
ธรรมชาติของความซึมเศร้าดูเหมือนจะมีบทบาทในการลดการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก
ยกตัวอย่างเช่น คนที่เคารพตนน้อย หรือซึมเศร้าเล็กน้อย หรือว่าทั้งสองอย่าง จะมองตัวเองอย่างสมดุลกว่า
และโดยนัยเดียวกัน คนซึมเศร้าเล็กน้อย จะไม่ค่อยประเมินความสามารถควบคุมเหตุการณ์เกินความเป็นจริง
และไม่ประเมินเหตุการณ์ข้างหน้าอย่างเอนเอียง
แต่ว่า สิ่งที่ค้นพบเหล่านี้ อาจจะไม่ใช่เพราะว่าคนซึมเศร้าแปลสิ่งเร้าผิดน้อยกว่าคนอื่น
มีงานศึกษาเช่นงานในปี 1989 ที่แสดงว่าคนซึมเศร้าเชื่อว่าตนไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ได้ แม้ว่าจริง ๆ จะสามารถ ดังนั้น การมองเห็นความเป็นจริงจึงไม่ได้ดีกว่าโดยทั่วไป[ 44]
งานวิจัยในปี 2007 เสนอว่า คนซึมเศร้าเอนเอียงมองโลกในแง่ร้าย ซึ่งมีผลเป็น "สัจนิยมเหตุซึมเศร้า" และจึงประเมินความจริงได้ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ได้[ 45]
งานวิจัยในปี 2005 และ 2007 พบว่า การประเมินเกินความจริงของคนที่ไม่ซึมเศร้า จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีเวลาระหว่างการแสดงเหตุการณ์กับการประเมินผลนานเพียงพอ
ซึ่งบอกเป็นนัยว่า เป็นอย่างนี้เพราะว่าบุคคลปกติจะรวมเอาข้อมูลของเหตุการณ์ด้านอื่น ๆ เข้าในการพิจารณาด้วยโดยไม่เหมือนกับคนซึมเศร้า คือคนซึมเศร้าไม่สามารถประมวลข้อมูลได้เหมือนกับคนปกติ[ 46]
มีสมมติฐาน 2 อย่างในวรรณกรรมเรื่องการป้องกันปัญหาของการแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก คือ
ให้ลดระดับลงจนถึงขั้นที่ไม่มีผลลบแต่ได้รับผลบวก[ 47]
เนื่องจากการดูสถานการณ์บวกเกินจริงไม่มีในขั้นการพยามยามเพื่อตัดสินใจ แต่มีเมื่อลงมือทำ ดังนั้น ก่อนที่จะลงมือทำอะไรที่สำคัญ ควรจะพิจารณาตัดสินใจให้ดีก่อนว่าจะทำได้หรือไม่หรือมีผลลบอย่างไร
นักวิจัยผู้หนึ่งตั้งสมมติฐานว่า การบิดเบือนความจริงเชิงบวกแบบเล็กน้อยอาจจะดีที่สุด เพราะว่า คนที่คิดบิดเบือนในระดับนี้ อาจจะมีสุขภาพจิตดีที่สุด[ 47]
อ้างอิง
↑ "ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑", ให้ความหมายของ illusion ว่า "การลวงตา, การแปลสิ่งเร้าผิด, มายา, ภาวะลวงตา"
↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 Kruger, Chan & Roese 2009 .
↑ 4.0 4.1 4.2 McKay & Dennett 2009 .
↑ Colvin & Block 1994 .
↑ 6.0 6.1 Birinci & Dirik 2010 .
↑ Alicke 1985
↑ Brown 1986
↑ Campbell 1986
↑ Svenson 1981
↑ Wenger & Fowers 2008
↑ Leary 2007
↑ Lewinsohn et al. 1980
↑ Swann et al. 1987
↑ Owens et al. 2007
↑ Eiser, Pahl & Prins 2001
↑ Heine & Hamamura 2007
↑ 20.0 20.1 20.2 Robins & Beer 2001
↑ Dunning, Heath & Suls 2004 .
↑ Greenwald 1980
↑ Janoff-Bulman & Brickman 1982
↑ e.g., McFarland & Ross 1982 .
↑ Such as Joiner et al. 2006 or Moore & Fresco 2007 .
↑ Such as Fu et al. 2003 , Carson et al. 2010 and Boyd-Wilson et al. 2000 .
↑ Compton 1992
↑ Moore & Fresco 2007
↑ Taylor et al. 1992
↑ Bower et al. 1998
↑ 35.0 35.1 Armor & Taylor 1998
↑ Robins & Beer 2001 ; Yang, Chuang & Chiou 2009 ; John & Robins 1994 .
↑ Kruger 1999 ดังที่อ้างอิงโดย Sedikides & Gregg 2008
↑ Moore 2007
↑ Dykman et al. 1989
↑ Allan et al. 2007
↑ Msetfi et al. 2005
↑ 47.0 47.1 Baumeister 1989
แหล่งข้อมูล
Adelson, Rachel (2005). "Probing the puzzling workings of 'depressive realism' " . Monitor on Psychology . 36 (4): 30.
Alicke, M.D. (1985). "Global self-evaluation as determined by the desirability and controllability of trait adjectives". Journal of Personality and Social Psychology . 49 (6): 1621–1630. doi :10.1037/0022-3514.49.6.1621 .
Alicke, M.D., & Govorun, O. (2005). "The better-than-average effect." In M.D. Alicke, D.A. Dunning, & J.I. Krueger (Eds.), The self in social judgment (pp. 85 –108). Hove: Psychology.
Allan, LG; Siegel, S; Hannah, S (2007). "The sad truth about depressive realism" (PDF) . The Quarterly Journal of Experimental Psychology . 60 (3): 482–495. doi :10.1080/17470210601002686 . PMID 17366313 . S2CID 17018149 .
Armor, David A.; Taylor, Shelley E. (1998). "Situated Optimism: Specific Outcome Expectancies and Self-Regulation" (PDF) . Advances in Experimental Social Psychology . Advances in Experimental Social Psychology. Vol. 30. Elsevier. pp. 309–379. doi :10.1016/S0065-2601(08)60386-X . ISBN 9780120152308 .
Armor, David A.; Taylor, Shelley E. (2002). "When Predictions Fail: The Dilemma of Unrealistic Optimism". ใน T. Gilovich; D. Griffin; D. Kahneman (บ.ก.). Heuristics and Biases: The Psychology of Intuitive Judgment . Cambridge University Press. pp. 334–347. doi :10.1017/CBO9780511808098.021 . ISBN 9780511808098 .
Baumeister, R.F. (1989). "The optimal margin of illusion" . Journal of Social and Clinical Psychology . 8 (2): 176–189. doi :10.1521/jscp.1989.8.2.176 .
Biglan, Anthony; Flay, Brian R.; Embry, Dennis D.; Sandler, Irwin N. (2012). "The Critical Role of Nurturing Environments for Promoting Human Wellbeing" . The American Psychologist . 67 (4): 257–271. doi :10.1037/a0026796 . PMC 3621015 . PMID 22583340 .
Birinci, F; Dirik, G (2010). "Depressive Realism: Happiness or Objectivity" (PDF) . Turkish Journal of Psychiatry . 21 (1): 60–67. PMID 20204905 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2012-03-16.
Bonanno, G. A.; Rennicke, C; Dekel, S (2005). "Self-enhancement among high-exposure survivors of the September 11th terrorist attack: Resilience or social maladjustment?" . Journal of Personality and Social Psychology . 88 (6): 984–98. doi :10.1037/0022-3514.88.6.984 . PMID 15982117 .
Bower, J.E.; Kemeny, ME; Taylor, SE; Fahey, JL (1998). "Cognitive processing, discovery of meaning, CD 4 decline, and AIDS-related mortality among bereaved HIV-seropositive men" . Journal of Consulting and Clinical Psychology . 66 (6): 979–986. doi :10.1037/0022-006X.66.6.979 . PMID 9874911 .
Boyd-Wilson, Belinda M.; Walkey, Frank H.; McClure, John; Green, Dianne E. (December 2000). "Do we need positive illusions to carry out plans? Illusion: and instrumental coping". Personality and Individual Differences . 29 (6): 1141–1152. doi :10.1016/S0191-8869(99)00261-5 .
Brown, J.D. (1986). "Evaluations of self and others: Self-enhancement biases in social judgements". Social Cognition . 4 (4): 353–376. doi :10.1521/soco.1986.4.4.353 .
Buehler, Roger; Griffin, Dale; Ross, Michael (1994). "Exploring the "planning fallacy": Why people underestimate their task completion times" . Journal of Personality and Social Psychology . 67 (3): 366–381. doi :10.1037/0022-3514.67.3.366 . S2CID 4222578 .
Campbell, J.D. (1986). "Similarity and uniqueness: The effects of attribute type, relevance, and individual differences in self-esteem and depression" . Journal of Personality and Social Psychology . 50 (2): 281–294. doi :10.1037/0022-3514.50.2.281 . PMID 3701578 .
Carson, Richard C.; Hollon, Steven D.; Shelton, Richard C. (April 2010). "Depressive realism and clinical depression". Behaviour Research and Therapy . 48 (4): 257–265. doi :10.1016/j.brat.2009.11.011 . PMID 19963207 .
Colvin, C. R.; Block, J (1994). "Do positive illusions foster mental health? An Examination of the Taylor and Brown Formulation" (PDF) . Psychological Bulletin . 116 (1): 3–20. doi :10.1037/0033-2909.116.1.3 . PMID 8078973 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2012-03-04. สืบค้นเมื่อ 2010-12-28 .
Compton, William C. (December 1992). "Are positive illusions necessary for self-esteem: a research note". Personality and Individual Differences . 13 (12): 1343–1344. doi :10.1016/0191-8869(92)90177-Q .
Coyne, J.C.; Gotlib, I. H. (1983). "The role of cognition in depression: A critical appraisal" . Psychological Bulletin . 94 (3): 472–505. doi :10.1037/0033-2909.94.3.472 . PMID 6657826 .
Crary, William G. (1966). "Reactions to incongruent self-experiences". Journal of Consulting Psychology . 30 (3): 246–52. doi :10.1037/h0023347 . PMID 5933621 .
Dufner, Michael; Gebauer, Jochen E.; Sedikides, Constantine; Denissen, Jaap J. A. (2018). "Self-Enhancement and Psychological Adjustment: A Meta-Analytic Review" (PDF) . Personality and Social Psychology Bulletin . online first (1): 48–72. doi :10.1177/1088868318756467 . PMID 29534642 . S2CID 3827374 .
Dunning, D.; Meyerowitz, J. A.; Holzberg, A. D. (1989). "Ambiguity and self-evaluation: The role of idiosyncratic trait definitions in self-serving assessments of ability". ใน T. Gilovich; D. Griffin; D. Kahneman (บ.ก.). Heuristics and Biases: The Psychology of Intuitive Judgment . New York, NY: Cambridge University Press. pp. 324–333.
Dunning, D; Heath, C; Suls, J. M. (2004). "Flawed Self-Assessment. Implications for Health, Education, and the Workplace" . Psychological Science in the Public Interest . 5 (3): 69–106. doi :10.1111/j.1529-1006.2004.00018.x . PMID 26158995 .
Dykman, B. M.; Abramson, L. Y.; Alloy, L. B.; Hartlage, S. (1989). "Processing of ambiguous and unambiguous feedback by depressed and nondepressed college students: Schematic biases and their implications for depressive realism". Journal of Personality and Social Psychology . 56 (3): 431–445. doi :10.1037/0022-3514.56.3.431 . PMID 2926638 .
Eiser, J.R.; Pahl, S.; Prins, Y.R.A. (2001). "Optimism, pessimism, and the direction of self-other comparisons". Journal of Experimental Social Psychology . 37 : 77–84. doi :10.1006/jesp.2000.1438 .
Fiske, S.T., & Taylor, S.E. (in press). Social cognition (3rd ed.). New York: Random House.
Fleming, J.H.; Darley, J.M. (1989). "Perceiving choice and constraint: The effects of contextual and behavioural cues on attitude attribution" . Journal of Personality and Social Psychology . 56 (1): 27–40. doi :10.1037/0022-3514.56.1.27 . PMID 2926615 .
Fu, Tiffany; Koutstaal, Wilma; Fu, Cynthia H. Y.; Poon, Lucia; Cleare, Anthony J. (2003). "Depression, Confidence, and Decision: Evidence Against Depressive Realism". Journal of Psychopathology and Behavioral Assessment . 27 (4): 243–252. doi :10.1007/s10862-005-2404-x . S2CID 73624139 .
Golin, S.; Terrell, T.; Weitz, J.; Drost, P.L. (1979). "The illusion of control among depressed patients". Journal of Abnormal Psychology . 88 (4): 454–457. doi :10.1037/h0077992 . PMID 479470 .
Gollwitzer, P.M.; Kinney, R.F. (1989). "Effects of deliberative and implemental mind-sets on illusion of control". Journal of Personality and Social Psychology . 56 (4): 531–542. CiteSeerX 10.1.1.515.1673 . doi :10.1037/0022-3514.56.4.531 .
Greenwald, A.G. (1980). "The totalitarian ego: Fabrication and revision of personal history". American Psychologist . 35 (7): 603–618. doi :10.1037/0003-066X.35.7.603 .
Heine, S.J.; Hamamura, T. (2007). "In Search of East Asian Self-Enhancement". Personality and Social Psychology Review . 11 (1): 4–27. doi :10.1177/1088868306294587 . PMID 18453453 . S2CID 2843126 .
Janoff-Bulman, R.; Brickman, P. (1982). "Expectations and what people learn from failure.". ใน N. T. Feather (บ.ก.). Expectations and action: Expectancy-value models in psychology . Hillsdale, NJ: Erlbaum. pp. 207–272.
John, Oliver P.; Robins, Richard W. (1994). "Accuracy and bias in self-perception: Individual differences in self-enhancement and the role of narcissism". Journal of Personality and Social Psychology . 66 (1): 206–219. doi :10.1037/0022-3514.66.1.206 . PMID 8126650 .
Joiner, Thomas E.; Kistner, Janet A.; Stellrecht, Nadia E.; Merrill, Katherine A. (2006). "On Seeing Clearly and Thriving: Interpersonal Perspicacity as Adaptive (Not Depressive) Realism (Or Where Three Theories Meet)" . Journal of Social and Clinical Psychology . 25 (5): 542–564. doi :10.1521/jscp.2006.25.5.542 .
Kruger, J. (1999). "Lake Wobegon be gone! The below-average effect and the egocentric nature of comparative ability judgements". Journal of Personality and Social Psychology . 77 (2): 221–232. doi :10.1037/0022-3514.77.2.221 . PMID 10474208 .
Kruger, Justin; Chan, Steven; Roese, Neal (2009). "(Not so) positive illusions". Behavioral and Brain Sciences . 32 (6): 526–527. doi :10.1017/S0140525X09991270 . S2CID 144372728 .
Kuiper, N.A.; Derry, P.A. (1982). "Depressed and nondepressed content self-reference in mild depression" . Journal of Personality . 50 (1): 67–79. doi :10.1111/j.1467-6494.1982.tb00746.x . PMID 7086630 .
Leary, M.R. (2007). "Motivational and emotional aspects of the self". Annual Review of Psychology . 58 : 317–344. doi :10.1146/annurev.psych.58.110405.085658 . PMID 16953794 .
Lewinsohn, P.M.; Mischel, W.; Chaplin, W.; Barton, R. (1980). "Social competence and depression: The role of illusory self-perceptions" . Journal of Abnormal Psychology . 89 (2): 203–212. doi :10.1037/0021-843X.89.2.203 . PMID 7365132 .
McFarland, Cathy; Ross, Michael (1982). "Impact of causal attributions on affective reactions to success and failure" . Journal of Personality and Social Psychology . 43 (5): 937–946. doi :10.1037/0022-3514.43.5.937 .
McKay, Ryan T.; Dennett, Daniel C. (2009). "The evolution of misbelief" (PDF) . Behavioral and Brain Sciences . 32 (6): 493–561. doi :10.1017/S0140525X09990975 . PMID 20105353 . S2CID 2763525 .
Moore, D.A. (2007). "Not so above average after all: When people believe they are worse than average and its implications for theories of bias in social comparison". Organizational Behavior and Human Decision Processes . 102 : 42–58. doi :10.1016/j.obhdp.2006.09.005 .
Moore, Michael T.; Fresco, David M. (2007). "Depressive Realism and Attributional Style: Implications for Individuals at Risk for Depression" (PDF) . Behavior Therapy . 38 (2): 144–154. doi :10.1016/j.beth.2006.06.003 . PMID 17499081 . S2CID 15551427 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2016-05-14.
Moore, Michael T.; Fresco, David M. (2012). "Depressive realism: A meta-analytic review" (PDF) . Clinical Psychology Review . 32 (6): 496–509. doi :10.1016/j.cpr.2012.05.004 . PMID 22717337 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-06-06.
Msetfi, R. M.; Murphy, R. A.; Simpson, J; Kornbrot, D. E. (2005). "Depressive realism and outcome density bias in contingency judgments: The effect of the context and intertrial interval" (PDF) . Journal of Experimental Psychology: General . 134 (1): 10–22. CiteSeerX 10.1.1.510.1590 . doi :10.1037/0096-3445.134.1.10 . hdl :10344/2360 . PMID 15702960 . เก็บ (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-29. สืบค้นเมื่อ 2016-06-06 .
Msetfi RM, Murphy RA, Simpson J (2007). "Depressive realism and the effect of intertrial interval on judgements of zero, positive, and negative contingencies". The Quarterly Journal of Experimental Psychology . 60 (3): 461–481. doi :10.1080/17470210601002595 . hdl :10344/2571 . PMID 17366312 . S2CID 17008352 .
Nuttin, Jozef M. (1987). "Affective consequences of mere ownership: The name letter effect in twelve European languages". European Journal of Social Psychology . 17 (4): 381–402. doi :10.1002/ejsp.2420170402 .
Owens, J.S.; Goldfine, M.E.; Evangelista, N.M.; Hoza, B. ; Kaiser, N.M. (2007). "A critical review of self-perception and the positive illusory bias I children with ADHD". Clinical Child and Family Psychology Review . 10 (4): 335–351. doi :10.1007/s10567-007-0027-3 . PMID 17902055 . S2CID 44727464 .
Robins, Richard W.; Beer, Jennifer S. (2001). "Positive illusions about the self: Short-term benefits and long-term costs" (PDF) . Journal of Personality and Social Psychology . 80 (2): 340–352. doi :10.1037/0022-3514.80.2.340 . PMID 11220450 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2016-03-04.
Ruehlman, L. S.; West, S. G.; Pasahow, R. J. (1985). "Depression and evaluative schemata" . Journal of Personality . 53 (1): 46–92. doi :10.1111/j.1467-6494.1985.tb00888.x . PMID 3889272 .
Sedikides, C.; Gregg, A.P. (2008). "Self-enhancement: Food for thought" (PDF) . Perspectives on Psychological Science . 3 (2): 102–116. doi :10.1111/j.1745-6916.2008.00068.x . PMID 26158877 . S2CID 5171543 .
Segerstrom, S.C.; Taylor, SE; Kemeny, ME; Fahey, JL (1998). "Optimism is associated with mood, coping, and immune change in response to stress". Journal of Personality and Social Psychology . 74 (6): 1646–1655. CiteSeerX 10.1.1.318.8731 . doi :10.1037/0022-3514.74.6.1646 . PMID 9654763 .
Svenson, O. (1981). "Are we less risky and more skillful than our fellow drivers?". Acta Psychologica . 47 (2): 143–151. doi :10.1016/0001-6918(81)90005-6 .
Swann, W.B.; Predmore, S.C.; Griffin, J.J.; Gaines, B. (1987). "The cognitive-affective crossfire: When self-consistency confronts self-enhancement". Journal of Personality and Social Psychology . 52 (5): 881–889. CiteSeerX 10.1.1.489.42 . doi :10.1037/0022-3514.52.5.881 . PMID 3585700 .
Taylor, S.E. (1983). "Adjustment to threatening events: A theory of cognitive adaptation". American Psychologist . 38 (11): 1161–1173. doi :10.1037/0003-066X.38.11.1161 .
Taylor, S.E.; Brown, J. (1988). "Illusion and well-being: A social psychological perspective on mental health" . Psychological Bulletin . 103 (2): 193–210. CiteSeerX 10.1.1.385.9509 . doi :10.1037/0033-2909.103.2.193 . PMID 3283814 . S2CID 762759 .
Taylor, S.E.; Kemeny, M.E.; Aspinwall, L.G.; Schneider, S.G.; Rodriguez, R.; Herbert, M. (1992). "Optimism, coping, psychological distress, and high-risk sexual behavior among men at risk for acquired immunodeficiency syndrome (AIDS)". Journal of Personality and Social Psychology . 63 (3): 460–473. doi :10.1037/0022-3514.63.3.460 . PMID 1403625 .
Taylor, S. E.; Brown, J. D. (1994). "Positive illusions and well-being revisited: Separating fact from fiction" . Psychological Bulletin . 116 (1): 21–27. doi :10.1037/0033-2909.116.1.21 . PMID 8078971 .
Taylor, Shelley E.; Gollwitzer, Peter M. (1995). "Effects of mindset on positive illusions" . Journal of Personality and Social Psychology (Submitted manuscript). 69 (2): 213–226. doi :10.1037/0022-3514.69.2.213 . PMID 7643303 .
Taylor, S. E.; Armor, D. A. (1996). "Positive illusions and coping with adversity". Journal of Personality . 64 (4): 873–98. doi :10.1111/j.1467-6494.1996.tb00947.x . PMID 8956516 .
Taylor, S.E.; Kemeny, M.E.; Reed, G.M.; Bower, J.E.; Gruenewald, T.L. (2000). "Psychological resources, positive illusions, and health". American Psychologist . 55 (1): 99–109. doi :10.1037/0003-066X.55.1.99 . PMID 11392870 .
Wenger, A.; Fowers, B.J. (2008). "Positive Illusions in Parenting: Every Child Is Above Average". Journal of Applied Social Psychology . 38 (3): 611–634. doi :10.1111/j.1559-1816.2007.00319.x .
Yang, Mu-Li; Chuang, Hsueh-Hua; Chiou, Wen-Bin (2009). "Long-Term Costs of Inflated Self-Estimate on Academic Performance Among Adolescent Students: A Case of Second-Language Achievements1". Psychological Reports . 105 (3): 727–737. doi :10.2466/PR0.105.3.727-737 . PMID 20099534 . S2CID 30357925 .