อำเภอลำทับ
ลำทับ เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ที่ตั้งและอาณาเขตอำเภอลำทับมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
ประวัติลำทับ เดิมเป็นหมู่บ้านในตำบลลำทับ กิ่งอำเภอท่ายาง (อำเภอทุ่งใหญ่) อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และในปี พ.ศ. 2480 ทางราชการได้โอนพื้นที่ตำบลลำทับ มาขึ้นการปกครองกับทางอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่[1] ต่อมาประชาชนจากหลายท้องที่มาประกอบอาชีพ ชุมชนเริ่มขยายตัว เจริญเติบโต จึงแยกพื้นที่ 4 หมู่บ้านของตำบลลำทับ ตั้งขึ้นเป็นตำบลดินอุดม ในปี พ.ศ. 2523 [2] ปี พ.ศ. 2527 ทางราชการได้ประกาศแยกท้องที่ฝั่งเหนือของอำเภอคลองท่อมออกเป็น กิ่งอำเภอลำทับ พื้นที่การปกครอง 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลลำทับ ตำบลดินอุดม[3] ในปีเดียวกันเขตตำบลพรุดินนา ของอำเภอคลองท่อม ได้แจ้งแก่ทางราชการว่าประชาชน 2 หมู่บ้านในตำบลพรุดินนา ได้แก่ หมู่ 2 บ้านเกาะไทร, หมู่ 7 บ้านบางบอนใต้ ไปติดต่อราชการที่กิ่งอำเภอลำทับ สะดวกกว่าอำเภอคลองท่อม ทางราชการจึงได้โอนท้องที 2 หมู่บ้านดังกล่าว เข้ามาสมทบในการปกครองของทางกิ่งอำเภอ[4] โดยชื่อ "ลำทับ" หมายถึง ทับหรือกระท่อมที่พักชั่วคราวของผู้บุกเบิกครั้งแรก ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ในอดีตลำทับอุดมไปด้วยช้างป่า เจ้าพระยานครน้อยแห่งนครศรีธรรมราชเคยส่งคนออกมาตั้งเพนียดคล้องช้างที่เขตตำบลลำทับ และส่งช้างขายไปต่างประเทศ โดยลงเรือที่เกาะลิบง เขตเมืองตรัง ส่วนเส้นทางค้าช้าง เลี้ยงช้าง และส่งช้างไปขาย เรียกกันว่า "เส้นทางพระยานครค้าช้าง" ในสมัยรัชกาลปัจจุบัน พ.ศ. 2501 มีการพบช้างเผือกเชือกแรกที่คล้องได้จากบ้านหนองเต่า ตำบลลำทับ (ปัจจุบันคือบ้านป่างาม ตำบลดินอุดม) ต่อมาได้ถวายนามช้างเผือกเชือกนี้ว่า "พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาสฯ" ในปี พ.ศ. 2532 ได้แยก 5 หมู่บ้านในตำบลลำทับตั้งเป็น ตำบลทุ่งไทรทอง[5] แต่ไม่สามารถยกฐานะเป็นอำเภอได้ เนื่องจากเงื่อนไขการตั้งอำเภอต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4 ตำบล ในปี พ.ศ. 2535 จึงแยกพื้นที่หมู่ 3 บ้านดินแดง ของตำบลดินอุดม รวมกับพื้นที่อีก 4 หมู่บ้านใกล้เคียงตั้งเป็น ตำบลดินแดง[6] หลังจากนั้น 2 ปีจึงได้ยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536[7] เป็นอำเภอลำดับที่ 7 ของจังหวัดกระบี่ การแบ่งเขตการปกครองการปกครองส่วนภูมิภาคอำเภอลำทับแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน ได้แก่
การปกครองส่วนท้องถิ่นท้องที่อำเภอลำทับประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่ง ได้แก่
สถานที่ท่องเที่ยว
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia