ในตอนของ Raw วันที่ 11 มีนาคม ก็มีการเปิดเผยว่านักมวยปล้ำหญิงปัจจุบัน Alexa Bliss จะเป็นเจ้าภาพ(Host)ของ WrestleMania 35[7][8] ในตอนของ Raw วันที่ 18 มีนาคม มีการประกาศว่า Elias จะจัดคอนเสิร์ตที่ WrestleMania[9]
การมีส่วนร่วมของคนดัง
ตามประเพณี WrestleMania จะมีดาราหลายคนเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ ใน Raw วันที่ 4 มีนาคม Colin Jost และ Michael Che ของ Saturday Night Live (SNL) ได้รับการแนะนำในฐานะผู้สื่อข่าวพิเศษสำหรับโชว์นี้และต่อมาได้มีการประกาศให้พวกเขาเข้าร่วมใน André the Giant Memorial Battle Royal[10] ในวันที่ 26 มีนาคม 2019 มีการประกาศว่า Joan Jett จะทำการแสดงสดเพลงเปิดตัวของ Ronda Rousey อย่าง "Bad Reputation" - ในการเปิดตัวขึ้นเวทีของ Rousey[11] นักร้องและนักจัดรายการวิทยุ Yolanda Adams ได้รับการยืนยันว่าจะร้องเพลง "America the Beautiful" ในตอนเปิดโชว์หลักของ WrestleMania[12]
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ผู้จัดการทั่วไปของ 205 Live อย่าง Drake Maverick ประกาศจัดทัวร์นาเมนต์เพื่อหาผู้ชนะไปเจอกับ Buddy Murphy ชิงแชมป์ Cruiserweight ที่ WrestleMania 35[33] เป็นทาง Tony Nese, Drew Gulak, Oney Lorcan และ Cedric Alexander ผ่านเข้าสู่รอบรองด้วยการเอาชนะ Kalisto, The Brian Kendrick, Humberto Carrillo และ Akira Tozawa ไปได้ตามลำดับ[34][35] ในรอบรอง Cedric และ Nese ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเอาชนะ Lorcan และ Gulak ไปได้ตามลำดับ[36] ในรอบสุดท้าย Nese เป็นฝ่ายชนะได้ไปชิงแชมป์กับ Murphy ที่ WrestleMania 35[37]
วันที่ 16 ตุลาคม 2018 ใน SmackDown ครบรอบตอนที่ 1000 Batista ที่ขึ้นปล้ำกับ WWE ครั้งสุดท้ายในปี 2014 ได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับ Ric Flair, Randy Orton และ Triple H ในนามกลุ่ม Evolution ในระหว่างเซกเมนต์ Batista ยกย่อง Orton และ Flair พอถึง Triple H เขาชม Triple H ที่ทำได้ทุกอย่างในธุรกิจมวยปล้ำยกเว้นชนะเขา[38] ในช่วงปี 2005 นั้น Batista ชนะ Triple H ทั้งสามนัดในศึก WrestleMania 21[39], Backlash[40] และ Vengeance[41] ทั้งสองมีการจ้องหน้ากันก่อนที่จะกอดกันโดยดูเหมือนว่ามีความระหองระแหงกันระหว่างทั้งสอง[38] ใน Raw 25 กุมภาพันธ์ 2019 ในงานฉลองวันเกิด 70 ปีของ Flair นั้น Batista ได้ทำร้าย Flair และถาม Triple H ว่าแกสนใจฉันหรือยัง[42] Triple H ได้ท้า Batista ให้ออกมาเจอกันใน Raw 11 มีนาคม[28] ซึ่ง Batista บอกว่าเขาต้องการให้นัดสุดท้ายเป็นไปตามเงื่อนไขของตัวเองจึงขอท้าเจอกับ Triple H ที่ WrestleMania 35 และ Triple H ก็รับคำท้าพร้อมกับเพิ่มรูปแบบการปล้ำเป็นแมตช์ไม่มีกฏกติกา (No Holds Barred match)[7] ใน Raw 25 มีนาคม Batista ตัดสินใจว่าเขาจะไม่เจอกับ Triple H เว้นแต่ Triple H จะเอาอาชีพเป็นเดิมพันซึ่ง Triple H ตอบตกลง[43]
ใน Raw 11 มีนาคม WWE Hall of Fame อย่าง Kurt Angle ประกาศว่าเขาจะขึ้นปล้ำแมตช์อำลาสังเวียนที่ WrestleMania 35[7] ในสัปดาห์ต่อมา Angle บอกว่าตระกูล McMahon อนุญาตให้เขาเลือกคู่ต่อสู้ WrestleMania ของเขา Angle บอกว่ามีคู่แข่งมากมายที่เขาต้องการเผชิญหน้า แต่มีเพียงคนเดียวที่เขาต้องการเอาชนะ เขาตัดสินใจเลือก Baron Corbin เนื่องจากปัญหากันมากมายในขณะที่ Angle เป็นผู้จัดการทั่วไปของ Raw ตั้งแต่ปี 2017-2018 Corbin ทำให้เขาเสียตำแหน่งในฐานะผู้จัดการทั่วไปและต่อมา Corbin กลายเป็นรักษาการผู้จัดการทั่วไปของ Raw จนถึงเดือนธันวาคม 2018[44]
ใน Crown Jewel นั้น Shane McMahon ได้ขึ้นปล้ำในรอบชิง WWE World Cup แทน The Miz ที่ไม่สามารถปล้ำต่อได้จากการบาดเจ็บ และเป็นผู้ชนะจนได้รับฉายา Best in the World[45] ต่อมา The Miz เริ่มการติดตาม Shane เพื่อจัดตั้งแท็กทีมพร้อมบอกว่าพวกเขาจะเป็นทีมแท็กที่ดีที่สุดในโลกซึ่ง Shane ก็ตอบตกลงและทั้งสองก็ชนะ The Bar (Sheamus และ Cesaro) คว้าแชมป์แท็กทีม SmackDown ได้ในศึก Royal Rumble[23] ก่อนจะเสียแชมป์ให้ Usos ใน Elimination Chamber[46] และพลาดการชิงคืนใน Fastlane ซึ่งทั้งสองครั้ง Miz เป็นฝ่ายโดนจับกด หลังจากที่ผิดหวังในแมตช์ Fastlane ทั้งคู่กอดพ่อของ Miz ที่มาดูข้างเวที ก่อนที่ Shane จะทำร้าย Miz จากด้านหลังและกลายเป็นอธรรม[29] ใน SmackDown 12 มีนาคม Shane ได้ประกาศท้าเจอกับ Miz ที่ WrestleMania 35[47] ใน SmackDown 26 มีนาคม Miz ได้ประกาศเพิ่มกติกาเป็นแมตช์จับกดที่ไหนก็ได้ (falls count anywhere match) ซี่ง Shane ตอบตกลง[31]
ในหลายๆ ตอนของ SmackDown นั้น AJ Styles และ Randy Orton ต่างก็ดูถูกซึ่งกันและกันอยู่หลังเวที ใน Elimination Chamber Orton ได้กำจัด AJ ออกจากแมตช์ชิงแชมป์ WWE[46] ใน Fastlane Orton ได้ออกมาเล่นงาน Elias ด้วยท่า RKO จากด้านหลัง ก่อนจะถูก AJ เล่นงานด้วย Phenomenal Forearm[29] ใน SmackDown 12 มีนาคม ทั้งคู่ออกมาฉะฝีปากกันก่อนจะท้าเจอกันที่ WrestleMania 35[47]
ใน SmackDown วันที่ 12 กุมภาพันธ์ Kofi Kingston หนึ่งในสมาชิกของ The New Day ได้มาแทน Mustafa Ali เข้าร่วมปล้ำในแมตช์ gauntlet match เพื่อสิทธิ์ออกจากห้องขัง Elimination Chamber ชิงแชมป์ WWE เป็นคนสุดท้าย; Kofi สามารถกดเจ้าของแชมป์อย่าง Daniel Bryan และสามารถอยู่ปล้ำได้นานกว่าชั่วโมงก่อนถูกกำจัดออกจากแมตช์[48] ใน Elimination Chamber นั้น Bryan ก็ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้โดยการชนะ Kofi คนสุดท้าย[46] ใน SmackDown สัปดาห์ถัดมา Kofi ได้สิทธิ์ชิงแชมป์ WWE ที่ Fastlane หลังจากกด Bryan ในแท็กทีม 6 คน[49] แต่ในอีกสัปดาห์ถัดมา Mr. McMahon ได้เปลี่ยนตัว Kofi โดยให้ Kevin Owens ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาชิงแทนและบอกว่า Owens เหมาะสมกว่า[50] ใน Fastlane The New Day (Big E, Kofi และ Xavier Woods) ได้เข้าไปคุย Mr. McMahon เพื่อขอจัดแมตช์สามเส้า อย่างไรก็ตาม Kofi ได้ออกมาเพื่อเตรียมปล้ำแต่แมตช์ถูกเปลี่ยนเป็น handicap match เจอกับ The Bar (Cesaro และ Sheamus) และเป็นฝ่ายแพ้ คืนเดียวกัน Bryan ก็สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้[29] ใน SmackDown ถัดมา The New Day ได้มาคุยกับ Mr. McMahon อีกครั้งและ Kofi ถามว่าเขาต้องทำยังไงเพื่อให้ได้ชิงแชมป์ Mr. McMahon บอกว่าถ้า Kofi ชนะ Randy Orton, Samoa Joe, Cesaro, Sheamus และ Rowan ได้ใน gauntlet match อีกสัปดาห์ถัดไป เขาจะได้สิทธิ์ชิงแชมป์ WWE กับ Bryan ที่ WrestleMania 35[47] ซึ่ง Kofi สามารถเอาตัวรอดจากทั้ง 5 คนได้แต่ยังไม่วายถูก Mr. McMahon สั่งให้ปล้ำอีกแมตช์กับ Bryan แล้วก็แพ้ไป ทำให้ Kofi ยังไม่ได้สิทธิ์ชิงแชมป์[51] ใน SmackDown 26 มีนาคม The New Day แกล้งบอกว่าจะลาออก Mr. McMahon จึงตัดสินใจให้ Big E และ Woods ปล้ำแท็กทีม gauntlet match ซึ่งพวกเขาเอาชนะทั้ง Gallows & Anderson, Shinsuke Nakamura และ Rusev และ The Bar, แต่ The Bar เล่นงาน New Day หลังแมตช์และจับ Big E ฟาดใส่โต๊ะ The Usos ออกมาปล้ำเป็นทีมต่อไป Usos บอกว่า New Day ได้รับความเคารพจากห้องล็อกเกอร์และพวกเขาและแมตช์ดำเนินต่อไปโดยการที่ Usos ยอมแพ้ ทำให้ Bryan กับ Rowan ต้องออกมาปล้ำเป็นทีมสุดท้ายและ New Day ชนะโดยการเคาท์เอาท์นับ 10 ทำให้ Kofi ได้โอกาสชิงแชมป์ WWE กับ Bryan ที่ WrestleMania 35[31]
ใน Raw วันที่ 22 ตุลาคม 2018 Roman Reigns ต้องหายจากวงการเนื่องจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมียและต้องสละแชมป์ Universal ที่ครองอยู่ขณะนั้น[52] เขากลับมาใน Raw 25 กุมภาพันธ์ 2019 และบอกว่าโรคลูคีเมียได้สงบลงและจะกลับมาขึ้นปล้ำอีกครั้ง[42] ใน Fastlane นั้น Reigns, Dean Ambrose, และ Seth Rollins กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในฐานะกลุ่ม The Shield เอาชนะทีม Baron Corbin, Bobby Lashley และ Drew McIntyre โดยใช้ท่าไม้ตายประจำทีม Triple Powerbomb เล่นงาน Drew[29] ใน Raw คืนถัดมา Reigns ที่ห่างหายจากการปล้ำใน Raw เป็นเวลา 5 เดือนมีกำหนดที่จะเจอกับ Corbin แต่ถูก Drew ลอบทำร้ายก่อนเริ่มแมตช์ Ambrose แค้นจึงขอเจอกับ Drew แบบจับกดที่ไหนก็ได้แต่ก็แพ้ให้ Drew[7] สัปดาห์ต่อมา Drew ได้ประกาศท้าเจอกับ Reigns ที่ WrestleMania 35 ก่อนจะเอาชนะ Rollins ได้ในคืนนั้น[44] ในอีกสัปดาห์ต่อมา Reigns ได้ประกาศรับคำท้าของ Drew เพื่อเจอกันที่ WrestleMania 35[43]
ใน Raw 18 มีนาคม Braun Strowman ได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมแมตช์ André the Giant Memorial Battle Royal เป็นคนแรก[44] สัปดาห์ต่อมานักแสดงจาก Saturday Night Live Michael Che และ Colin Jost ผู้ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการประกาศให้เป็นผู้สื่อข่าวพิเศษของ WrestleMania และยังเป็นโจทก์กับ Strowman ทั้งคู่ได้รับการประกาศให้เข้าร่วม Battle Royal[43] วันที่ 29 มีนาคม 2019 WWE ได้ประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับแมตช์ WrestleMania Women's Battle Royal จะเกิดขึ้นอีกครั้งที่ WrestleMania 35 ซึ่งเป็นแมตช์ประเพณีและจะมีผู้เข้าร่วมหญิงหลายคน[53]
ใน SmackDown 5 มีนาคม Samoa Joe สามารถคว้าแชมป์ United States ได้ในแมตช์ 4 เส้าจากการเอาชนะ Rey Mysterio, Andrade และ R-Truth (แชมป์) ใน Fastlane Joe สามารถป้องกันได้ในการรีแมตช์ 4 เส้าโดยจับ Rey ใส่ท่า Coquina Clutch[29] สัปดาห์ถัดมา Rey สามารถจับกดเอาชนะ Joe ไปได้แบบแท็กทีม อีกสัปดาห์ถัดมา Rey ประกาศว่าเขาจะท้าชิงแชมป์ US กับ Joe ที่ WrestleMania 35[51]
ใน Elimination Chamber นั้น Finn Balor สามารถคว้าแชมป์ Intercontinental ได้เป็นสมัยแรกจาก Bobby Lashley ในกติกา Handicap match 2 ต่อ 1 โดยมี Lio Rush ร่วมปล้ำด้วย[46] ใน Raw 11 มีนาคม Balor ก็เสียแชมป์คืนให้ Lashley โดยการก่อกวนของ Rush ทำให้ครองไม่ถึงเดือน[7] ใน Raw 25 มีนาคม Balor สามารถเอาชนะ Lashley และ Jinder Mahal ใน Handicap match ทำให้ได้โอกาสชิงแชมป์ IC อีกครั้งกับ Lashley ที่ WrestleMania 35[43] Raw สัปดาห์ต่อมา Balor ประกาศว่าใน WrestleMania เขาจะมาในร่างปีศาจ (Demon)[32]