อิลัช มูริบา
มูริบา กูรูมา กูรูมา (กาตาลา: Moriba Kourouma Kourouma; เกิด 19 มกราคม ค.ศ. 2003) โดยทั่วไปรู้จักกันในชื่อ อิลัช มูริบา (Ilaix Moriba) เป็นนักฟุตบอลชาวกินี ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง[2] ให้กับเซลตา สโมสรในลาลิกา จากการยืมตัวมาจากแอร์เบ ไลพ์ซิช และทีมชาติกินี ชีวิตช่วงแรกมูริบาเกิดในโคนาครี เมืองหลวงของประเทศกินี มารดาเป็นชาวกินีและบิดาเป็นชาวไลบีเรีย[3] เขาถือทั้งสัญชาติสเปนและกินี[4] สโมสรอาชีพมูริบาเข้าร่วมทีมเยาวชนของอัสปัญญ็อลใน ค.ศ. 2008 ก่อนที่ใน ค.ศ. 2010 เขาจะย้ายมาร่วมสโมสรร่วมเมืองอย่างบาร์เซโลนา[5][6] เขาได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุคของเขาและเขามักจะเล่นในประเภทผู้เล่นที่มีอายุมากกว่าเขา[7][8] มูริบาในวัย 15 ปี เขาสามารถทำประตูได้สามประตูในเกมกับเรอัลมาดริด รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี โดยประตูสุดท้ายของเขาได้จากการยิงประตูจากกลางสนามเมื่อเริ่มครึ่งหลัง[9] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 ในช่วงที่สัญญาของเขากับบาร์เซโลนาใกล้จะหมดลง สโมสรต่าง ๆ เช่น แมนเชสเตอร์ซิตี ยูเวนตุส เป็นต้น พยายามที่จะเซ็นสัญญากับเขา แต่ในที่สุดเขาก็เลือกต่อสัญญากับบาร์เซโลนาด้วยเงินเดือนมากกว่า 500,000 ยูโรต่อปี และมีค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโร[10] ในฤดูกาลถัดมา เขาได้กลายเป็นผู้เล่นที่ลงเล่นให้กับบาร์เซโลนา เบ เป็นประจำ เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2020 ในเกมที่พวกเขาเอาชนะยากุสเตรา[11] ในฤดูกาล 2020–21 มูริบาได้ขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในวันที่ 10 มกราคม ค.ส. 2021 ในเกมลาลิกาที่พวกเขาเอาชนะกรานาดา 4–0 ที่โลสการ์เมเนสโดยไม่ได้รับโอกาสลงสนาม[12][13] ก่อนที่จะได้ลงเล่นในวันที่ 21 มกราคม ในเกมโกปาเดลเรย์ รอบ 32 ทีมสุดท้าย กับกูร์นัลยา จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนเซร์ฆิโอ บุสเกตส์ ในนาทีที่ 4 โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 2–0[14][15] ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 เขาลงเล่นในลาลิกาครั้งแรก พบกับเดปอร์ติโบอาลาเบสที่กัมนอว์ โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริง แล้วยังทำแอสซิสต์ให้กับฟรังซิชกู ตริงเกา[16] เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในเกมที่บาร์เซโลนาเอาชนะโอซาซูนา 2–0 ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2021[17] ทำให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร เป็นรองเพียงอันซู ฟาติ, โบยัน กีร์กิช, ลิโอเนล เมสซิ และเปดริ[18] ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2021 เขาได้ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรก ในเกมที่พบกับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ที่สนามกัมนอว์ จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทน เซร์ฆิโอ บุสเกตส์ ในนาทีที่ 79 โดยสุดท้ายผลจบลงด้วยการเสมอกันที่ 1–1 ซึ่งทำให้บาร์เซโลนาตกรอบด้วยผลคะแนนรวมสองนัด 5–2[19] ในวันที่ 17 เมษายน เขาได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศของโกปาเดลเรย์ พบกับอัตเลติกบิลบาโอ จากการถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เปดริ ในนาทีที่ 81 โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 4–0 ทำให้บาร์ซาชนะเลิศโกปาเดลเรย์เป็นสมัยที่ 31 และเป็นแชมป์แรกในระดับอาชีพของมูริบา อีกด้วย[20] แอร์เบ ไลพ์ซิชในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2021 มูริบา ได้ย้ายร่วมทีมแอร์เบ ไลพ์ซิช สโมสนในเยอรมนี ด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโร และเพิ่มเติมอีก 6 ล้านยูโรหากบรรลุเงื่อนไข บาร์เซโลนายังสงวนสิทธิ์ในการได้รับเงิน 10% หากสโมสรขายนักเตะในอนาคต[21][22] ในวันที่ 2 ตุลาคม เขาลงเล่นให้กับสโมสรนัดแรก ในนัดที่เอาชนะเฟาเอ็ฟเอ็ล โบคุม 3–0 จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนเควิน คัมเพิล ในนาทีที่ 79 ในวันที่ 19 ตุลาคม เขาได้ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกกับทีม ในนัดที่ออกไปเยือนปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ในรอบแบ่งกลุ่ม หลังได้รับการเปลี่ยนตัวลงมาแทนอมาดู ไฮดารา ในนาทีที่ 62 โดยทีมของเขาแพ้ไปด้วยคะแนน 3–2 ด้วยสองประตูจากลิโอเนล เมสซิ อดีตนักเตะร่วมทีมบาร์เซโลนา[23] บาเลนเซียในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2022 บาเลนเซีย ได้ประกาศการยืมตัว มูริบา จนสิ้นสุดฤดูกาล[24] เขาได้ลงเล่นนัดแรกกับสโมสรในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ในโกปาเดลเรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับกาดิซ หลังเปลี่ยนตัวลงมาแทนเธียร์รี่ กอร์เรยาในนาทีที่ 68 ช่วยให้ทีมเอาชนะ 2–1[25] บาเลนเซีย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของรายการนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน ที่ลาการ์ตูฆา โดยมูริบาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และทำแอสซิตส์ให้กับอูโก ดูโรทำประตูตีเสมอเรอัลเบติส 1–1 ซึ่งเสมอกันจนจบช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ต้องดวลลูกโทษตัดสินซึ่งทีมของเขาแพ้ไปด้วยคะแนน 6–5[26][27] โมริบา ได้กลับมาร่วมทีมบาเลนเซียอีกครั้งในฤดูกาลถัดมา ด้วยสัญญายืมตัวเป็นครั้งที่สอง[28] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia