เอคโค่ จิ๋วก้องโลก
เอคโค่ จิ๋วก้องโลก (อังกฤษ: Echo Planet) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติ สร้างโดย กันตนา ผลงานกำกับโดย คมภิญญ์ เข็มกำเนิด จากบทภาพยนตร์ของ วรัญญู อุดมกาญจนานนท์ และ คงเดช จาตุรันต์รัศมี เป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็ก 3 คนจาก 2 มุมโลก คือ วอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา และจากหมู่บ้านกะเหรี่ยงทางภาคเหนือของประเทศไทย ที่ช่วยกันกอบกู้โลกจากหายนภัยเนื่องจากภาวะโลกร้อน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์คอมพิวเตอร์แอนิเมชันเรื่องแรกของประเทศไทย ที่สร้างในระบบสามมิติ สเตอริโอสโคปิก (Stereoscopic 3D) เนื้อเรื่องย่อเรื่องราวการผจญภัยบนมิตรภาพของเด็กจากสองฟากโลก ระหว่างพี่น้องชาวกะเหรี่ยง หน่อวา เด็กสาวผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และศิลปะการต่อสู้ จ่อเป เด็กชายที่สามารถสื่อสารกับธรรมชาติได้ด้วยการโขกหัว กับ แซม เด็กที่คลั่งใคล้ในอุปกรณ์ไฮเทค บุตรชายคนเดียวของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐอเมริกา แซมเดินทางมาเข้าร่วมงานชุมนุมลูกเสือโลกที่ประเทศไทย แต่ด้วยความหยิ่งและหลงตัวเองทำให้เขาหลงทางไปในป่าหมอกและตกอยู่ในอันตราย โชคดีที่กะเหรี่ยงสองพี่น้องมาพบเข้าแล้วช่วยเหลือไว้ ทั้งสามคนก็เริ่มสนิทและกลายเป็นเพื่อนกัน ในขณะนั้นเองมีสัญญาณเตือนภัยจากท้องฟ้า แม่หมอ ผู้ทำหน้าที่พยากรณ์ประจำหมู่บ้าน เสี่ยงทายและบอกกับทุกคนให้รู้ว่า มหันตภัยร้ายกำลังจะมาถ้าไม่มีใครยับยั้งมันได้โลกจะต้องถึงกาลวิบัติ เมื่อจ่อเป และ หน่อวา เดินทางมาส่งแซม ออกจากป่าลึก สัญญาณเตือนภัยกลับดังขึ้นอีก จ่อเป และ หน่อวา รบเร้า แซม ให้พาไปที่ สหรัฐอเมริกา ด้วย และที่นั่นเด็กๆทั้งสามร่วมใจกันฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อหยุดยั้งวิกฤติร้ายของโลกครั้งนี้ให้ได้ โดยแก่นแท้ของเรื่องราว จะมุ่งเน้นด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน[2] ตัวละครตัวละครหลัก
ตัวละครรับเชิญ
เพลงประกอบ
การสร้างทีมงานกันตนา แอนิเมชันใช้เวลากว่า 3 ปี ในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ตั้งแต่การทำวิจัย การค้นหาวิธีการดำเนินชีวิตของชาวกะเหรี่ยงคอยาวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนความเชื่อและพิธีกรรมต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นบทภาพยนตร์ ประกอบกับการตระหนักถึงปัญหาสภาวะแวดล้อม โดยเฉพาะ "ปัญหาโลกร้อน" ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ผู้ชมทุกวัยเกิดความเข้าใจอย่างทั่วถึง โดยกันตนาใช้เงินลงทุนสร้างกว่า 170 ล้านบาท ในการพัฒนาขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน เพื่อให้เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกของไทยที่สร้างในรูปแบบ 3 มิติสเตอริโอสโคปิก อย่างเต็มรูปแบบ เทียบเท่ากับงานสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันของต่างประเทศ ซึ่งได้มิติของภาพที่ลึกและสวยงาม ช่วยเพิ่มอรรถรสการชมมากขึ้นกว่าเดิม เสมือนมีส่วนร่วมเหตุการณ์ผจญภัยกับตัวละครอย่างแท้จริง ส่วนของการพากย์ ทีมสร้างได้ทำการติดต่อ หนึ่งธิดา โสภณ นักแสดงหญิงที่สร้างชื่อจากภาพยนตร์เรื่อง กวน มึน โฮ มาร่วมพากย์เสียง "หน่อวา" ซึ่งเธอได้เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจ แต่ต้องเตรียมตัวเป็นอย่างมาก โดยทางทีมสร้างได้อธิบายถึงภาพในจินตนาการของพวกเขา ซึ่งหนึ่งธิดาได้ทำการพากย์เสียงโดยที่ยังไม่เห็นภาพจริง โดยเธอกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เธอก็ได้รับคำแนะนำจาก มนตรี เจนอักษร ผู้กำกับการพากย์เสียง ถึงวิธีการสื่อสารให้ได้ตามที่เขาต้องการ[3] การเปิดตัวภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์เรื่อง เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ได้มีการเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยได้รับเกียรติจาก นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ร่วมด้วย ม.ร.ว. สมลาภ กิติยากร ประธานกรรมการ มูลนิธิดินดีน้ำใสแห่งประเทศไทย ผู้ให้การสนับสนุนหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้[5] และได้มีการจัดฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 31 กรกฎาคม ที่โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้นำหรือหัวหน้าชนเผ่าต่างๆ อาทิ ชนเผ่าอาข่า ปกากะญอ กะเหรี่ยง กระหล่าง ฯลฯ ที่พักอาศัยในประเทศไทยมาร่วมชมภาพยนตร์ด้วย โดยแต่ละคนสวมชุดประจำเผ่า มีการแสดงดนตรีกะเหรี่ยงร่วมสมัย และตัวอย่างของภาพยนตร์ให้ชมก่อนเปิดงาน แต่ภาพยนตร์ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก[6] การตอบรับภาพยนตร์เปิดตัวฉายในประเทศไทย 4 วันแรก (2-5 ส.ค. 55) ด้วยรายได้เพียง 6.2 ล้านบาท[7] จนเมื่อมีการพูดปากต่อปากในกลุ่มสังคมออนไลน์ เว็บบอร์ด และสื่อมวลชน ทางโรงภาพยนตร์ต่างๆ จึงได้จัดส่วนลดพิเศษและเพิ่มจำนวนรอบฉายจากเดิมที่หดลง เพื่อสนองความต้องการของผู้ชม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ปรากฏว่าจนถึงวันที่ 13 ส.ค. 55 ทำรายได้รวม 13.4 ล้านบาท[8] และถึงวันที่ 26 ส.ค. 55 ทำรายได้รวม 17 ล้านบาท[9] ในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ได้มีการจัดฉายรอบพิเศษส่วนพระองค์ ณ โรงภาพยนตร์ บางกอกแอร์เวย์ส บลูริบบอน สกรีน ภายในพารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรภาพยนตร์[10] รางวัล
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia