หงส์
หงส์ (นิยมใช้แพร่หลายมากกว่า หงษ์) เป็นนกน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในสกุล Cygnus ในวงศ์ Anatidae อันเป็นวงศ์เดียวกับเป็ดและนกเป็ดน้ำ มีลักษณะทั่วไป มีขนสีขาวทั้งตัว จะงอยปากสีเหลืองส้มและมีปุ่มสีดำที่ฐานของปาก มักรวมฝูงในบึงน้ำเพื่อกินพืชน้ำและสัตว์น้ำขนาดเล็ก พบในทวีปเอเชียทางตอนเหนือ, ยุโรปทางตอนเหนือ, อเมริกา และออสเตรเลีย หงส์ สามารถร่อนลงบนพื้นน้ำแข็งหรือผิวน้ำที่เยือกตัวเป็นน้ำแข็งได้ เพราะมีอุ้งตีนที่ใหญ่คล้ายใบพายซึ่งช่วยกระจายน้ำหนักได้เมื่อร่อนลง แต่จะควบคุมการร่อนได้ดีกว่าในบริเวณที่น้ำแข็งละลาย[1] หงส์มีทั้งหมด 6 ชนิด ได้แก่[2]
หงส์ เป็นนกที่แพร่ขยายพันธุ์ด้วยการวางไข่ มีระยะการฟักไข่ประมาณ 35-37 วัน ขณะที่ฟักไข่นั้น จะมีอุปนิสัยดุมาก เพื่อปกป้องไข่ ลูกหงส์เมื่อคลอดออกมาแล้ว จะมียังมีขนขึ้นไม่เต็ม และจะไม่มีลักษณะเหมือนตัวเต็มตัว โดยปกติแล้ว หงส์ไม่ใช่นกประจำถิ่นของประเทศไทย เป็นนกที่มนุษย์ไม่ใช้เป็นอาหาร แต่จะเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามได้ โดยมักเลี้ยงตามสระน้ำต่าง ๆ ตามสวนสาธารณะหรือสถานที่ต่าง ๆ เพราะหงส์ถือเป็นสัตว์ที่มนุษย์ถือว่า มีความสวยสง่างาม ท่วงท่าอ่อนช้อย โดยเฉพาะเมื่อว่ายน้ำ ช่วงคอที่ยาวระหง จะโค้งงอเป็นรูปตัว S อีกทั้งยังถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความงามต่าง ๆ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีคู่เดียวไปตลอดชีวิต[3] ได้มีการใช้หงส์ในสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น นิทานปรัมปราต่าง ๆ หรือในอุปรากรสวอนเลค ที่นิยมนำมาประกอบการแสดงบัลเลต์[4] หรือในความเชื่อของชาวจีน หงส์ถือเป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำองค์ฮองเฮา เคียงข้างกับมังกร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย ประจำองค์ฮ่องเต้ และยังจัดว่าเป็น 1 ใน 4 สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองโลกมนุษย์และสวรรค์ด้วย ถือเป็นสัตว์อมตะ ไม่มีวันตาย และหงส์ยังถือเป็นพาหนะของพระพรหม ซึ่งถือเป็น 1 ในตรีมูรติตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์[5] ในประเทศพม่า หงส์เป็นตำนานของการกำเนิดเมืองหงสาวดีของชาวมอญ และเป็นสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์หงสาวดี[6] ชื่อและชื่อในภาษาอื่นหงส์ในภาษาไทยมีรากศัพท์มาจากภาษาบาลีคำว่า หํส [5] และ หงฺส ในภาษาสันสกฤต ซึ่งมีความหมายครอบคลุมถึงนกน้ำจำพวกห่าน หงส์[7] และแม้กระทั่งนกฟลามิงโก[8][9] และคำว่า "หงฺส" (หัง-สะ หรือ Haṃsa) ยังมีความเกี่ยวข้องกับคำในภาษาละตินคือ "(h)anser", ภาษากรีก "χήν", ภาษาสเปน "ganso", ภาษาอังกฤษ "goose"[10] หงส์ในภาษาจีนมีความหมายตรงตัวว่า "ห่านฟ้า" (天鹅 พินอิน: tiān'é เทียนเอ๋อ) ในภาษาอังกฤษหงส์เรียกว่า Swan มาจากภาษาอังกฤษโบราณคำว่า swan คล้ายกับภาษาเยอรมันคำว่า Schwan และในภาษาดัตช์คำว่า zwaan และภาษาสวีเดนคำว่า svan ซึ่งทั้งหมดมาจากรากศัพท์ภาษาโปรโตเจอร์แมนิก (ในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน) คำว่า swen หมายถึง "เสียง" หรือ "ร้องเพลง"[11] ถิ่นอาศัยและการอพยพ![]() หงส์มักพบในเขตอบอุ่นมากกว่าในเขตร้อน ฝูงของหงส์ที่กำลังบินมักเรียกกันว่าเบวี (bevy) หรือเวดจ์ (wedge)[12] มีหงส์ 4 หรือ 5 สายพันธุ์ที่พบในซีกโลกเหนือ มีหนึ่งสายพันธุ์พบในออสเตรเลีย มีหนึ่งสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเคยพบในนิวซีแลนด์และหมู่เกาะแชทัม และมีอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่พบในอเมริกาใต้ หงส์ไม่พบในเขตร้อนอย่างเอเชีย, อเมริกากลาง, อเมริกาใต้ตอนเหนือ และแอฟริกาทั้งหมด หงส์ขาวได้แพร่กระจายเข้าไปในฐานะชนิดพันธุ์ต่างถิ่นของอเมริกาเหนือ, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์[13] หงส์บางสายพันธุ์เป็นนกอพยพในบางช่วงอายุหรือตลอดชีวิต หงส์ขาวเป็นนกอพยพชั่วคราว ปกติจะอาศัยบริเวณยุโรปตะวันตกและจะอพยพไปยังยุโรปตะวันออกและเอเชีย หงส์กู่และหงส์ทุนดราเป็นนกอพยพถาวร และหงส์แตรอพยพเกือบตลอดชีวิต[13] แม้จะมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าหงส์คอดำอพยพตลอดอายุขัย แต่จากการศึกษา ยังไม่แน่ชัดว่าหงส์สายพันธุ์อพยพแบบใดกันแน่[14] พฤติกรรม![]() หงส์หาอาหารทั้งบนบกและบนน้ำ พวกมันกินพืชเป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งก็กินสัตว์น้ำในปริมาณน้อย หงส์หาอาหารในน้ำด้วยการคว่ำตัวหรือกดไปมา อาหารของพวกมันจะประกอบไปด้วยรากไม้ หัวพืช กิ่งไม้ และใบไม้ของพืชใต้น้ำ[13] อนุกรมวิธานและวิวัฒนาการหลักฐานแสดงให้เห็นว่าสกุลหงส์ (Cygnus) มีวิวัฒนาการในยุโรปหรือยูเรเซียตะวันตกในสมัยไมโอซีน และแพร่กระจายไปทั่วซีกโลกเหนือจนถึงสมัยไพลโอซีน ยังไม่พบหลักฐานการกระจายพันธุ์ไปทางใต้ในสมัยใด แต่หลักฐานทางสันฐานวิทยาเห็นได้ชัดว่าหงส์ขาวเป็นญาติใกล้ชิดกับหงส์ดำซีกโลกใต้มากที่สุด จากชีวภูมิศาสตร์และลักษณะที่ปรากฏของสกุลย่อย Olor สันนิษฐานอาจมีวิวัฒนาการที่เชื่อมโยงกันกับหงส์ที่สูญพันธุ์บางชนิดในช่วงยุคน้ำแข็งสุดท้าย สายวิวัฒนาการ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia