พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอนพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน (สเปน: Fernando II de Aragón; อารากอน: Ferrando II d'Aragón) หรือ พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 5 แห่งกัสติยา (สเปน: Fernando V de Castilla; 10 มีนาคม พ.ศ. 1995 - 23 มกราคม พ.ศ. 2059) เป็นกษัตริย์แห่งอารากอน (พ.ศ. 2022 - พ.ศ. 2059), กษัตริย์แห่งซิชิลี (พ.ศ. 2011 - พ.ศ. 2059) กษัตริย์แห่งเนเปิลส์ (พ.ศ. 2047 - พ.ศ. 2059) กษัตริย์แห่งบาเลนเซีย ซาร์ดิเนีย เคานต์แห่งบาร์เซโลนา, กษัตริย์แห่งกัสติยา (พระสวามีในพระราชินีนาถแห่งกัสติยา) (พ.ศ. 2017 - พ.ศ. 2047) และหลังจากนั้นก็เป็นกษัตริย์อย่างแท้จริงแต่แท้จริงแล้วผู้ที่ได้เป็นกษัตริย์แห่งกัสติยาคือพระธิดาของพระองค์ เจ้าหญิงฆัวนาผู้วิปลาส พระราชประวัติการได้มาซึ่งพระอิศริยยศพระเจ้าเฟร์นันโดเป็นพระโอรสในพระเจ้าจอห์นที่ 2 แห่งอารากอน (ผู้มีสายแห่งราชวงศ์ตรัสตามารา) กับพระมเหสีพระองค์ที่ 2 ฆัวนา เอนริเกซชาวกัสติยา เจ้าชายเฟร์นันโดได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอิซาเบลผู้เป็นพระขนิษฐาต่างพระมารดา และเป็นรัชทายาทสืบบัลลังก์ในพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งกัสติยา อภิเษกสมรสในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2012 ที่เมืองวัลลาโดลิดและได้กลายเป็นกษัตริย์ที่เป็นพระสวามีในพระราชินีนาถแห่งกัสติยาเมื่อเจ้าหญิงอิซาเบลได้ครองราชบัลลังก์กัสติยาในปี พ.ศ. 2017 พระนางอิซาเบลจึงได้เข้าร่วมในสมาชิกราชวงศ์ตรัสตามารา กษัตริย์ทั้งสองต้องทำสงครามกลางเมืองกับเจ้าหญิงโจนแห่งกัสติยา พระธิดาในพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งกัสติยาและได้ชัยชนะอย่างรวดเร็ว เมื่องพระเจ้าเฟร์นันโดได้เป็นกษัตริย์แห่งอารากอนต่อจากพระบิดาในปี พ.ศ. 2022 มงกุฎแห่งกัสติยาและอารากอนได้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและได้ตั้งเป็นอาณาจักรขึ้นมาชื่อ เอสปัญญา (สเปน) ซึ่งมาจากชื่อโบราณคือ ฮิสปาเนียแต่พอหลังจากศตวรรษที่ 18 อาณาจักรก็แยกออกจากกัน ในช่วงระยะเวลา 10 ปีแรกพระเจ้าเฟร์นันโดได้ร่วมกับพระนางอิซาเบลทำการเรกองกิสตาที่ราชอาณาจักรกรานาดาที่มั่นที่สุดท้ายของชาวมุสลิมในคาบสมุทรไอบีเรียและสำเร็จในปีพ.ศ. 2035 ในปีเดียวกันได้เกิดพระราชกฤษฎีกาอาลัมบราขึ้น ว่าด้วยการขับไล่ชาวยิวออกจากทั้งอาณาจักรกัสติยาและอารากอน และคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสได้ไปสำรวจโลกใหม่ โดยสนธิสัญญาตอร์เดซิยัสได้ทำข้อตกลงเรื่องดินแดนโพ้นมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างโปรตุเกสและกัสติยา ![]() ในบันทึกของพระเจ้าเฟร์นันโดได้เขียนถึงการโต้เถียงในการครอบครองอิตาลีกับกษัตริย์ฝรั่งเศส ความขัดแย้งครั้งนี้ก่อให้เกิดสงครามอิตาลี ในปี พ.ศ. 2037 พระเจ้าชาล์สที่ 8 แห่งฝรั่งเศสได้ยกทัพบุกอิตาลีและขับไล่พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 2 แห่งเนเปิลส์(พระญาติของพระเจ้าเฟร์นันโด) จากบัลลังก์แห่งเนเปิลส์ พระเจ้าเฟร์นันโดและจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้เข้าขับไล่ฝรั่งเศสออกไปและได้แต่งตั้งพระโอรสของพระเจ้าอัลฟอนโซคือ เฟร์นันโดได้ครองราชย์ต่อไป เมื่อการสวรรคตของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งเนเปิลส์ ทำให้บัลลังก์ไปอยู่กับพระปิตุลา พระเจ้าเฟรเดริกที่ 4 แห่งเนเปิลส์ พระเจ้าเฟร์นันโดได้เห็นด้วยกับการสืบบัลลังก์ของรัชทายาทของพระเจ้าชาล์สที่ 8 คือพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศสผู้ได้ถือสิทธิ์ในดัชชีแห่งมิลาน นายพลของพระเจ้าเฟร์นันโดคือ กอนซาโล เฟอร์นันเดส เดอ คอร์โดบา ได้ยึดเนเปิลส์จากฝรั่งเศสสำเร็จในปี พ.ศ. 2047 พระองค์จึงได้เป็นกษัตริย์แห่งเนเปิลส์ ยุคหลังจากพระนางอิซาเบลหลังจากสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยาพระมเหสีเสด็จสวรรคต ราชบัลลังก์ของพระนางได้ตกอยู่แก่พระธิดาคือ เจ้าหญิงฆัวนา พระเจ้าเฟร์นันโดได้ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนในช่วงที่พระธิดาอยู่ที่เนเธอร์แลนด์กับพระสวามีคืออาร์คดยุคฟิลิป พระเจ้าเฟร์นันโดพยายามที่จะครอบครองตำแหน่งผู้สำเร็จราชการให้ได้นานที่สุดแต่ชนชั้นสูงในกัสติยาไม่ยินยอมและให้พระเจ้าฟิลิปมาแทนพระองค์ หลังจากพระเจ้าฟิลิปเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2049 และด้วยพระนางฆัวนาเริ่มมีพระจิตไม่ปกติและพระโอรสของพระนางคือชาลส์แห่งเจนท์ยังมีพระชันษาเพียง 6 ชันษา ทำให้พระเจ้าเฟร์นันโดกลับคืนสู่พระยศเดิมอีกครั้งหนึ่ง พระเจ้าเฟร์นันโดทรงไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปกครองของพระเจ้าฟิลิป ในปี พ.ศ. 2048 พระองค์ได้อภิเษกสมรสใหม่กับเจอร์เมนแห่งฟออิกซ์ซึ่งเป็นพระนัดดาของพระเชษฐภคินีต่างมารดาคือ สมเด็จพระราชินีนาถเอเลนอร์แห่งนาวาร์ซึ่งหวังว่าจะมีทายาทในการครอบครองอาณาจักรกัสติยาและอารากอน รวมทั้งนาวาร์ พระโอรสของพระเจ้าเฟร์นันโดที่เกิดจากนางเอลดอนซา ลูอิส เด อิบอร์เร อเลมานีแห่งเคอร์เวราผู้เป็นพระสนมคืออัลฟอนโซ เดอ อารากอนต่อมาได้เป็นอาร์คบิชอปแห่งซาราโกซาและพระธิดาคือฆัวนาได้สมรสกับเบอร์นาดิโน เดอ วาซโก ดยุคแห่งแฟเรียซ ในปีพ.ศ. 2051 เกิดสงครามที่อิตาลีในการต่อต้านสาธารณรัฐเวนิซและผู้ที่ทรงอำนาจในคาบสมุทรอิตาลี พระเจ้าหลุยส์ที่ 12,พระเจ้าเฟร์นันโด, จักรพรรดิแมกซิมิเลียน และสมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2ได้ร่วมกันโจมตีสภาแห่งแคมไบร์ ฝรั่งเศสได้ชัยชนะในการสู้รบกับเวนิสในศึกแอกนาเดลโล สภาแห่งแคมไบร์ล่มสลาย สันตะปาปาและพระเจ้าเฟร์นันโดได้หวาดระแวงฝรั่งเศสและร่วมกันต่อต้านฝรั่งเศส ![]() ในเดืองพฤศจิกายน พ.ศ. 2054 พระเจ้าเฟร์นันโดและพระสวามีของพระธิดาคือ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษได้ลงนามสนธิสัญญาเวสต์มินสเตอร์ร่วมกันต่อต้านฝรั่งเศส ในต้นปีพระเจ้าเฟร์นันโดได้ครอบครองดินแดนทางใต้กว่าครึ่งของราชอาณาจักรนาวาร์ซึ่งเป็นของฝรั้งเศส ทางคริสตจักรของสันตะปาปาประสบความสำเร็จในอิตาลีและได้ผลักดันฝรั่งเศสจากมิลาน และได้ฟื้นฟูราชวงศ์สฟอร์ตาโดยการหย่าศึกในปี พ.ศ. 2056 อย่างไรก็ตาม 2 ปีถัดมาฝรั่งเศสก็ได้ครอบครองมิลาน พระเจ้าเฟร์นันโดเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2059 พระราชวงศ์![]() พระเจ้าเฟร์นันโดกับนางเอลดอนซา ลูอิส เด อิบอร์เร อเลมานีแห่งเคอร์เวราพระสนมผู้สูงศักดิ์แห่งเคอร์เวรามีพระโอรสและพระธิดาดังนี้
พระเจ้าเฟร์นันโดกับสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยามีพระโอรสธิดารวม 5 พระองค์คือ
พระเจ้าเฟร์นันโดกับสมเด็จพระราชินีเจอร์เมนแห่งฟออิกซ์พระนัดดาในพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศสมีพระโอรส 1 พระองค์คือ
พระเจ้าเฟร์นันโดกับสตรีคนอื่นๆ มีบุตรดังนี้
ดูเพิ่มอ้างอิง
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน
|
Portal di Ensiklopedia Dunia