|
กาจบัณฑิต จำปาศิลป์
กาจบัณฑิต จำปาศิลป์ (เกิด 24 มกราคม พ.ศ. 2546) ชื่อเล่น ไรอัล หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไรอัล กาจบัณฑิต เป็นนักร้องลูกทุ่งชายชาวไทย และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เข้าประกวดรายการไมค์หมดหนี้ ช่องเวิร์คพอยท์ทีวี โดยปัจจุบันเป็นศิลปินในสังกัดยุ้งข้าวเรคคอร์ด ประวัติและการศึกษากาจบัณฑิต จำปาศิลป์ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2546 เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัว และมีน้องชายอีก 1 คน สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนบางกะปิ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นศิลปินในช่วงวัยเด็ก ไรอัลเคยมีน้ำหนักถึง 118 กก. โดยเขาได้ใช้เวลา 1 ปีกว่า ๆ ในการลดน้ำหนักลงมาเหลือเพียงประมาณ 70 กก. ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร จนทำให้มีภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้น[1] โดยเขาขึ้นประกวดร้องเพลงตามเวทีต่าง ๆ ตั้งแต่อายุ 13 ปีรวมถึงเคยประกวดร้องเพลงตามรายการประกวดร้องเพลง อาทิ มาสเตอร์คีย์ เวทีแจ้งเกิด ลูกทุ่งน็อคเอาท์ ในปี พ.ศ. 2559 ศึกวันดวลเพลง นักสู้ลูกทุ่ง ในปี พ.ศ. 2561 ดวลเพลงชิงทุน สู้ภัยโควิด-19 ในปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากบริษัทที่แม่ของเขาทำงานอยู่ได้ปิดตัวลง และพ่อที่มีอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น เขาจึงเริ่มประกวดร้องเพลงอย่างจริงจัง[2] ในปีเดียวกันเขายังได้ประกวดร้องเพลงในรายการชุมทางดาวทอง และเข้าประกวดประชันเงาเสียงของยอดรัก สลักใจ ในรายการกิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2564 เขาจะเข้าประกวดร้องเพลงในรายการไมค์หมดหนี้ นักร้องนำโชคและสามารถป้องกันแชมป์ได้ถึง 200 สมัยก่อนจะประกาศสละตำแหน่งกลางรายการเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 โดยเขายังได้มอบเงินรางวัลให้แก่ผู้เข้าแข่งขันและมูลนิธิการกุศลต่าง ๆ นอกจากนี้เขายังได้โชว์ความสามารถในการร้องเพลงแนวสตริง ป๊อป ร็อค อาร์แอนด์บี รวมถึงลูกกรุง และร่วมร้องเพลงกับศิลปินดัง ๆ มากมาย[2][3] ปัจจุบันไรอัลได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดยุ้งข้าวเรคคอร์ดซึ่งเป็นค่ายเพลงในเครือของบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ โดยได้ปล่อยซิงเกิลแรกในชีวิตคือเพลง รักเก่าข้างกองฟาง เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งได้ ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ และภรรยาของเขาอย่างเอมี่ กลิ่นประทุม มาแสดงนำและยังได้หม่ำ จ๊กมก ซึ่งเป็นผู้บริหารของค่ายยุ้งข้าวมานั่งแท่นกำกับเอ็มวีให้อีกด้วย[3][4] ส่วนซิงเกิลที่ 2 คือเพลง ฉันรักเพลงลูกทุ่ง เพลงในสไตล์จังหวะแบบโจ๊ะ ๆ ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม โดยคำร้องมาจากปลายปากกาของ โก๋ ลำลูกกา ซึ่งเป็นนามปากกาของศิลปินแห่งชาติและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวิร์คพอยท์อย่าง จิก-ประภาส ชลศรานนท์ โดยใช้ทำนองลาวดำเนินทราย เรียบเรียงเสียงประสานโดย โช้ย ลั่นทุ่ง หรือ จักรพัฒน์ เอี่ยมหนุน และเพลงนี้ได้ถูกนำไปใช้เป็นเพลงธีมของรายการชิงช้าสวรรค์ 2022[5] สำหรับซิงเกิลที่ 3 คือเพลง แรงใจหน้าจอ เป็นเพลงให้กำลังใจคนสู้ชีวิต ได้ถูกปล่อยออกมาเมื่อ 23 ตุลาคม 2565[6] จากนั้นได้ปล่อยซิงเกิลที่ 4 ตามออกมาคือเพลง หยุดเสียใจไว้ที่ฉัน ซึ่งปล่อยออกมาวันที่ 10 มกราคม 2566 ที่เล่าเรื่องเนื้อหาที่ไม่สมหวัง และเพลงนี้เคยเกือบจะเป็นซิงเกิ้ลแรกของไรอัล กาจบัณฑิตมาแล้ว อีกทั้งได้หมิว เขมจิรา มาเป็นนางเอกเอ็มวีในเพลงนี้ หลังจากนั้น วันที่ 24 มีนาคม 2566 ซิงเกิลลำดับที่ 5 ติด ร. วิชาหัวใจ ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวความรักในวัยเรียนที่น่ารักสดใสและย้อนวัยความรักในวัยเรียน ในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566 ได้ปล่อยเพลง รวยๆปังๆ เพลงที่เอาใจสายค้าขาย สู้ชีวิตอย่างมีความสุข และล่าสุดซิงเกิ้ล แด่ลมใต้ปีก เป็นซิงเกิ้ลแทนคำขอบคุณแฟนคลับ เปิดตัวครั้งแรกในรายการ แฟนด้อมพันธุ์แท้ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 และไรอัล กาจบัณทิตมีซับยูนิต RSF ร่วมกับซัน วงศธร และ ฟอร์ม ชลพิพรรธน์ เพื่อนร่วมค่ายยุ้งข้าวเรคคอร์ด ที่ปล่อยผลงานเอาใจสายโจ๊ะโดยเฉพาะ นั่นคือเพลง ลูกทุ่งเลขท้าย ช็อตฟีล และล่าสุด ตัวตึง ไรอัล กาจบัณฑิต ได้เดบิวต์ผลงานการแสดงเรื่องแรก เพลงลำคำเขื่อนแก้ว ในบท "วันเสาร์" ไดเรกเตอร์โชว์จอมป่วน ลูกคนเล็กประจำบ้านเพลินเพลง ที่จะได้ออกอากาศในเวลาช่วง เสาร์-อาทิตย์ 11:00 น. เริ่ม 20 ตุลาคม 2567 ล่าสุดในเดือนธันวาคม 2567 มีโปรเจคเพลง Covered ในนาม ไรอัลขับขานเพลงครู อ.ไพบูลย์ บุตรขัน ทั้งหมด 6 เพลง อาทิ บุพเพสันนิวาส มนต์รักลุกทุ่ง เดือนต่ำดาวตก มนต์เมืองเหนือ ขี้เหร่ก็รัก และ แม่ค้าตาคม และ 31 มกราคม 2568 ไรอัลได้มีการคอลแลปซิงเกิ้ลครั้งแรกในเพลง หมอดูหมอใจ คู่กับ อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง ศิลปินหมอลำชื่อดัง รางวัลที่ได้รับ
ผลงานเพลง
*2nd Single เป็นเพลงประกอบรายการ ชิงช้าสวรรค์ เพลงในฐานะซับยูนิต RSF (ไรอัล ซัน ฟอร์ม)
เพลงประกอบละคร
เพลงคอลแลปร่วม
ละครโทรทัศน์
รายการโทรทัศน์
ผลงานอื่นๆ
คอนเสิร์ต
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Portal di Ensiklopedia Dunia
