การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ค.ศ. 2007
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2550 (ฝรั่งเศส: Élection présidentielle française de 2007) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 – 22 เมษายน และ 5 – 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 โดยมีจุดประสงค์ในการหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสสืบต่อจากฌัก ชีรัก ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีจำนวนประชาชนฝรั่งเศสมาขึ้นทะเบียนเลือกตั้งมากกว่าครั้งก่อน ๆ โดยมีจำนวนกว่า 50,000,000 คนในดินแดนประเทศฝรั่งเศสและอีก 535,000 คนจากต่างประเทศตามสถานกงสุล[1] เป็นการแสดงว่ามีคนมาขึ้นทะเบียนกว่า 1.8 ล้านคนต่อปี [2] และ 3.3 ล้านคนมากกว่าปี พ.ศ. 2545[3] โดยมีสาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่สูงขึ้น [4] · [5] และความสนใจทางด้านการเมืองภาคประชาชน[3] การเลือกตั้งครั้งนี้ยังแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของฝรั่งเศสอีกด้วย เนื่องจากประชาชนกว่า 1.5 ล้านคนลงคะแนนเสียงผ่านทางคอมพิวเตอร์[6] การเลือกตั้งรอบแรกจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2550 ตั้งแต่ 08.00 น. – 18.00 น.[7] และเนื่องจากความแตกต่างในเวลา การเลือกตั้งก็ยังจัดเมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2550 สำหรับดินแดนภายนอกแผ่นดินใหญ่: กัวเดอลุป เฟรนช์เกียนา มาร์ตีนิก เฟรนช์โปลินีเซีย แซงปีแยร์และมีเกอลง และคูหาเลือกตั้งที่จัดโดยสถานทูตและสถานกงสุลบนทวีปอเมริกา[8] และเนื่องจากไม่มีผู้สมัครคนใดชนะด้วยเสียงข้างมากเด็ดขาด จึงมีการจัดการเลือกตั้งรอบสองขึ้นเมื่อวันที่ 5 – 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ระหว่างผู้สมัครที่มีเสียงมากที่สุดสองคนคือนีกอลา ซาร์กอซี และเซกอแลน รัวยาล[9] คณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยนีกอลา ซาร์กอซี เป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเสียง 18,983,138 หรือคิดเป็น 53.06% และวาระการดำรงตำแหน่งของฌัก ชีรัก ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เวลา 00.00 น. โดยนีกอลา ซาร์กอซี ได้ดำรงตำแหน่งสืบต่อมา ประวัติวันเวลาจัดการเลือกตั้งวันเวลาจัดการเลือกตั้งนั้นได้ถูกกำหนดผ่านรัฐบัญญัติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ทำการประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2549[10]
การเลือกตั้งรอบแรกการเลือกตั้งรอบสองผลการเลือกตั้งโดยรวมในการเลือกตั้งรอบแรกนั้นปรากฏผลว่า กว่า 85% หรือ 37.6 ล้านคนจาก 44 ล้านผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้ออกสิทธิเลือกตั้งจากประชากรทั้งหมด 62 ล้านคน ผลที่ออกมาคือการที่ซาร์กอซีและรัวยาลก้าวไปสู้การเลือกตั้งรอบที่ 2 ด้วยคะแนน 31% และ 26% ตามลำดับ ส่วนฟร็องซัว ไบรูได้คะแนนมาเป็นอันดับสาม (19%) และฌ็อง-มารี เลอ แปน เป็นที่สี่ (10%) ซึ่งต่างกับในปี พ.ศ. 2545 ซึ่งเลอ แปนได้คะแนน 16.9% และยังได้ก้าวไปสู้การเลือกตั้งรอบสอง ในทันทีหลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกออกมาอย่างเป็นทางการ ผู้สมัครปีกซ้ายทั้งสี่คนที่ได้พ่ายแพ้ ซึ่งก็คือ โฌเซ โบเว่, มารี-จอร์จ บุฟเฟต์, อาร์แลตต์ ลากิเยร์และโดมินิก วัวเนต์ได้ออกมาสนับสนุนให้ลงคะแนนแก่รัวยาล ครั้งนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ที่อาร์แลตต์ ลากิเยร์ได้ให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส โอลิวีเยร์ เบอซองเซอโนต์ได้บอกให้ผู้สนับสนุนของเขาออกเสียงต่อต้านซาร์กอซี เฟรเดอริค นีอูส์และเชราร์ด ชิวาร์ดีไม่ได้ออกมาประกาศว่าจะสนับสนุนฝ่ายใด ส่วนฟิลิป เดอ วิลลีเยร์ได้ประกาศสนับสนุนซาร์กอซี ทางด้านฌอง-มารี เลอ เปนได้ออกประกาศให้งดออกเสียงในรอบสอง ในวันที่ 25 เมษายน ฟรองซัวส์ ไบรูได้ออกมาประกาศไม่สนับสนุนผู้แข่งขันในรอบชิงทั้งสอง และยังได้ประกาศว่าเขาจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Mouvement démocrate (MoDem) ทั้งนี้เขาได้วิพากย์วิจารณ์ผู้แข่งขันทั้งสอง พร้อมทั้งเสนอให้มีการโต้วาที ซึ่งรัวยาลตกลงในการโต้วาทีออกทางโทรทัศน์ ขณะที่ซาร์กอซีเสนอให้มีการคุยกันแบบส่วนตัว ไม่ใช่โต้วาทีทางโทรทัศน์ ในวันที่ 6 พฤษภาคม เวลาประมาณ 18.15 น. แหล่งข่าวจากสำนักข่าวของเบลเยี่ยมและสวิตเซอร์แลนด์ เช่น Le Soir, RTBF, La Libre Belgique] และ La Tribune de Genève ได้ประกาศว่า นีกอลา ซาร์กอซี เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งในรอบสอง โดยอ้างอิงจากผลสำรวจเบื้องต้น และภายหลังการคาดคะเนผลการเลือกตั้งของ CSA นั้นปรากฏชัดว่า ซาร์กอซีด้วยคะแนน 53% ซึ่งรัวยาลก็ได้ยอมรับกับการพ่ายแพ้ของตนเองในเย็นวันนั้นเอง ผลการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งรอบแรก (22 เมษายน พ.ศ. 2550)![]() ![]() ผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งโดยมีเสียงข้างมากในเขตการปกครอง: นีกอลา ซาร์กอซี เซกอแลน รัวยาล ฟรองซัวส์ ไบรู ทั่วทั้งประเทศ นีกอลา ซาร์กอซี ได้รับคะแนนเสียง 31% เซกอแลน รัวยาลได้รับคะแนนเสียง 26% ขณะที่เทียบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2545 นั้น ฌัก ชีรักได้คะแนนเสียง 20% ส่วนลียอแนล ฌ็อสแป็ง ได้ 16.18% เท่านั้นเอง ฟรองซัวส์ ไบรู ได้คะแนนเสียง 18.6% ในครั้งนี้ ซึ่งได้คะแนนเสียงมากกว่าในปี พ.ศ. 2545 เกือบ 3 เท่า (6.8%) ส่วนผู้สมัครจากพรรคพรรคแนวหน้าแห่งชาติ (FN) ฌ็อง-มารี เลอ แปน ได้คะแนนเพียงแค่ 10.4% เมื่อเทียบกับความประสบความสำเร็จของเขาในปี พ.