สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลในฤดูกาล 1959–60

ลิเวอร์พูล
ฤดูกาล 1959–60
ผู้จัดการทีม
ดิวิชัน 2อันดับ 3
เอฟเอคัพรอบ 4
ผู้ทำประตูสูงสุดลีก: โรเจอร์ ฮันต์ (21)
ทั้งหมด: โรเจอร์ ฮันต์ (23)
สีชุดเหย้า
สีชุดเยือน

ฤดูกาล 1959–60 เป็นฤดูกาลที่ 68 ในฟุตบอลอังกฤษของลิเวอร์พูล และเป็น 6 ปีติดต่อกันในดิวิชัน 2

พรีซีซัน

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน หลังจากค้าแข้งกับลิเวอร์พูลมา 3 ปี และลงสนามเกือบทุกนัด (พลาดไปเพียง 6 นัด) ทอมมี ยังเกอร์ ผู้รักษาประตูวัย 29 ปี ได้ตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟิลด์ เพื่อไปรับบทบาทใหม่เป็นทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีมให้กับฟอลเคิร์ก ทีมในดิวิชั่น 2 ของสกอตแลนด์ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ลิเวอร์พูลได้เซ็นสัญญาคว้าตัว เบิร์ต สเลเตอร์ ผู้รักษาประตูวัย 23 ปี สเลเตอร์ลงเล่นให้กับสโมสรฟอลเคิร์กไป 134 นัด และคว้าแชมป์สกอตติชคัพมาครองได้ ก่อนที่ทีมจะตกชั้นในฤดูกาล 1958–59 สเลเตอร์ มีส่วนสูงเพียง 174 เซนติเมตร ถือว่าเตี้ยสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู และได้รับฉายาว่า "ชอร์ตี้" แต่เขาได้รับโอกาสเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของลิเวอร์พูลทันทีที่ย้ายมา

พวกเขายังให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งเติบโตโดยมีการดึงตัวจอห์น นิโคลสัน กองหลังวัย 22 ปี ซึ่งเกิดที่ลิเวอร์พูล และวิลลี่ คาร์ลิน กองหน้าตัวรุกวัยเพียง 18 ปี ซึ่งเคยติดทีมชาติในระดับเยาวชนขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ อลัน โจนส์ แบ็กซ้ายชาวเวลส์วัย 19 ปี ซึ่งเคยติดทีมชาติเวลส์ชุดเยาวชน และเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลมาแล้ว 2 ปี, เรจินัลด์ บลอร์ กองหน้าชาวเมืองเรกซัม ที่เติบโตมาจากระบบเยาวชนของลิเวอร์พูล, เอียน คัลลาแกน กองกลางวัย 17 ปีจากท็อกซ์เทธ ซึ่งบิลลี ลิดเดลล์ ตำนานของลิเวอร์พูล เชื่อว่าเขาจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากตน และโรเจอร์ ฮันต์ กองหน้าวัย 20 ปี ที่ฟิล เทย์เลอร์ ผู้จัดการทีมในขณะนั้น ดึงตัวมาร่วมทีมหลังจากได้เห็นฝีเท้าขณะเล่นให้กับสต็อกตันฮีธ

ภาพรวมตลอดฤดูกาล

ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล ลิเวอร์พูลเผชิญกับปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอในการเล่น ทำให้ฟิล เทย์เลอร์ ผู้จัดการทีม ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก เนื่องจากใน 3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ ทีมก็ไม่สามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดได้ สถานการณ์ของลิเวอร์พูลยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อทีมแพ้รวดตลอดเดือนตุลาคม แม้จะชนะแอสตันวิลลา ในต้นเดือนพฤศจิกายน ทำให้แฟนบอลเริ่มเห็นแววความหวัง แต่ความหวังนั้นก็ดับลงอย่างรวดเร็วหลังจากพ่ายให้กับลินคอล์นซิตี ทีมที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นถึง 2–4 นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับเทย์เลอร์ที่ลาออกในอีก 3 วันต่อมา โดยทีมยังอยู่อันดับที่ 11 บ็อบ เพสลีย์ อดีตกัปตันทีมที่ผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวใน 2 นัดถัดมา ซึ่งเอาชนะเลย์ตันโอเรียนท์ 4–3 จากนั้นแพ้ 0–1 ต่อฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ซึ่งผู้จัดการทีมฮัดเดอร์สฟิลด์ทาวน์ในขณะนั้นคือบิลล์ แชงคลี และบิลล์ แชงคลีตกลงเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลคนใหม่ไม่นานหลังจากนัดนี้

ภายใต้การคุมทีมของแชงคลี ฟอร์มการเล่นของลิเวอร์พูลมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้โอกาสในการเลื่อนชั้นดูเป็นไปได้มากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ท้ายที่สุดแล้ว ฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวาในช่วงต้นฤดูกาล รวมถึงผลงานที่ย่ำแย่ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสในการเลื่อนชั้น แม้ว่าการจบอันดับที่สามจะเป็นอันดับที่ดีขึ้นหนึ่งอันดับเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อนหน้าก็ตาม (ในยุคนั้นยังไม่มีระบบเพลย์ออฟหาทีมเลื่อนชั้นเป็นทีมที่ 3 เหมือนในปัจจุบัน)

อ้างอิง

 

Prefix: a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

Portal di Ensiklopedia Dunia