สุดทางร็อก
สุดทางร็อก (อังกฤษ: Sound of Metal) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวดรามา ปี 2019 กำกับการแสดงและเขียนบทภาพยนตร์โดยดาริอัส มาร์เดอร์ นำแสดงโดยริซ อาห์เมด และ โอลิเวียร์ คุก ร่วมด้วยพอล เรซี, ลอเรน ริดลอฟฟ์ และ มาตีเยอ อมาลริค ในบทบาทนักแสดงสมทบ ออกเผยแพร่ครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต ครั้งที่ 44 ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2019 และปีต่อมาอเมซอน สตูดิโอส์ได้นำออกฉายแบบจำกัดโรงภาพยนตร์ในช่วงสั้นๆเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2020 ก่อนจะเปิดให้รับชมในรูปแบบสตรีมมิงผ่านทาง อเมซอน ไพรม์วิดีโอ เป็นช่องทางหลักเมื่อ 4 ธันวาคม 2020 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับกระแสคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการออกแบบเสียงที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนค่อยๆสูญเสียการได้ยินไปทีละน้อยเช่นเดียวกับ รูเบน ซึ่งเป็นตัวละครหลัก รวมถึงการออกแบบเสียงที่ได้ยินในชีวิตประจำวันของตัวละครแต่ละตัวที่มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเสียงที่ตัวละครอย่าง รูเบน จะสัมผัสได้ในแต่ละฉาก นอกจากนี้ยังได้มีการจำลองระบบกลไกทางเสียงของระบบประสาทหูเทียมและมีการออกแบบเสียงเงียบได้อย่างละเอียดลออ สำหรับในส่วนของนักแสดง ริซ อาห์เมด ได้รับคำชื่นชมและคำวิจารณ์ที่ดี ในบทบาทนักแสดงนำ จนทำให้เขาได้รับรางวัลอินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์ในฐานะนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดรามา โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 2020 โดยนักวิจารณ์ภาพยนตร์ 52 คน รวมทั้งได้รับรางวัลออสการ์ 2 สาขา ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 93 ได้แก่สาขาออกแบบเสียงยอดเยี่ยม และ สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม จากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 6 สาขา , ได้รับรางวัลแบฟตา 2 สาขา ได้แก่ตัดต่อภาพยอดเยี่ยมและบันทึกเสียงยอดเยี่ยม และได้รางวัลอินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์อีก 3 สาขา ในประเทศไทยนอกเหนือจากการรับชมทางระบบสตรีมมิงผ่านอเมซอน ไพรม์วิดีโอแล้ว ยังเปิดให้รับชมในรูปแบบวิดีโอ ออน ดีมานด์ ผ่านทางทรู ไอดี, กูเกิล เพลย์และไอทูนส์ นอกจากนี้ยังถูกนำออกจัดจำหน่ายในรูปแบบบลูเรย์ ระดับความคมชัด Full-HD พร้อมคำบรรยายภาษาไทย ในชื่อ สุดทางร็อก โดยบูมเมอแรง เนื้อเรื่องภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ รูเบน สโตน (แสดงโดย ริซ อาห์เมด ผู้รับบท คาร์ลตัน เดรค จาก เวน่อม และ โพธิ รุก จาก โร้ค วัน: ตำนานสตาร์ วอร์ส) มือกลองหนุ่มของวงดนตรีแนวเฮฟวีเมทัลชื่อว่า แบล็คแกมมอน ที่มีสมาชิกอีกคนคือ ลู เบอร์เกอร์ (แสดงโดย โอลิเวีย คุก นักแสดงนำหญิงจาก สงครามเกมคนอัจฉริยะ) ตำแหน่งนักร้องนำ-มือกีตาร์ของวง และเป็นแฟนสาวของรูเบนด้วย ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในรถบ้านและออกเดินทางเล่นคอนเสิร์ตด้วยกันไปทั่วสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งวันหนึ่งรูเบนพบว่าตนเองเริ่มสูญเสียการได้ยิน จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ซึ่งแพทย์ได้ทำการทดสอบและพบว่าเขาสามารถได้ยินเสียงต่างๆได้เพียง 20–30 เปอร์เซ็นต์ โดยความสามารถทางการได้ยินของเขาจะยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้เขาผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมหรือหลีกเลี่ยงเสียงดัง แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงเขาจึงยังคงเล่นคอนเสิร์ตต่อไป สถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่จะกระทบต่อการเล่นดนตรีของเขา มันยังกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูอีกด้วย ลูตัดสินใจส่งรูเบนที่สภาพจิตใจย่ำแย่และต้องฟื้นฟูจากยาเสพย์ติดให้ไปยังสถานพักฟื้นทางจิตใจสำหรับผู้สูญเสียการได้ยินด้วยหวังว่าจะช่วยให้รูเบนปรับตัวได้ ที่แห่งนี้รูเบนได้พบกับ โจ (แสดงโดย พอล เรซี) เจ้าของสถานพักฟื้น ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึกผู้สูญเสียการได้ยินจากเหตุระเบิดในสงครามเวียดนาม รวมถึงได้พบกับผู้เข้ารับการบำบัดคนอื่นๆ รูเบนได้ปรับตัว สร้างมิตรภาพ รับรู้ถึงความสบายใจที่เกิดจากความสงบเงียบ รวมทั้งทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาเคยคิดว่ามันคือสิ่งเลวร้ายในชีวิต นอกจากนี้รูเบนยังได้สมัครเรียนภาษามือกับ ไดแอน (แสดงโดย ลอเรน ริดลอฟฟ์ จาก เดอะวอล์กกิงเดด ซีซั่น 9–10) ร่วมกับเด็ก ๆ ที่พิการทางการได้ยิน โดยเขาได้สอนพื้นฐานการตีกลองให้กับเด็กๆและไดแอน รูเบนได้ใช้ชีวิตร่วมกับทุกคนเพื่อค้นพบกับความหมายบางอย่างของชีวิตที่เขาไม่เคยพบมาก่อนเมื่อครั้งยังได้ยินทุกเสียงแบบคนปกติ นักแสดง![]()
กระแสตอบรับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคะแนนจากรอตเทนโทเมโทส์ 97 เปอร์เซ็นต์ จาก 260 บทวิจารณ์ โดยมีคะแนนเฉลี่ย 8.2 / 10 ซึ่งส่วนใหญ่นักวิจารณ์ภาพยนตร์ได้มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้ชมได้มองย้อนไปถึงประสบการณ์ที่มีต่อกลุ่มคนหูหนวก โดยการแสดงอันทรงพลังและเข้าถึงบทบาทของ ริซ อาห์เมด ทำให้ Sound of Metal เป็นภาพยนตร์ที่ดูน่าสนใจและมีชีวิตชีวา[2] ส่วนในเมทาคริติก ภาพยนตร์เรื่องนี้มีคะแนนเฉลี่ย 82 จาก 100 คะแนน โดยนักวิจารณ์ภาพยนตร์ 36 คน[3] นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังได้รับกระแสวิจารณ์เชิงบวกจากสื่อทั่วโลก โดยหนังสือพิมพ์ดิอินดีเพ็นเดนต์ของสหราชอาณาจักรให้คะแนน 4 จาก 5 ดาว พร้อมกับยกย่องดารีอัส มาร์เดอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ และ ริซ อาห์เมด นักแสดงนำ[4] อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia