กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่

กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ *
  แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก
ผืนป่าเขาใหญ่
พิกัด14°19′48″N 102°3′0″E / 14.33000°N 102.05000°E / 14.33000; 102.05000
ประเทศ ไทย
ภูมิภาค **เอเชียและแปซิฟิก
ประเภทมรดกทางธรรมชาติ
เกณฑ์พิจารณา(x)
อ้างอิง590
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียน2548 (คณะกรรมการสมัยที่ 29)
พื้นที่615,500 เฮกตาร์
กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
ที่ตั้งกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ในประเทศไทย
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก

กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นแหล่งมรดกโลกแหล่งที่ 5 และเป็นลำดับที่ 2 ของมรดกทางธรรมชาติของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อวันที่ 10–17 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ณ เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีก 1 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และบุรีรัมย์ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นราว 3,874,863 ไร่ หรือ 6,155 ตารางกิโลเมตร ได้รับการขนานนามว่าเป็น ผืนป่าตะวันออก เพื่อเทียบเคียงกับ "ผืนป่าตะวันตก" บริเวณภาคตะวันตกของไทย

สถานที่ที่ประกอบเป็นแหล่งมรดกโลก

ประวัติ

ป่าดงพญาไฟ

แหล่งมรดกโลกผืนนี้ตั้งอยู่บริเวณทิวเขาพนมดงรัก ซึ่งแต่ก่อนเป็นป่าดงดิบที่ทึบหนา มีสัตว์มากมาย เช่น เสือ กระทิง ช้าง ชุกชุมไปด้วยไข้มาลาเรีย ไม่มีถนนหนทางตัดฝ่าผืนป่าดังเช่นในปัจจุบัน การเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปภาคอีสานจึงยากลำบาก หลายคนต้องเสียชีวิตด้วยไข้ป่าหรือสัตว์ป่า จนไม่ค่อยจะมีใครกล้าเข้ามาในดินแดนนี้ ผู้คนจึงตั้งชื่อให้ผืนป่าแห่งนี้ว่า ป่าดงพญาไฟ

ช่องหินลับ ในเขตป่าดงพญาเย็น ปัจจุบันมีโรงงานปูนซีเมนต์ไปตั้งอยู่ภายใน

ป่าดงพญาเย็น

ชื่อ ป่าดงพญาเย็น ได้รับการกล่าวขึ้นเป็นครั้งแรกในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จากหลักฐานจากบทพระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่อง เที่ยวตามทางรถไฟ ได้ทรงเล่าถึงป่าดงพญาไฟไว้ว่า

"ดงพญาไฟนี้ เป็นช่องสำหรับข้ามไปมา ระหว่างเมืองสระบุรีกับมณฑลนครราชสีมาแต่โบราณ ไปได้แต่โดยเดินเท้า จะใช้ล้อเกวียนหาได้ไม่ ด้วยทางต้องเดินตามสันเขาบ้าง ตามไหล่เขาบ้าง คนเดินตามปกตินั้นตั้งแต่ตำบลแก่งคอย ต้องค้างคืนในป่านี้ถึง 2 คืน ถึงจะพ้น"

"สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเคยพระราชดำริไว้ว่า ไม่ควรเรียกดงพญาไฟเพราะให้คนครั่นคร้าม จึงทรงกราบทูลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอให้เปลี่ยนชื่อจาก ดงพญาไฟ เป็น ดงพญาเย็น แต่หลายคนยังคงเรียกว่า ป่าดงพญาไฟอยู่ดั้งเดิม"

ภายหลังเมื่อมีการสร้างทางรถไฟและถนนมิตรภาพจากภาคกลางไปสู่ภาคอีสาน ผู้คนเริ่มที่จะอพยพเข้าไปแล้วถากถางป่าทำไร่ทำนา โดยเฉพาะบริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

เขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย

ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่จากอวกาศ

ภายหลังชาวบ้านจากบ้านท่าชัยและบ้านท่าด่าน จังหวัดนครนายก ได้อพยพมาบุกเบิกพื้นที่ทำกันบริเวณริมหนองขิง กลางผืนป่าเขาใหญ่ อันเป็นทำเลที่ดีอุดมสมบูรณ์ ถากถางเพื่อทำไร่พริกและนาข้าว เมื่อเห็นว่าสถานที่ดีจึงมีการอพยพเข้ามาถากถางมากขึ้นจนกลายมาเป็นชุมชนกลางป่าที่มีราว 40 หลังคาเรือน กระทั่งพื้นที่ราว 18,750 ไร่ หรือราว 30 ตารางกิโลเมตรได้ถูกถากถางไป

ราว พ.ศ. 2465 ชุมชนได้ขออนุญาตจัดตั้งเป็นตำบลเขาใหญ่ขึ้นกับอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ชื่อ "เขาใหญ่" จึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นั้นมา ทั้งที่ไม่มียอดเขาแห่งใดที่มีชื่อคำว่าเขาใหญ่

ด้วยเหตุที่ว่าตำบลเขาใหญ่นี้อยู่กลางใจป่า ไม่มีถนนที่สามารถเข้าไปได้อย่างสะดวก จึงทำให้ชุมชนกลายเป็นแหล่งซ่อนสุมของเหล่าโจรผู้ร้าย ดังนั้นเมื่อ พ.ศ. 2475 ทางจังหวัดนครนายกจึงได้ส่งคนนามว่า ปลัดจ่าง มาปราบกวาดล้างโจรบนเขาใหญ่ และก็สามารถปราบได้โดยใช้เวลานับเดือน แต่ตัวปลัดนั้นก็ต้องมาเสียชีวิตด้วยไข้ป่า ผู้คนจึงเชิดชูด้วยความกล้าหาญของท่าน โดยการสร้างศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้นเป็นศาลที่ให้ผู้คนกราบไหว้มาจนถึงปัจจุบัน

เมื่อปราบปรามโจรเสร็จ ทางจังหวัดนครนายกเห็นว่าหากปล่อยให้มีการตั้งตำบลเหมือนเดิม นานเข้าก็จะกลายเป็นชุมโจรอีก จึงมีคำสั่งให้อพยพชาวบ้านกว่า 1,000 คนลงมายังพื้นราบและสั่งให้ยกเลิกตำบลเขาใหญ่ ปล่อยให้กลายเป็นทุ่งหญ้ารกร้างและป่าดังปัจจุบัน

ใน พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เดินทางไปตรวจราชการในบริเวณดังกล่าวโดยนั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจป่า ปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์เป็นห่วงเรื่องการทำลายป่าซึ่งมีมากขึ้นทุกวัน จึงมีคำสั่งให้กระทรวงเกษตรและกระทรวงมหาดไทยร่วมกันสำรวจเพื่อจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ และได้ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2505 ซึ่งถือกำเนิดอุทยานแห่งชาติเป็นแห่งแรกของไทย

แหล่งมรดกโลก

กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่เป็นผืนป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยมีสภาพป่าแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ ป่าดงดิบ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้า

พื้นที่ตรงผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นเคยได้รับการเสนอชื่อขึ้นไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ พ.ศ. 2533 แล้ว ซึ่งในขณะนั้นได้เสนอแหล่งธรรมชาติอีก 3 แหล่งสู่ที่ประชุมยูเนสโกเพื่อพิจารณา คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง และอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และปรากฏว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกเพียงแห่งเดียว ด้วยเหตุที่ว่าอุทยานแห่งชาติที่เหลือทั้ง 2 แห่งนั้นเล็กเกินไป และยังมีนโยบายที่ไม่แน่นอนและไม่เพียงพอ

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นแหล่งที่มีชนิดพันธุ์ของพืช และสัตว์ที่ไม่สามารถพบได้ที่อื่นเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวนพืชราว 15,000 ชนิดที่พบในประเทศไทย สามารถพบในแหล่งมรดกโลกนี้ถึง 2,500 ชนิด มีพืชเฉพาะผืนป่านี้ถึง 16 ชนิด มีสัตว์ป่ากว่า 800 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 112 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกว่า 209 ชนิด นกกว่า 392 ชนิด และนกเงือก 4 ชนิด ใน 13 ชนิดที่พบในประเทศไทย

ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลก

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปางสีดา ทับลาน ตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยใช้ชื่อ "กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่" ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 29 เมื่อ พ.ศ. 2548 ที่เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ โดยผ่านข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลก ดังนี้

  • (x) - เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์และพันธุ์พืชที่หายากหรือที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย แต่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งรวมถึงระบบนิเวศอันเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจด้วย

ข้อที่ควรจะปรับปรุง

ยูเนสโกได้เสนอข้อเสนอแนะตามมาอีก 7 ข้อ หลังจากได้ลงทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ได้แก่

  1. ให้มีการจัดระบบการจัดผืนป่าทั้งหมดแบบบูรณาการ ไม่ใช่แยกจัดแบบต่างคนต่างดูแลเหมือนเช่นที่ผ่านมา
  2. รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณ และทรัพยากรบุคคล เพื่อการบริหารจัดการพื้นป่าอย่างเต็มที่
  3. ดูแลนโยบายและการปฏิบัติให้สอดคล้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน
  4. ต้องให้การส่งเสริมการสำรวจและวิจัยสถานภาพของป่าและสัตว์ป่าอย่างจริงจัง
  5. จะต้องหาหนทางเชื่อมผืนป่าต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยการเชื่อมต่อกับป่าอนุรักษ์ในกัมพูชา
  6. ต้องหาทางแก้ปัญหาถนนที่ตัดแยกผืนป่าออกจากกัน โดยจะต้องศึกษาและหามาตรการให้ผืนป่าเชื่อมต่อกันภายใน พ.ศ. 2550
  7. ดำเนินกิจกรรมที่เสริมสร้างความร่วมมือจากชาวบ้านและชุมชนในการอนุรักษ์ผืนป่า เพื่อเป็นหลักประกันในสถานภาพแหล่งมรดกโลก

ปัญหา

จากกรณีที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม มีโครงการที่จะขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ถนนที่ผ่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน จาก 2 ช่องทางจราจร เป็น 4 ช่องทางจราจร โดยได้ไถพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 4 กิโลเมตร ทางด้านกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชซึ่งมีหน้าที่ดูแลผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 304 ว่า เป็นแผนเมกะโปรเจกต์ของกระทรวงคมนาคมที่นำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีนายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรีสมัยนั้นเป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2548

กรมอุทยานยังมีความเห็นอีกว่า ทางหลวงหมายเลข 304 ที่ผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลานและเขาใหญ่ โดยเฉพาะกิโลเมตรที่ 27–29 และกิโลเมตรที่ 42–48 มีความเหมาะสมที่จะทำให้ป่าเชื่อมต่อกันได้ และควรสร้างเป็นสะพานยกสูงสำหรับให้รถวิ่งด้านบน ส่วนด้านล่างก็ปลูกป่า ทำแนวรั้วถนนเพื่อให้สัตว์อพยพเคลื่อนย้ายหากันได้ อีกทั้งเรื่องนี้ยังเป็นไปตามแผนงานที่รัฐบาลไทยต้องนำเสนอความคืบหน้าให้คณะกรรมการมรดกโลก (ยูเนสโก) ใน พ.ศ. 2550 หลังการเป็นแหล่งมรดกโลกด้วย

ทางป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ยังได้รับงบสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาเอเชีย จำนวน 60 ล้านบาท สำหรับจัดทำแนวเชื่อมต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และเชื่อมผืนป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน-ตะวันตก ทิวเขาตะนาวศรี เพื่อศึกษาการเดินทางของสัตว์ที่เดินทางข้ามระหว่างป่าไทยกับป่าพม่าด้วย

กรมอุทยานยังได้ทำหนังสือมาที่กรมทางหลวงเพื่อให้ทำเป็นสะพานยกสูง เพื่อแบ่งพื้นที่ข้างบนให้รถผ่าน ด้านล่างให้เป็นทางสัตว์ผ่าน แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่กรมทางหลวงมีงบประมาณน้อย และจำเป็นขยายถนน 4 เลน ซึ่งรวมแล้วมีความกว้างเพียง 17-18 เมตร เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่มีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่านกว่า 5,000 คันต่อวัน และลดปัญหาอุบัติเหตุเนื่องจากเกาะกลางเป็นการทำชั่วคราวเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องรอคณะกรรมการมรดกโลกยูเนสโกทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่เชื่อมผืนป่าบนถนน 304 เพื่อพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พิจารณาเห็นชอบโครงการขยายเชื่อมผืนป่ามรดกโลก ถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ช่วงกิโลเมตรที่ 42–47 ซึ่งตัดผ่านป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยกรมทางหลวงเตรียมขยายเส้นทางจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร แต่ต้องออกแบบอุโมงค์ให้รถลอดใต้อุโมงค์เพื่อให้สัตว์ป่าสามารถข้ามไปมาระหว่างป่าได้ โดยกรมทางหลวงเตรียมขออนุมัติงบประมาณปี 2558 จำนวน 2,900 ล้านบาท เพื่อเตรียมการก่อสร้างและทำรายงานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป [1]

ปัญหาเรื่องเขื่อน

อดุล วิเชียรเจริญ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกในขณะนั้น กล่าวว่า การที่กรมชลประทานยังไม่ยกเลิกโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำ 3 แห่งในพื้นที่แหล่งมรดกโลกแห่งนี้นั้นทำให้น่าเป็นห่วงว่าแหล่งมรดกโลกแห่งนี้อาจถูกถอนออกจากการเป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งแหล่งมรดกโลกที่เคยถูกถอดถอนและถูกปลดมาอยู่ในภาวะอันตรายนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งนับเป็นภัยคุกคามร้ายแรง เพราะจะทำให้มีปัญหาขยะ น้ำเสีย โดยในการประชุมประจำปี พ.ศ. 2550 คณะกรรมการมรดกโลกได้ลงมติให้หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์ ถูกปลดสถานภาพไปอยู่ในภาวะอันตราย เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาตินียอกอโล-กอบา ประเทศเซเนกัล ซึ่งมีปัญหาการก่อสร้างเขื่อน

ด้านอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ กล่าวว่า จะสอบถามไปยังกรมชลประทานว่า ยังมีโครงการนี้อยู่หรือไม่ ยอมรับว่าคงไม่สามารถสั่งระงับโครงการได้ หากกรมชลประทานจะเดินหน้าศึกษาความเหมาะสมก็ถือว่าทำได้ ส่วนจะก่อสร้างได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง [2]

นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) กล่าวว่า โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำบริเวณพื้นที่ป่า ห้วยโสมง ใสน้อย และใสใหญ่ เป็นเพียง 3 ใน 12 โครงการ ที่กรมชลประทานเคยได้รับอนุมัติตั้งแต่ พ.ศ. 2532 ก่อนที่จะมีกฎหมายสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 ที่ระบุให้ต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการนี้ถูกนำมาปัดฝุ่นเป็นโครงการแก้ไขปัญหาน้ำภาคตะวันออก และคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2548 หลังจากดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ในวันที่ 14 กรกฎาคมปีเดียวกัน และล่าสุด กรมชลประทานได้ให้ทีมอาจารย์จากสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม ศึกษาทางด้านวิศวกรรม[3]

การฟื้นฟูป่า

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก และทางเทสโก้โลตัส ได้ร่วมลงนามการดำเนินโครงการ ๙ ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหามงคล โดยมีเป้าหมายที่จะปลูกป่าให้ครบ 90 ล้านต้น บนเนื้อที่ 25,000 ไร่ ภายในเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2550 ถึง 2555 โดยจะดำเนินการปลูกในเขตพื้นที่ของป่าดงพญาเย็น บริเวณ 5 จังหวัด [4]

อ้างอิง

  1. http://hilight.kapook.com/view/105585 เก็บถาวร 2014-07-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนฝฝ
  2. http://webboard.mthai.com/52/2007-07-10/333914.html เก็บถาวร 2007-07-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เขาใหญ่เสี่ยง!! ถูกถอดมรดกโลก
  3. http://news.sanook.com/social/social_154667.php อดุลห่วงยูเนสโกถอดแหล่งมรดกโลก จี้กรมชลฯยุติสร้างอ่างเก็บน้ำเขาใหญ่
  4. http://www.dnp.go.th/fp_public/file/5July18.pdf

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

 

Prefix: a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

Portal di Ensiklopedia Dunia