ศ. 2545 เมื่อเขาได้ 16.9% ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งซาร์กอซีได้ย้ายตนไปยังพรรคขวาจัด ทำให้มีผู้ออกมาวิจารณ์และแถลงว่าผู้ที่สนับสนุนพรรคแนวหน้าแห่งชาติ (FN) มาแต่เดิมนั้น โดนซาร์กอซีหลอกล่อให้ไปสังกัดปีกขวาจัดด้วย ถ้าดูผลโดยรวมนั้น ฝ่ายซ้ายได้รับคะแนน 36% ฝ่ายกลางได้รับคะแนน 19% ฝ่ายขวาได้รับคะแนน 33% ส่วนขวาจัดนั้นได้ 11% ส่วนผู้สมัครอื่นๆ นั้นได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่าที่เคยได้รับมาในปี พ.ศ. 2545 โดยมีโอลิวีเยร์ เบอซองเซอโนต์ จากพรรคสันนิบาตคอมมิวนิสต์ปฏิวัติ (LCR) ล้มเหลวในการบรรลุ 5% ซึ่งจะทำให้เขาสามารถเบิกเงินจากรัฐบาลในการรณรงค์หาเสียงได้ แต่ทว่าเขาได้รับเสียงสนับสนุนเพียงแค่ 4.1% เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2545 ที่เขาได้ 4.3% ส่วนผู้สมัครที่ตามหลังเขามาคือผู้สมัครขวาจัดอีกคนหนึ่ง ฟิลิป เดอ วิลลีเยร์ (2.2%), ผู้สมัครจากพรรคคอมมิวนิสต์ มารี-จอร์จ บุฟเฟต์ (ได้ 1.9% เมื่อเทียบกับโรแบร์ต อู ที่ได้ 3.4% ในปี พ.ศ. 2545), ผู้สมัครพรรคเขียว โดมินิก วัวเนต์ (ได้ 1.6% เมื่อเทียบกับ โนเอ็ล มาแมร์ ที่ได้ 5.7% ในปี พ.ศ. 2545), ผู้สมัครจากพรรคพลังแรงงาน (LO) อาร์แลตต์ ลากิเยร์ (ได้ 1.3% เมื่อเทียบกับ พ.ศ. 2545 ที่ได้ 5.7%), ผู้สมัครอิสระ นักต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์ โฌเซ โบเว่ (1.3%), เฟรเดอริค นีอูส์ (ได้ 1.2% เมื่อเทียบกับ ฌอง แซงต์-ฌอสส์ที่ได้ 4.2% ในปี พ.ศ. 2545) และสุดท้าย เชราร์ด ชิวาร์ดี (ได้ 0.3% เมื่อเทียบกับ ดานีแยล กลัคสไตน์ที่ได้ 0.5% ในปี พ.ศ. 2545) การงดออกเสียงนั้นอยู่ในระดับ 15.4% สถิติการเลือกตั้งทั่วไปนั้นอยู่ที่ 84.6% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2508 ที่ได้ 84.8% เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากตัดสินใจที่จะไม่นิ่งเฉยอยู่บ้าน ซึ่งส่วนมากนั้นตัดสินใจที่จะต้านการออกเสียงลงคะแนนคัดค้าน และเลือกที่จะลงคะแนนเสียงอย่างเป็นประโยชน์ นั่นก็คือการที่ลงคะแนนเสียงให้กับผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นแกนนำในแต่ละขั้วการเมือง (นีกอลา ซาร์กอซี, เซกอแลน รัวยาล และ/หรือฟร็องซัว ไบรู) สโลแกน "ใครก็ได้ยกเว้นซาร์กอซี" ได้ถูกผลักดันและเป็นผลประโยชน์แก่ทั้งรัวยาลและไบรู ขณะที่กลยุทธ์ในการลงคะแนนเสียง ซ้ายหรือขวา คือสาเหตุทำไมผู้สมัครอื่น ๆ ถึงได้คะแนนน้อยลงกว่าการเลือกตั้งรอบแรกในครั้งก่อนหน้านี้ การรณรงค์หาเสียงนั้นเห็นได้ชัดว่ามีการแบ่งแยกกันอย่างสุดขั้วและเห็นได้ชัด โดยเฉพาะสโลแกนของฝ่ายซ้ายที่ว่า "ใครก็ได้ยกเว้นซาร์กอซี" อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia