โคลชิซีน
โคลชิซีน (Colchicine) เป็นสารกลุ่มอัลคาลอยด์ พบมากในดองดึง ในทางการแพทย์นำมาใช้รักษาโรคเกาต์ ไขข้ออักเสบ ส่วนในทางด้านพันธุศาสตร์และการปรับปรุงพันธุ์พืช นำมาใช้ในการเพิ่มชุดโครโมโซมของพืชเพราะมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเส้นใยสปินเดิลระหว่างการแบ่งนิวเคลียส ทำให้โครโมโซมไม่แยกตัว[1] การสังเคราะห์การสังเคราะห์โคลชิซีนเกี่ยวข้องกับกรดอะมิโนฟีนิลอะลานีนและไทโรซีน การให้ tyrosine-2-C14 ที่ติดฉลากด้วยสารกัมมันตภาพรังสี แก่ Colchicum autumnale จะพบสารกัมมันตภาพรังสีในโครงสร้างที่เป็นวงของโคลชิซีน การให้ฟีนิลอะลานีนที่ติดฉลากด้วยสารกัมมันตภาพรังสีแก่ Colchicum byzantinum จะพบสารกัมมันตภาพรังสีในโคลชิซีนเช่นกัน[2] อย่างไรก็ตาม วงโทรโปโลนของโคลชิซีนมาจากการแผ่ขยายของวงไทโรซีน การศึกษาทางด้านกัมมันตภาพรังสีต่อมาในต้น Colchicum autumnale แสดงให้เห็นว่า โคลชิซีนสร้างมาจาก (S)-Autumnalineวิถีการสังเคราะห์เกิดขึ้นด้วยปฏิกิริยา para-para phenolic coupling reaction ที่มีเมตาบอไลท์เป็น isoandrocymbine ซึ่งจะเปลี่ยนต่อไปด้วย O-methylation ได้เป็นS-Adenosylmethionine (SAM) ขั้นตอนออกซิเดชันสองขั้นตอนตามมาด้วยการแยกวง cyclopropane ทำให้ได้วงโทรโปโลน จากนั้นเกิด oxidative demethylation ทำให้ได้ deacetylcolchicine โมเลกุลของ colchicine เกิดขึ้นหลังจากการเติม acetyl-Coenzyme A ได้เป็น deacetylcolchicine[3][4] การใช้งานทางเภสัชวิทยากลไกการออกฤทธิ์โคลชิซีนยับยั้งการเกิดโพลีเมอร์ของไมโครทูบูล โดยเข้าไปจับกับทูบูลิน ทำให้ไม่เกิดไมโครทูบูล ทำให้สารนี้เป็นพิษต่อกระบวนการแบ่งเซลล์ โดยยับยั้งการทำงานของเส้นใยสปินเดิล[5] ทำให้นำมาใช้งานทางด้านการศึกษาพันธุศาสตร์ของเซลล์ เช่น การศึกษาคาริโอไทป์ การใช้เป็นยาโคลชิซีนสามารถยับยั้งการเคลื่อนที่และการทำงานของนิวโตรฟิล จึงยับยั้งการอักเสบได้ จึงใช้เป็นยาแก้อักเสบสำหรับการรักษา Behçet's disease ในระยะยาว[6] ใช้รักษา constipation-predominant irritable bowel syndrome ในผู้หญิง[7] และใช้รักษา persistent aphthous stomatitis (canker sores)[8] ความเป็นพิษความเป็นพิษของโคลชิซีนเทียบได้กับความเป็นพิษของสารหนู อาการเกิดขึ้นภายใน 2–5 ชั่วโมงหลังจากที่ยาในปริมาณที่เป็นพิษถูกย่อย มีรอยไหม้ที่ปากและคอหอย อาเจียน ระคายเคือง เป็นไข้ อาการปวดและไตวาย การทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะหลายระบบ เกิดขึ้นภายใน 24–72 ชั่วโมง จนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ยังไม่มียาต้านฤทธิ์โคลชิซีนโดยตรง แต่มีการรักษาหลายวิธีที่ได้ผล[9] การใช้งานทางพฤกษศาสตร์การเคลื่อนที่ของโครโมโซมระหว่างการแบ่งเซลล์ถูกควบคุมด้วยไมโครทูบูล ดังนั้น โคลชิซีนจึงเป็นสารที่ใช้เพิ่มชุดโครโมโซมในพืช การให้โคลชิซีนในพืช ทำได้ทั้งนำสารในรูปครีมป้ายที่ยอดพืช หรือแช่เมล็ด[10] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น![]() วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ โคลชิซีน
|
Portal di Ensiklopedia Dunia