แอร์ซอฟต์กัน
![]() ![]() แอร์ซอฟต์กัน (อังกฤษ: Airsoft Gun) บางประเทศเรียก ซอฟต์แอร์กัน (อังกฤษ: Softair Gun) ต่อไปนี้จะขอเรียกว่าปืนแอร์ซอฟต์ ปืนแอร์ซอฟต์คือปืนอัดลมชนิดเบา ลอกเลียนแบบปืนจริงในอัตราส่วน 1:1 ใช้กระสุนทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม. และ 8 มม. ถูกจัดเป็นกีฬาในลักษณะเกมผจญภัย (Survival Game) เช่นเดียวกับกีฬาเพนต์บอล ปัจจุบันได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นกีฬาจำลองการรบ มีความสนุกสนาน มีรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย และมีผู้เล่นที่หลากหลายวัย อาทิ เด็ก, เยาวชน, ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ปัจจุบันในประเทศไทยมีสนามแอร์ซอฟต์กันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นที่เพิ่มมากขึ้น ประวัติอาวุธปืนเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างกว้างขวางสำหรับประชาชน เพราะความสนใจอย่างกว้างขวาง ผู้ผลิตหลายรายจึงเริ่มผลิตปืนสปริง เป็นที่น่าสนใจต่อผู้คนที่สนใจอาวุธปืนในปี พ.ศ. 2513 ปืนดังกล่าวมีลำกล้องหลายขนาด เพื่อใช้ยิงลูกกระสุนพลาสติกและกระสุนยาง โดยกระสุนมีลักษณะเป็นวงกลมหลายขนาด แต่โดยที่สุด กระสุนพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 6 มม. และ 8 มม. ถูกบรรจุเข้าเป็นกระสุนมาตรฐาน ต่อมาปืนที่ใช้พลังงานจากสปริง ถูกบรรจุด้วยพลังงานจากแก๊ส เป็นระบบที่มีความหลากหลายมาก ของเล่นเหล่านี้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังอเมริกาเหนือในกลาง แต่สามารถเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิดจาก ทำให้ผู้ผลิตเก่าหลายรายพ่ายแพ้ทางการตลาด เศษของที่ไม่ใช้คิดค้นขึ้นเป็นและเป็นผู้ผลิตปืนยาวไฟฟ้าอัตโนมัติเป็นรายแรกสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำและวิถีกระสุนของอาวุธ ก่อนปี พ.ศ. 2543 Classic Army จากฮ่องกง เข้าร่วมวงการและส่งปืนของตนลงสู่ตลาด เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทำให้เป็นคู่แข่งและเกิดการแข่งขันกับมารูอิ ไม่กี่ปีต่อมา สินค้าจากประเทศจีนถูกส่งเข้าตลาดเป็นจำนวนมาก แต่เป็นสินค้าระดับต่ำ รูปแบบของปืนแอร์ซอฟต์ปืนแอร์ซอฟต์มีระบบการทำงานที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน และลักษณะของปืน ปืนอัดลมระบบแอร์ค็อกกิ้งปืนอัดลมเบาระบบแอร์ค็อกกิ้งหรือสปริงค็อกกิ้ง เป็นปืนที่มีกลไกไม่ซับซ้อนมากนัก มีน้ำหนักที่เบาใช้งานง่าย ทนทานและราคาไม่แพงราคาเริ่มต้นที่ 200-300 เท่านั้น และสามารถซื้อหามาเล่นได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเล่น ระบบกลไกการส่งกระสุนในปืนชนิดนี้จะใช้แรงดีดจากสปริงในการยิงกระสุน “Cocking” เป็นคำที่ใช้เรียกปฏิกิริยาการหดตัวของสปริงลูกสูบ ปืนประเภทนี้จึงถูกเรียกว่าเป็นปืนแอร์ค็อกกิ้ง ปืนที่ใช้ระบบแอร์ค็อกกิ้ง นอกจากจะมีในแบบปืนสั้นแล้ว ยังมีในรูปแบบปืนยาวด้วย ซึ่งปืนระบบแอร์ค็อกกิ้งในแบบปืนยาว ส่วนใหญ่จะเป็นปืนในแบบ Sniper อย่างเช่น ปืนอัดลมเบา Sniper ตระกูล APS II ที่ผลิตโดยบริษัท Maruzen หรือตระกูล VSR-10 ที่ผลิตโดยบริษัท Tokyo Marui ก็เรียกว่าเป็นปืนแบบแอร์ค็อกกิ้งด้วยเช่นกัน ปืนอัดลมระบบแก๊สปืนอัดลมระบบแก๊สแบ่งออกเป็นอีก 2 ประเภทได้แก่ ปืนแบบไม่โบลว์แบ็ค (Non BlowBack) และแบบโบลว์แบ็ค (BlowBack) คำว่า “โบลว์แบ็ค” นั้นเป็นคำที่เรียกปฏิกิริยาการสะท้อนถอยกลับของสไลด์ปืน ที่เลียนแบบของจริงทุกประการ พลังงานที่ใช้ส่งกระสุน จะใช้แรงดันที่เกิดจากการขยายตัวของแก๊ส ปืนระบบไม่โบลว์แบ็ค มีข้อดีตรงที่ใช้แก๊สไม่เปลือง และให้ความแรงสม่ำเสมอในการยิง แต่จะมีข้อด้อยตรงที่ หากเป็นปืนอัดลมในสไตล์ปืนพก จะไม่มีการสไลด์ของปืนที่เหมือนกับปืนของจริง ระบบโบลว์แบ็คนั้น เป็นปืนที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นมากที่สุดเพราะความเหมือนจริงของมันนั่นเอง อีกทั้งยังได้อารมณ์ของการยิง และระบบการทำงานของปืนยังเลียนแบบมาจากปืนของจริงอีกด้วย ข้อเสียของปืนอัดลมแบบใช้แก๊สอยู่ที่ เมื่อแรงดันแก๊สอ่อนลงหรือใช้งานในอุณหภูมิที่เย็นจัด จะส่งผลถึงความแรงและความแม่นยำก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน แก๊สที่ใช้ในปืนอัดลมระบบแก๊ส นั้นก็คือน้ำยาทำความเย็นทั่ว ๆ ไป จะเป็นแก๊สในกลุ่ม HFC134a หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า R134a แก๊สที่มีขายทั่วไปในท้องตลาดมีหลายชนิดและยี่ห้อ เช่น Gun Power เป็นแก๊สที่ใช้ได้ทั้งอุปกรณ์ที่เป็นทั้งเหล็ก และพลาสติก และยิงได้แม้อุณหภูมิที่เย็นจัด ปืนอัดลมระบบไฟฟ้าปืนอัดลมประเภทนี้มีชื่อเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า ปืน AEG ย่อมาจากคำเต็มว่า Automatic Electric Gun เป็นปืนอัดลมที่ใช้พลังงานการส่งลูก จากแบตเตอรี่ ซึงเป็นตัวจ่ายไฟฟ้าให้มอเตอร์ภายในทำงาน มอเตอร์ที่หมุนจะทำให้สปริงลูกสูบหดตัวและทำให้กระสุน ถูกยิงออกไปด้วยแรงดันของลูกสูบ ข้อดีของปืนอัดลมระบบไฟฟ้าชนิดนี้ จะสามารถปรับแต่งสปริงหรืออุปกรณ์กลไกภายในเพื่อทำให้ปืนมีความแรงเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ และยังให้ความแรงและความแม่นยำอย่างสม่ำเสมอ จนกว่าแบตเตอรี่จะหมดไฟ เมื่อหมดไฟก็สามารถชาร์ตได้ด้วยเวลาอันสั้น ปืนระบบไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะปืนเล็กยาวต่าง ๆ เช่น ปืนเล็กยาวตระกูล M16, M4, AK, G3, G36, M14, SIG ฯลฯ นอกจากปืนอัดลมไฟฟ้าในรูปแบบปืนยาวแล้ว ยังมีปืนไฟฟ้าที่เป็นปืนสั้นอีกด้วยแต่ไม่เป็นที่นิยม เพราะขนาดของโครงสร้างที่จำกัด ทำให้ระบบกลไกภายในต้องย่อขนาดลงตามไปด้วย และความแรงในการยิงจะค่อนข้างเบากว่าปืนอัดแก๊ส กระสุนปัจจุบันมีผู้ผลิตรายหลาย อาทิ Tokyo Marui, Guarder (Intruder Shop) , GoldenBall, Hunter, Prasert, CYMA, KSC และ G&P เป็นต้น คุณภาพของกระสุนขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย ประสิทธิภาพของปืนบีบีส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับกระสุน โดยเฉพาะปืนที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้องภายในต่ำกว่า 6.03 มม. (โดยมากใช้โดยผู้เล่นที่ต้องการความแม่นยำ) จะต้องพิถีพิถันในการเลือกใช้กระสุน เนื่องจากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้องภายในต่ำ กระสุนอาจติดขัดหรือเสียดสีกับลำกล้องภายในได้ น้ำหนักกระสุนน้ำหนักกระสุน เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม.
น้ำหนักกระสุน เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 มม.
ซองกระสุนมีอยู่ 3 ประเภทดังนี้
ประสิทธิภาพประสิทธิภาพของปืนบีบี ดูที่ความเร็วของกระสุนที่ยิงออกไป ความเร็วดังกล่าวมีหน่วยวัดเป็นฟุตต่อวินาที (Foot Per Second หรือ FPS) ในปัจจุบันยังไม่มีความเร็วของกระสุนที่เป็นมาตรฐานสำหรับใช้แข่งขันระดับสากล เนื่องจากแต่ละประเทศมีการจำกัดความเร็วสูงสุดของกระสุนแตกต่างกัน ทั้งนี้เพราะมีกติกาและลักษณะสถานที่การเล่นที่แตกต่างกัน โดยในประเทศไทยปัจจุบันจำกัดความเร็วไม่เกิน 400 ฟุตต่อวินาที (และมีแนวโน้มว่าจะลดลงในอนาคต) โดยใช้กระสุนเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม. น้ำหนัก 0.20 กรัม เป็นมาตรฐานในการแข่งขัน การบำรุงรักษาปืนแอร์ซอฟต์ใช้สเปรย์ซิลิโคนฉีดพ่นชะโลมตัวปืนตามจุดที่ต้องการ คล้ายๆ กับอาวุธปืนจริง เพื่อเป็นการบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งานให้กับปืนแอร์ซอฟต์ ความปลอดภัยเนื่องจากลูกกระสุนของปืนบีบีกันนั้นทำจากพลาสติกหรือเซรามิกแข็ง จึงอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บแก่ผู้ที่ถูกยิงได้ และหากโดนบริเวณสำคัญอย่างดวงตา, ฟัน, นิ้วมือ ฯลฯ ก็อาจบาดเจ็บถึงขั้นตาบอด ฟันหักได้หากไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน ดังนั้นผู้เล่นจึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งที่เล่นหรืออยู่ในบริเวณที่มีการเล่น โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่จะเล่นบีบีกันได้นั้นจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา ซึ่งถือเป็นกฎความปลอดภัยหลักของกีฬาชนิดนี้ และหากผู้เล่นคนใดไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา หรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตาที่ไม่รัดกุมพอ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงเล่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ประจำสนาม ข้อควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวัง
รูปแบบการเล่นโดยทั่วไปแล้ว กีฬาบีบีกันนั้นมีวิธีการเล่นคล้ายกับกีฬาเพนต์บอล คือยิงกระสุนให้ถูกตัวผู้เล่นอีกฝ่าย แต่ต่างกันตรงที่กระสุนของบีบีกันนั้นไม่มีสี ไม่ทิ้งรอย ดังนั้นผู้เล่นที่รู้สึกตัวว่าถูกยิงไม่ว่าส่วนใดของร่างกาย ให้ถือว่าถูกยิง และจะต้องออกจากเกม เว้นแต่กติกากำหนดไว้เป็นอย่างอื่น รูปแบบการเล่นกีฬาบีบียังสามารถแบ่งได้ ดังนี้ Speed Ballเป็นการเล่นในแบบทั่วไปของบีบีกันซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย รูปแบบการเล่นจะเน้นที่การไปยึดธงหรือกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้หมด จึงจะถือเป็นการจบรอบนั้น ส่วนเวลาต่อ 1 รอบ จะขึ้นอยู่กับสนามว่าจะกำหนดเวลาให้เป็นเท่าไร ซึ่งโดยทั่วไปมักจะกำหนดเป็น 10, 20 หรือ 30 นาที ขึ้นอยู่กับว่ามีผู้รอเล่นรอบต่อไปมากหรือน้อย Survival Gameคือการเล่นแบบสมจริง (จำลองการรบ) เนื่องด้วยต้องการความสมจริง จึงต้องใช้ความรอบคอบ การวางแผนเข้าตีจุดต่าง ๆ และความสามัคคีของทีม เพื่อให้บรรลุภารกิจตามที่ทางทีมงานกำหนดไว้ ATCSTCS หรือ Tactical shoot เป็นการยิงปืนในระบบยุทธวิธีที่ถูกพัฒนามาจากลักษณะการยิงในระบบทหาร/ตำรวจ เพื่อให้ ผู้เล่นเกิดทักษะในการเคลื่อนที่ การยิงในท่าทางต่าง ๆ และการยิงในภาวะต่าง ๆ ความคุ้นเคยต่ออาวุธประจำกาย เพื่อให้เกิดการจดจำทักษะเหล่านั้น ซึ่งจะส่งผลดีในการลดความกดดันในขณะปฏิบัติงานจริง TCS หรือ Tactical shoot เข้ามาในประเทศไทยในช่วงเวลาใดนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเข้ามาพร้อม ๆ กับการฝึกร่วมคอบร้า โกลด์ ของไทย-สหรัฐ ซึ่งต่อมาก็แพร่หลายไปตามหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเล็งเห็นถึงข้อดีของการแข่งขันในลักษณะนี้ ซึ่งปัจจุบันก็มีการบบรจุลงในแทบทุกกองพล และมีการแข่งขันจนถึงระดับ ภูมิภาค TCS ไม่เพียงเป็นข้อดีต่อเจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น ยังมีผลต่อดีผู้เล่นพลเรือนทั่วไปในการด้านการฝึกฝนทักษะการใช้อาวุธ สมาธิ ไหวพริบและร่างกาย ถือเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เลวอย่างหนึ่งทีเดียว แปลได้ตรงตัวเลยก็คือการจำลองการรบ ซึ่งจะมีกฎที่เข้มงวดและเน้นความสมจริงมากกว่า Survival Game เป็นอย่างมาก ประเภทสนามสนามบีบีกันส่วนใหญ่มักจะตั้งติดอยู่กับสนามเพ้นต์บอล เนื่องจากวิธีการเล่นคล้ายคลึงกัน แต่โดยหลักแล้วจะแบ่งสนามเป็น 3 ประเภทดังต่อไปนี้ สนาม CQB (Close Quarter Battle)สนาม CQB (Close Quarter Battle) หรือบางแห่งใช้ CQC (Close Quarter Combat) เน้นรูปแบบการเล่นที่เป็นการจำลองการรบในระยะประชิด (Close Quarter) เช่น การรบในตึกหรืออาคารต่าง ๆ มักเป็นสนามที่อยู่ในบริเวณตัวอาคาร สิ่งปลูกสร้าง สนามประเภทนี้มักให้ผู้เล่นอาศัยวัสดุสิ่งปลูกสร้างภายในอาคารเป็นที่กำบัง ไม่นิยมสร้างที่กำบังเพิ่มเติม หรือสร้างเพิ่มเติมน้อย ใช้พื้นที่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง ทิศทางการเล่นไม่แน่นอน สนามป่าสนามป่า เป็นการจำลองสภาพป่าซึ่งโดยทั่วไปจะมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น หรือบางแห่งอาจตั้งอยู่ในพื้นที่ป่า สนามประเภทนี้มักให้ผู้เล่นอาศัยสภาพภูมิประเทศเป็นที่กำบัง ไม่นิยมสร้างที่กำบังเพิ่มเติม หรือสร้างเพิ่มเติมน้อย ใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก ทิศทางการเล่นไม่แน่นอน สนามจำลอง![]() สนามจำลอง เป็นการจำลองสนามรบขึ้นมาเองจากพื้นที่ว่างเปล่า ด้วยการสร้างที่กำบังขึ้นเป็นจุด ๆ ทั่วทั้งสนาม สนามประเภทนี้จะให้ผู้เล่นอาศัยวัตถุที่ถูกจัดวางและสภาพภูมิประเทศเป็นที่กำบังร่วมกัน ใช้พื้นที่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินกิจการ เนื่องจากพื้นที่มีจำกัดจึงมีทิศทางการเล่นที่แน่นอน สนามจำลองสามารถทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบ อาจมีการผลัดเปลี่ยนที่กำบัง เพื่อความสนุกสนานในการเล่น แหล่งข้อมูลอื่น
กระดานสนทนา & แหล่งข้อมูล
ผู้ผลิตปืนแอร์ซอฟต์ |
Portal di Ensiklopedia Dunia