ไรเดอร์ (มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์)
ไรเดอร์ เป็น ตัวละครสมมติ จากตัวละครจากเกมซาวนด์โนเวลของ ไทป์-มูน และการ์ตูนเรื่อง เฟท/สเตย์ ไนท์ โดย ไทป์-มูน นักรบสาวร่างสูงผู้ซ่อนสายตาไว้ใต้ผนึกอาคม เปิดตัวครั้งแรกในฉากของโรงเรียน เซอร์แวนท์ของชินจิ ซึ่งมักจะเป็นผู้สอดแนมระหว่างการต่อสู้ของข้ารับใช้ตนอื่น เธอมักจะปฏิบัติภารกิจอย่างเงียบสงัดและรอบคอมและไม่เคยลังเลที่จะปกป้องมาสเตอร์ของตนเอง แม้ว่าตนเองจะได้รับอันตราย และด้วยที่ว่าชินจิไม่สามารถถ่ายทอดมานาให้กับเธอได้ ทำให้เธอต้องแสวงหามานาให้ตนเองด้วยการสูบพลังวิญญานจากชาวเมืองฟุยูกิ(โดยปกติไรเดอร์ดึงพลังผ่านการดื่มโลหิตของเหยื่อ) เป็นเซอร์แวนท์ที่มีลักษณะนิสัยและบุคลิกค่อนข้างแปลก พูดน้อย-รอบคอบ-แต่แฝงด้วยอารมณ์รุนแรงอยู่ภายใน มีความซื่อสัตย์และเชื่อฟังคำสั่งของมาสเตอร์อย่างมาก อาวุธหลักของเธอคือ โซ่คู่อันยาวเหยียดสองปลายที่มีหมุดแหลมติดอยู่ ซึ่งสามารถพุ่งเข้าใส่เป้าหมายจากระยะไกลได้อย่างแม่นยำ ลักษณะของมันคล้ายเครื่องมือตอกตรึงเหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เชี่ยวชาญด้านการบังคับควมคุมสัตว์ต่างๆ รวมถึงคำสาบหลายแขนง ในการต่อสู้เธอมักจะซ่อนตัวและคอยวางแผนโจมตีด้วยความรอบคอบ เนื่องจากไรเดอร์แม้มีพละกำลังไม่มากเมื่อเทียบ กับวีรชนคนอื่นๆ แต่ตัวเธอมีความเชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ต่างๆให้เป็นประโยชน์ อย่างเต็มที่ อาทิเช่น ข่ายอาคม คำสาบ ภูมิประเทศที่จำกัดทรรศนวิสัย และการเสาะหาตำแหน่งโจมตีระยะกลาง-ไกล เพื่อสร้างความได้เปรียบมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จึงไม่แปลกใจที่จัดเธอว่าเป็นเซอร์แวนท์ ที่เฉลียวฉลาดไม่น้อยคนนึงทีเดียว ไรเดอร์มีส่วนสูง 172 ซม. นน 57 kg สัดส่วน B88/W56/H84 สำหรับ เสียงพากย์ ของไรเดอร์นั้นคือเสียงของ อาซาคาวะ ยู ในภาษาญี่ปุ่น ส่วนภาษาอังกฤษนั้นเป็นของ คาเรน สทราสแมน[1] และภาษาไทยโดย ศรีอาภา เรือนนาค สถานะข้ารับใช้
ความสามารถ
โนเบิล แฟตาซึ่ม
ตัวตนที่แท้จริงตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้นคือ เมดูซ่า หรือ กอร์กอน ในปุราณวิทยากรีก เธอมีพี่น้องสองคนคือ สเธโน และ ยูรีอาเล พวกเธอทั้งสามนั้นเดิมเป็นเทพธิดาที่เกิดขึ้นจากความปรารถนาของเหล่ามนุษย์ในการมีเทพธิดาในอุดมคติ ซึ่งต่างจากเหล่าสภาเทพแห่งโอลิมปัส ทั้งสามพี่น้องเป็นเทพธิดาที่งดงามมาก เว้นแต่คนสุดท้อง เมดูซ่า ซึ่งเธอแตกต่างที่เธอมีการเติบโต เธอจึงได้มีอายุมากกว่าและมีร่างกายที่เติบโตมากกว่าพวกพี่สาวของเธอ เมดูซ่าได้ถูกสาปให้มีดวงตาอาคม ที่สามารถสาปให้ผู้ที่ถูกสายตานั้นจับจ้องกลายเป็นหิน เหมือนกับเหล่าพี่น้องของเธอ เธอจึงจำเป็นต้องสวมผ้าปิดตาไว้ตลอดเวลา และเพราะความแตกต่างเหล่านี้เอง ทำให้เธอถูกพวกพี่สาวเธอหยอกเล่นอยู่เป็นประจำ ครั้งหนึ่ง เมดูซ่าเคยได้รับของขวัญเป็น เพกาซัส จาก โพไซดอน เทพผู้หลงเสน่ห์เธอนั่นเอง ด้วยความหึงหวงของ อาเธน่า พี่น้องร่วมมารดาของเธอ ได้ยุแหย่ให้เหล่ากลุ่มคนผู้ที่บูชาเหล่ากอร์กอน ทำร้ายพวกเธอ ทำให้ทั้งสามพี่น้องต้องหลบหนีไปอาศัยอยู่ที่“เกาะไร้รูปร่าง” ซึ่งสร้างความอับอายให้กับเธอเป็นอย่างมาก เธอจึงอาฆาตแค้นมนุษย์ทุกคน เธอจึงได้คอยสังหารมนุษย์ทุกคนที่เข้ามาหวังที่จะทำร้ายพี่สาวทั้งสองของเธอ หลายปีผ่านไป จากที่เพียงฆ่าเพื่อปกป้องพี่สาว ได้เปลี่ยนเป็นการล่าเพื่อเป็นอาหาร ทำให้ชื่อเสียงของเธอเลื่องลือออกไปว่าเป็นปิศาจที่ดุร้าย ด้วยความน่าเกลียดน่ากลัวเหล่านี้ ได้ทำให้เมดูซ่ากลายเป็นปิศาจ กอร์กอน ดังตำนาน อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังเป็นที่รักของสเธโน และ ยูรีอาเล พี่สาวของเธอ และพี่สาวทั้งสองของเธอก็ยังอนุญาตให้น้องสาวของพวกเธอสังหารมนุษย์เหล่านั้นอีกด้วย แต่ในท้ายสุด ชายหนุ่มเชื้อสายเทพ นาม เพอร์ซีอุส ที่ได้รับอาวุธ โนเบิล แฟตาซึ่มทั้ง 5 ประการได้สังหารเธอ และตัดหัวเธอไป ขณะที่เธอตาย เธอได้รู้ว่าถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่พี่สาวทั้งสองของเธอจะดูแลเธอมาไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เวลาเหล่านั้นก็เหมือนกับสมบัติอันล้ำค่าของเธอที่ได้อยู่กับพี่สาวทั้งสองของเธอนั้นมาตลอดชีวิต ในจักรวาล เฟท/สเตย์ ไนท์ ได้นำข้อมูลในส่วนที่ว่าเส้นผมของพวกเธอทั้งสามเป็นงูออกไป และได้เปลี่ยนเป็นว่าพวกเธอมีผมที่ยาวดั่งความยาวของงูแทน บทบาทในเรื่องมาสเตอร์ที่แท้จริงของเธอนั้นคือ มาโต้ ซากุระ แต่ที่เธอมาเป็นข้ารับใช้ของชินจินั้นเป็นเพราะซากุระได้ถูกแย่งคำสั่งมนตราไป ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นข้ารับใช้ของชินจิ แต่ในใจเธอก็ไม่ได้ต้องการทำเพื่อคนที่ชั่วช้าอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย ที่เธอทำเป็นคอยรับใช้อย่างซื่อสัตย์นั้นเป็นเพราะต้องการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของข้ารับใช้ให้สมบูรณ์เท่านั้น และเพื่อเป็นการปกป้องซากุระ คนที่เหมือนกับเธอในหลายๆ อย่างเท่านั้น และในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 เธอก็ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรในจอกศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกันกับข้ารับใช้ตนอื่นๆ ในสงครามครั้งนี้ เป็นเพราะว่าต้องเผชิญกับข้ารับใช้ที่แข็งแกร่งหลายตนในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 ซ้ำยังมีมาสเตอร์กระจอกแบบชินจิ จึงทำให้เธอเป็นฝ่ายถูกกำจัดไปเองในเสียเกือบทุกเนื้อเรื่อง เช่น บทโชคชะตา (Fate) ไรเดอร์เป็นภัยคุกคามในช่วงแรกของชิโร่และเซเบอร์ แต่ไม่ได้ปะทะกับวีรชนคนอื่นอย่างเต็มที่ โดยพยายามเน้นการรวบรวมพลังด้วยเครือข่ายคำสาบและผู้บริสุทธิ์ในเมืองมากกว่า ตามคำสั่งของชินจิ แต่ด้วยการร่วมมือของโทซากะและชิโร่ ทำให้สามารถขับไล่ไรเดอร์ไปได้ และไปตัดสินศึกสุดท้ายกับเซเบอร์กันบนยอดตึกระฟ้าในเมือง (ตอน Skycrapser) ซึ่งการต่อสู้นั้นไรเดอร์ได้เปรียบค่อนข้างมากจากอาวุธวิเศษที่หลากหลาย ดังเช่น เนตรอสูร และสัตว์วิเศษเปกาซัส ขณะที่เซเบอร์พยายามเก็บพลังฝีมืออันแท้จริงและพลังเวทย์ที่มีไว้ แต่สุดท้ายด้วยสถานการณ์บังคับที่ต้องปกป้องชิโร่ เซเบอร์จึงปลดปล่อยดาบศักดิ์สิทธิ์เอ็กซคาลิเบอร์แบบเต็มกำลัง (Anti-Fortress) และสังหารไรเดอร์ไปพร้อมกับเปกาซัสในทีเดียว บทดาบอนันต์ (Unlimited Blade Work) ไรเดอร์ถูกคุซุกิ โซอิจิโร่ มาสเตอร์ของแคสเตอร์ สังหารไปในการต่อสู้กับคาสเตอร์ตั้งแต่ต้นเรื่อง บทสัมผัสสวรรค์ (Heaven's Feel) ต่างกับบทอื่นๆ ไรเดอร์มีบทสำคัญมากๆหลายอย่างและเธอรอดชีวิตจนจบสงคราม เริ่มต้น เธอได้ทรยศชินจิ และเข้าพวกกับชิโร่ เพราะก่อนที่ซากุระจะเสียสติไปโดยสมบูรณ์ ซากุระได้ใช้อาคมบัญชาออกคำสั่งสุดท้ายว่า "ปกป้องชิโร่ให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น !!" ไรเดอร์ผู้เชื่อฟังคำสั่งอย่างสุดหัวใจ ก็ตกลงแม้จะรู้ว่าอาจทำให้ตนเองต้องสู้กับเจ้านายที่แท้จริงของตนก็ตามที.... ยอดอัศวินอาชาผู้เปี่ยมวิชาอาคมอย่างไรเดอร์ จึงกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการต่อสู้กับเหล่าเงา และสุดยอดนักรบผู้แข็งแกร่งไร้ผู้ต้านอย่าง เซเบอร์ชุดดำ (Saber Alter)อย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับชิโร่ มาสเตอร์(จำเป็น)คนใหม่ในบทนี้ ด้วยความช่วยเหลือของชิโร่ ซึ่งแม้จะไม่ใช่จอมเวทย์ที่ดีนัก แต่อย่างน้อยก็มีคุณสมบัติจอมเวทย์มากกว่าชินจิ ช่วยเสริมให้ไรเดอร์สามารถแสดงอานุภาพของตัวเองได้เต็มที่มากขึ้น เมื่อเธอถอดหน้ากากออกและปลดปล่อยอาวุธวิเศษ พลังอำนาจของเธอแทบจะใกล้เคียงได้กับเอ็กซคาลิเบอร์อันร้ายกาจของเซเบอร์ดำทีเดียว ท้ายที่สุด ในศึกตัดสินที่วัดริวโดจิ ชิโร่ และ ไรเดอร์ ก็จัดการกับดาร์คเซเบอร์ได้สำเร็จ
ใน Eclipse ซึ่งเป็นบทพิเศษใน อทาราเซีย เธอและซากุระได้ร่วมมือกันยั่วยวนชิโร่ และช่วยกันปรนนิบัติเขา ซึ่งที่เธอทำทั้งหมดนั้นเป็นเพื่อต้องการให้ชิโร่หันมาเอาใจใส่ซากุระมากกว่าเดิม แต่ชิโร่ก็ยังรู้ว่าแท้จริงแล้วที่เธอทำนี้ ลึกๆ อยู่แล้วเธอก็สนใจในตัวเขาเองเช่นกัน ซากุระจึงช่วยให้เธอกล้าที่จะแสดงความต้องการที่แท้จริงของตัวเธอเองออกมาด้วยเช่นกัน อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia