หมึกสายวงน้ำเงินใต้
หมึกสายวงน้ำเงินใต้ หรือ หมึกสายลายฟ้าใต้ (อังกฤษ: Southern blue-ringed octopus; ชื่อวิทยาศาสตร์: Hapalochlaena maculosa) เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังมอลลัสคาประเภทหมึกสายชนิดหนึ่ง จำพวกหมึกสายวงน้ำเงิน บทนำชีววิทยาของหมึกหมึกสายชนิดนี้เป็นหมึกสายที่มีขนาดเล็กและมีวงแหวนชนิดเรืองแสงสีฟ้าอยู่บนลำตัวและส่วนหนวด ความแตกต่างของหมึกชนิดนี้จากชนิดอื่นๆที่อยู่ในสกุลเดียวกันคือความยาวลำตัวมากที่สุดที่พบ 40 mm และความยาวของหนวดจะมากกว่าความยาวลำตัว 1.5 – 2.5 เท่า ลำตัวเป็นถุงกลม ด้านท้ายแหลม ลำตัวมีสีน้ำตาลมีจุดสีฟ้าเป็นวงแหวน สำหรับเพศผู้มีแขนคู่ที่สาม ข้างขวาเป็นแขนสำหรับผสมพันธุ์ และที่สำคัญคือวงแหวนสีฟ้าจะเป็นเพียงวงแหวนจาง ๆ ที่กระจายอยู่บนลำตัว โดยขนาดวงแหวนนั้นจะมีขนาดเล็กและพบน้อยมากเมื่อเทียบกับชนิดอื่นๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวงแหวนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 mm พบกระจายเพียง 5 % จากบริเวณลำตัวทั้งหมด [2] การผสมพันธุ์มีเพียงครั้งเดียวตลอดวงจรชีวิตโดยเพศเมียจะวางไข่ติดกับวัสดุใต้น้ำ ไข่จะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ลูกหมึกจะดำรงชีวิตแบบหน้าดิน การแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์ พบในเขตอินโด-แปซิฟิกตะวันตก จากทางใต้ของเกาะฮอนชู ไปจนถึงเกาะทาสมาเนีย และไปทางตะวันตกจนถึงอ่าวเอเดน [3] ส่วนในน่านน้ำไทย พบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามันโดยในฝั่งอ่าวไทย กรมประมงทำการศึกษาโดยใช้เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ขนาดตาอวนก้นถุง 2.5 เซนติเมตร ได้พบหมึกสายวงน้ำเงินใต้อยู่เสมอ แหล่งที่พบส่วนใหญ่ได้แก่บริเวณหน้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเขตน้ำลึก 20 – 40 เมตร แต่ไม่ได้พบในปริมาณมาก [4] ความสำคัญหมึกชนิดนี้จัดเป็นผู้ล่าที่สำคัญเพราะมันมีพิษที่ร้ายแรงดังนั้น จึงเป็นหนึ่งในสัตว์ที่จะควบคุมประชากรสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลได้ [5] อีกทั้งยังเป็นหมึกหายากใกล้สูญพันธุ์ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งในการศึกษาทางวิชาการ เพื่อใช้ในการวางแผน ติดตาม และสงวนรักษาพันธุ์หมึกชนิดนี้ได้ต่อไป[6]
ความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการของหมึกสายวงฟ้าใต้หมึกสายในสกุล Hapalochlaena มีรายงานแล้ว 3 ชนิด ได้แก่ H. maculosa ( Hoyle,1883 ) , H. lanulata (Quoy & Gaimard, 1832), H. fasciata ( Hoyle,1883 ) จากการศึกษาความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการของหมึกสายในกลุ่มต่างๆโดย Michelle T. และคณะ ในปี 2005 พบว่าหมึกสายในสกุลนี้เป็น monophyletic group ทั้งสามชนิด และ H. maculosa, H. fasciata เป็น sister group กัน อีกทั้งหมึกสกุลนี้จะมีวิวัฒนาการใกล้ชิดกับกลุ่ม O. aegina [7]
การปรับตัวเชิงวิวัฒนาการของหมึกสายวงฟ้าใต้ (Evolutionary adaptation of the Southern blue-ringed octopus)สารพิษในน้ำลายเมื่อเหยื่อผ่านมาหมึกจะใช้แขนจับ ใช้จะงอยปากกัด แล้วปล่อยสารพิษในน้ำลายออกมาทำให้เหยื่อนั้นตายในที่สุด หรือเมื่อรู้สึกว่าถูกคุกคามมันจะเปล่งแสงสีฟ้าเรืองออกมาตามลำตัว จากนั้นจะรี่เข้ากัดผู้คุกคามทันที น้ำลายของมันประกอบด้วยสารพิษ 2 ชนิด คือ Maculotoxin (คล้ายคลึงกับสาร Tetrodotoxin ที่พบในปลาปักเป้า มีพิษต่อระบบประสาท) และ Hepalotoxin เป็นสารพิษที่ร้ายแรงเท่ากับงูเห่า 20 ตัวมารุมกัด [8] ถ้าคนถูกกัดโดยหมึกตัวเมียที่มีขนาดโตเต็มวัย สมบูรณ์เพศ อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ พิษชนิดนี้ออกต่อฤทธิ์ระบบประสาท โดยจะเข้าไปขัดขวางการสั่งงานของสมองที่จะไปยังกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้อำนาจจิต คนที่ถูกพิษจะมีอาการคล้ายเป็นอัมพาต หายใจไม่ออกเนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอดได้ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ต้นกำเนิดของพิษในน้ำลายเกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในต่อมน้ำลายของมัน แบคทีเรียดังกล่าวประกอบด้วย Bacillus และ Pseudomonas อีกทั้งพิษ TTX และแบคทีเรียยังพบได้ในไข่ของหมึกอีกด้วย สันนิษฐานว่าเป็นกระบวนการส่งถ่ายความสามารถในการสร้างพิษจากแม่ไปยังลูก พบตั้งแต่แรกเกิดเลยทีเดียว [9] การอำพรางตัวหมึกชนิดนี้จะมีการสร้างเม็ดสี (chromatophore) เมื่อมันโดนกระทบกระทั่ง มันก็จะพรางตัวโดยการทำตัวให้แบนและเปลี่ยนสีให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ขณะที่หมึกนอนหลับตัวของหมึกจะมีสีอ่อน เมื่อมันรู้สึกว่าถูกคุกคามก็จะเปล่งแสงสีฟ้าเรื่อย ๆ ออกมาตามลำตัว จากนั้นก็จะเข้ากัดผู้คุกคาม [10][11] การเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและการเฝ้าดูแลลูกเพศเมียจะออกไข่ประมาณ 50 ใบ ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ในการฟักไข่แต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน แม่หมึกจะคอยเฝ้าไข่จนกระทั่งฟักโดยแม่จะไม่ออกหาอาหารเลย เนื่องจากกลัวว่าถ้าไปหาอาหารอันตรายจะเกิดขึ้นแก่ลูก อีกทั้งถึงแม้จะมีอาหารมายังบริเวณที่มันอยู่มันก็จะไม่ยอมกินเพราะกลัวว่าเศษอาหารที่ตกค้างจะส่งผลต่อไข่ หลังจากนั้นแม่หมึกก็จะตาย ลูกหมึกก็จะเจริญเติบโตต่อไปจนเข้าวัยผสมพันธุ์ รูปแบบการดูแลลูกนี้นับว่าเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ลูกหมึกที่ฟักออกจากไข่อยู่รอดเกือบ 100 % [12] References
อ้างอิงแหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ Hapalochlaena maculosa
|
Portal di Ensiklopedia Dunia