ฮอนด้า เอ็นเอชเอ็กซ์
ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ (อังกฤษ: Honda NSX) หรือที่ตีตลาดภายใต้ชื่อ แอคิวรา เอ็นเอสเอ็กซ์ (อังกฤษ: Acura NSX) ในแถบอเมริกาเหนือ เป็น รถสปอร์ตสองแบบเครื่องวางกลาง (mid-engine) ผลิตโดย ฮอนด้า/แอคิวรา จุดเริ่มต้นของเอ็นเอสเอ็กซ์ย้อนกลับไปเมื่อ ค.ศ. 1984 เริ่มจากการออกแบบ เอชพี-เอ็กซ์ (Honda Pininfarina eXperimental) [1] ซึ่งเป็นรถสปอร์ตเครื่อง 3.0 L V6 วางกลางขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ฮอนด้ามีความตั้งใจพัฒนาเพื่อก้าวข้ามหรือเทียบเท่าความสามารถเครื่องยนต์ V8 ของเฟอร์รารี่ในตอนนั้น โดยเพิ่มความน่าเชื่อถือในราคาที่ต่ำกว่า แนวคิดนี้ถูกพัฒนาจนกลายเป็น เอ็นเอส-เอ็กซ์ ที่ย่อมาจาก "New", "Sportscar" "eXperimental",[2] แม้หลังการผลิตจะถูกใช้ชื่อว่า เอ็นเอสเอ็กซ์ รุ่นแรก (NA1, NA2; ค.ศ. 1990 – ค.ศ. 2005)ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ถูกออกแบบโดยทีมซึ่งนำโดยหัวหน้านักออกแบบชื่อว่า มาซาฮิโตะ นากาโนะ และ หัวหน้าช่างกล ชิเงรุ อุเอฮาระ โดยได้ประโยชน์จากการออกแบบห้องนักบินของเอฟ-16 ไฟทิงฟอลคอนที่มีการใช้อากาศพลศาสตร์และการออกแบบที่ล้ำสมัย[3] และยังได้รับคำแนะนำจากแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งอย่าง อาอีร์ตง เซนนา ในการพัฒนาขั้นสุดท้าย เอ็นเอสเอ็กซ์กลายเป็นรถซึ่งผลิตเป็นจำนวนมากแบบแรกที่โครงรถผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอยทั้งหมด ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ V6 3.0 L ที่ทำจากอลูมิเนียม และยังใช้ระบบVTEC (Variable Valve Timing and Lift Electronic Control) ที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 มีแบบเกียร์ธรรมดาแบบ 5 สปีด กับแบบเกียร์ออโต้ 4 สปีด รุ่นที่สอง (NC1; ค.ศ. 2016 – ค.ศ. 2022)![]() ![]() เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2007 ฮอนด้าประกาศแผนที่จะเปิดตัวรุ่นต่อของเอ็นเอสเอ็กซ์ภายในปี ค.ศ. 2010 บนฐานการออกแบบเครื่องวางหน้า V10 ของ แอคิวรา เอเอสซีซี (Advanced Sports Car Concept)[4] แม้รถต้นแบบจะถูกทดลองผลิต เพียงหนึ่งปีต่อมา ฮอนด้าประกาศว่าแผนการผลิตถูกยกเลิกเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา[5] ในเดือนมีนาคม ค. ศ. 2010 ฮอนด้าประกาศเปิดตัว Honda HSV-010 GT มาแทนที่ เพื่อร่วมแข่งกันใน Japanese SuperGT Championship โดยรถคันนี้ไม่ได้ถูกผลิตเป็นรถที่สามารถขับได้บนถนนอย่างถูกกฎหมาย รายงานว่าฮอนด้ากลับมาพัฒนารถรุ่นต่อของเอ็นเอสเอ็กซ์กลับมาอีกครั้งในเดือนเมษายน ค.ศ. 2011[6] ฮอนด้าได้ประกาศแนวคิดเอ็นเอสเอ็กซ์รุ่นที่สองในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน และเดือนต่อมาได้เปิดตัวในงานแสดงรถนานาชาติแห่งอเมริกาเหนือ 2012 (2012 North American International Auto Show) ภายใช้แนวคิว แอคิวรา เอ็นเอสเอ็กซ์ แบบจำลองแบบที่ใช้ผลิตจริงถูกนำแสดงสามปีต่อมา ณ งานแสดงรถนานาชาติแห่งอเมริกาเหนือ 2015 เพื่อขายใน ค.ศ. 2016 แม้ใช้ชื่อเดิม ครั้งนี้ชื่อถูกแปลความหมายว่า "New Sports eXperience"[7] ต่างจากรุ่นแรกที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น รุ่นที่สองถูกออกแบบและวางแผนใน เมืองแอรีส์วิลล์ รัฐโอไฮโอ ณ โรงงานผลิตฮอนด้า ออกแบบโดย Michelle Christensen และ หัวหน้าช่างกล Ted Klaus เอ็นเอสเอ็กซ์รุ่นใหม่เป็นรถสปอร์ตระบบไฮบริด ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ V6 twin-turbo และเครื่องยนต์ไฟฟ้าสามตัว ทั้งหมดให้แรงขับเคลื่อนเกือบ 600 แรงม้า โครงทำจากอลูมิเนียม เหล็กกล้าแบบแข็งแรงพิเศษ และวัสดุอื่น ๆ ที่ให้ความมั่นคงและมีน้ำหนักเบา รถคันแรกที่ถูกผลิตถูกประมูลโดย Barrett Jackson เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2016.[8] Rick Hendrick เจ้าของทีม NASCAR ชนะการประมูลด้วยราคาUS$1,200,000 หรือ กว่า 39 ล้านบาท เงินทั้งหมดที่ได้จากการประมูลถูกบริจาคให้การกุศล[9][10][11][12][13] Hendrick เป็นผู้ขับเอ็นเอสเอ็กซ์รุ่นใหม่บนถนนเป็นคนแรกในรัฐโอไฮโอเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2016[14][15][16][17][18] เอ็นเอสเอ็กซ์รุ่นใหม่ถูกขายเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 NSX Type SAcura/Honda NSX Type S เปิดตัวแล้วในสหรัฐฯ ในฐานะรุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด เพื่อเฉลิมฉลองการผลิตเป็นปีสุดท้าย และไม่ได้มีแต่เพียงการตกแต่งเฉพาะรุ่น แต่ยังปรับแต่งงานวิศวกรรมด้วย ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 10 สี รวมถึงสีพิเศษ เทาด้าน Gotham Gray matte metallic ซึ่งจะมีเพียง 70 คันเท่านั้น Acura NSX Type S เปิดตัวที่สหรัฐฯ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2021 ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 350 คัน และ จะสงวนสิทธิ์ไว้ให้ลูกค้าในสหรัฐฯ จำนวน 300 คัน ส่วนการผลิตทำขึ้นด้วยมือจากโรงงานในรัฐ Ohio สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 169,500 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 5,656,000 บาท) และ เพิ่มเป็น 182,500 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 6,090,000 บาท) หากติดตั้ง Lightweight Package[19] เริ่มส่งมอบในเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ปิดตำนาน Supercar ของ HondaHonda จึงประกาศยุติการผลิต ‘รถสปอร์ตสุดหรู NSX’ ภายในสิ้นปี 2022 หลังทำยอดขายได้น้อย อาจปิดตำนานซูเปอร์คาร์เร็วๆ นี้!? และต้องการมุ่งเน้นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia