อุดม ทรงแสง
อุดม ทรงแสง (20 มิถุนายน 2478 - 24 ธันวาคม 2561) หรือรู้จักกันในนาม พ่อดม ชวนชื่น และ อุดม ชวนชื่น เป็นนักแสดงตลก ลิเก นักดนตรี และนักแต่งเพลงชาวไทย รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งและอดีตหัวหน้าคณะตลกคณะชวนชื่น นอกจากนั้นยังเป็นผู้ที่นำเอาดนตรีสากลมาเล่นร่วมกับลิเกคนแรกของไทยอีกด้วย ประวัติอุดม ทรงแสง เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2478 ที่ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นบุตรของคุณพ่อผ่อง คุณแม่สอย ทรงแสง เป็นบุตรคนที่ 4 คนในบรรดาพี่น้อง 6 คน ในครอบครัวที่ประกอบอาชีพเป็นนักแสดงลิเก เริ่มเล่นลิเกตั้งแต่อายุ 13 ปีจนทำให้ไม่มีเวลาได้เรียนหนังสือและจบแค่ป.1 และได้เริ่มเป็นพระเอกลิเกในคณะศิลป์ส่งเสริม ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ก่อนจะแยกออกมาตั้งคณะลิเกอุดมศิลป์ และได้แสดงลิเกออกรายการวิทยุในนามคณะ อุดม - แววดาว ซึ่งเป็นน้องสาว และก็ประสบความสำเร็จอย่างมากที่จันทบุรี หลังจากที่แสดงไปได้แค่ 7 วัน ในระหว่างที่เป็นนักแสดงลิเกด้วยความที่ชื่นชอบเรื่องดนตรีทั้งไทยและสากลจึงสามารถเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงลิเกได้ทุกชิ้น และมีความสนใจในแซกโซโฟน จึงได้ซื้อมาฝึกเล่นด้วยตนเอง ต่อมาอุดมจึงได้คิดวิธีการดึงผู้ชมให้เข้ามาดูลิเกด้วยการเล่นดนตรีสากลในช่วงหัวค่ำก่อนการแสดง คณะลิเกของอุดมจึงมีทั้งแอกคอร์เดียน กีต้าร์ เบส และกลองชุด เครื่องดนตรีเหล่านี้ก็ถูกนำไปเล่นรวมกับเครื่องดนตรีลิเก นับเป็นคณะลิเกคณะแรกของเมืองไทยจนเป็นต้นแบบให้กับคณะลิเกในยุคปัจจุบัน ขณะอายุได้ 30 ปี หลังจากที่ได้ยินคนดูบ่นให้ฟังเรื่องอายุมากเกินที่จะเป็นพระเอก อุดมก็ตัดสินใจล้างมือจากการเป็นพระเอกลิเกและหนีเข้ากรุงเทพพร้อมกับแซกโซโฟนคู่ใจเข้าร่วมวงดนตรีลูกทุ่งของประจวบ จำปาทอง สังข์ทอง สีใส ชาตรี ศรีชล เพลิน พรหมแดน นักร้องลูกทุ่งชื่อดังในยุคนั้นในตำแหน่งเครื่องเป่า พร้อมกับให้นพดล ทรงแสง (จิ้ม) ลูกชายเข้าร่วมวงอีกคนในตำแหน่งมือกลอง ในระหว่างนั้นอุดมและจิ้มได้เริ่มหันมาแสดงตลกแทนตลกในคณะที่หยุดพัก โดยได้ค่าตัวถึงคืนละ 500 บาท เล่นตลกอยู่ราว 1 ปี จนกระทั่งวงดนตรีของเพลิน พรหมแดนได้ยุบไป ในปี พ.ศ. 2525 ขณะอายุได้ 47 ปี อุดมได้รวบรวมสมัครพรรคพวกก่อตั้งคณะตลกคณะชวนชมขึ้นในรูปแบบตลกครอบครัวแต่ไม่ได้รับความนิยมมากนักจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นชวนชื่น โดยเริ่มแรกมี จเด็จ เพชรบูรณ์ เปี๊ยก อยุธยา แป๋ว บ้านโป่ง จิ้ม ชวนชื่น หลุยส์ ชวนชื่น และอุดม ชวนชื่น ทำให้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาโดยรับงานแสดงตลกตามที่ต่างๆ รวมไปถึงก่อตั้งบริษัทรับจัดงานแสดง โชว์ และผลิตรายการโทรทัศน์ออกมามากมายอีกด้วย ในเวลาต่อมาด้วยอายุที่มากขึ้นอุดมจึงตัดสินใจยกคณะให้ จิ้ม ชวนชื่น เป็นผู้ดูแลแทนแต่อุดมก็ยังร่วมแสดงตลกกับชาวคณะอยู่เสมอกระทั่งจิ้มได้ตัดสินใจยุบคณะชวนชื่นไปในที่สุด นอกจากนี้ อุดมยังเป็นนักแต่งเพลงซึ่งได้รับคำแนะนำมาจากพร ภิรมย์ ในช่วงที่ไปเล่นลิเกด้วยกันนาน 2 ปี พ่อดมได้ประพันธ์เพลงไว้หลายบทเพลงให้กับนักร้องมากมาย อาทิ คัมภีร์ แสงทอง ยอดรัก สลักใจ เอกชัย ศรีวิชัย และบทเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับอุดมมากที่สุดคือเพลง พิษรักพิษณุโลก เดิมอุดมตั้งใจแต่งเอาไว้ให้จิ้มไว้ตอนอายุ 14 ปี ภายหลังได้ถูกนำไปประกอบภาพยนตร์เรื่อง คนปีมะ ขับร้องโดย สีหนุ่ม เชิญยิ้ม เป็นผู้ขับร้องเป็นคนแรก ต่อมา สันติ ดวงสว่าง และ หนู มิเตอร์ ได้นำเพลงนี้ไปขับร้องใหม่ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 อุดมได้ตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งตับในระยะที่ 3 กระทั่งอุดมได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเมื่อวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ด้วยวัย 83 ปี 7 เดือน 4 วัน ชีวิตส่วนตัวอุดม ชวนชื่น มีภรรยา 4 คนและบุตรธิดารวมทั้งสิ้น 15 คน ในบรรดาบุตรธิดาของอุดมที่เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง อาทิ นพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น), แสงดาว ทรงแสง (จอย ชวนชื่น), รณกร ทรงแสง (หลุยส์ เชิญยิ้ม) และ ผดุง ทรงแสง (แจ๊ส ชวนชื่น) รวมถึง อาคม ปรีดากุล (ค่อม ชวนชื่น) และ แป๋ว บ้านโป่ง ที่มีศักดิ์เป็นหลานทั้งนี้ อุดมเคยพูดเอาไว้ว่าลูกอีกคนหนึ่งของเขานั้นกำลังตามหาเขาอยู่ซึ่งปัจจุบันตัวของลูกคนที่ 15 ของอุดมยังคงเป็นปริศนาอยู่ นอกจากนี้อุดมยังมีศักดิ์เป็นพ่อตาของเทพ โพธิ์งาม นักแสดงตลกชื่อดังอีกด้วยเพราะลูกสาวคนหนึ่งของอุดมคือ ภัสราวรรณ ทรงพีระพัฒน์ (จุ๋ม) ได้มาแต่งงานกับเทพ โพธิ์งามและชื่อของอุดมยังได้ถูกนำไปใช้เป็นชื่อร้านอาหารทะเลของหลุยส์ เชิญยิ้ม ในชื่อ อุดมซีฟู้ด อุดม ชวนชื่น เคยปฏิเสธรับรางวัลเป็นศิลปินแห่งชาติ เนื่องด้วยกลัวเสื่อมเสียเพราะชอบเที่ยวอาบอบนวด แผนผังครอบครัว
ผลงานภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์ และซิตคอม
รายการโทรทัศน์
ผลงานการประพันธ์เพลง
ผลงานอื่นๆ
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia