สลาวิชา ยอกานอวิช
สลาวิชา ยอกานอวิช (เซอร์เบีย: Slaviša Jokanović; เกิดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2511) เป็นนักฟุตบอลชาวเซอร์เบีย เล่นในยุค 1990-2000 เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ เขามีเอกลักษณ์คือ ลูกโหม่งกลางอากาศที่ยอดเยี่ยม ประวัติการเล่นฟุตบอลวอยวอดีนายอกานอวิชเกิดที่เมืองนอวีซาด เมืองในสาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย เริ่มเล่นฟุตบอลที่บ้านเกิดของตนในชุดเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลนอวีซาด ทำให้เขาได้ก้าวขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่อย่างรวดเร็วโดยได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมในสโมสรฟุตบอลวอยวอดีนา ด้วยอายุ 20 ปี ของเขาซึ่งช่วยให้ทีมวอยวอดีนาคว้าอันดับหนึ่งของลีกนานาชาติ ได้ในฤดูกาล 1988-89 ด้วยการยิงไป 4 ประตู และลงเล่นไป 24 นัด พาร์ทีซันในปี 1990 ยอกานอวิชได้ทำสัญญากับสโมสรฟุตบอลพาร์ทีซัน ในปีที่สองของเขาเขาช่วยสโมสรชนะถ้วยในประเทศและในสามฤดูกาลของเขายิงได้อย่างน่าประทับใจโดยเฉพาะ 13 ประตูในลีก ยอกานอวิชเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลายคนที่ให้ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ได้ลีก ซึ่งเขาได้ช่วยให้สโมสรได้ 103 คะแนน จากการลงเล่น 36 นัดทั้งหมด เรอัลโอบิเอโด / เตเนริเฟหลังจากการโชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจของ สโมสรฟุตบอลพาร์ทีซัน ยอกานอวิชเซ็นสัญญากับเรอัลโอบิเอโดใน สเปน โดยในช่วงสองฤดูกาลของเขาที่อยู่กับโอบิเอโด เขาได้พบเพื่อนจากประเทศเดียวกันหลายคน เช่น วานโก วานโควิช, นิโคลา เยอร์คาน, โรเบิร์ต โพรชายเนสกี ต่อจากนั้นเขาได้เซ็นสัญญากับทีมในลาลิกาอย่างเซเด เตเนริเฟ โดยเป็นสื่อในการรวมกานาเรียส ซึ่งสี่ฤดูกาลที่เขาอยู่กับเตเนริเฟเขาได้ลงเล่นมากกว่า 120 นัด และทำประตูไปได้ 17 ประตู โดยเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญขอเตเนริเฟในยุดนั้นเลยก็ว่าได้ เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญาในปี 1999 ในช่วงฤดูร้อน ยอกานอวิชในอายุ 31 ปี ทำสัญญากับเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา ซึ่งเขามีกองกลางชาวบราซิลสองคนอย่างมาอูรู ซิลวา และโดนาตู กามา ดา ซิลวา มาช่วยกันทำเกมและตัดเกมจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งทั้งสามคนเป็นกองกลางคนสำคัญที่มีส่วนร่วมทำให้ลาโกรุญญาคว้าแชมป์ลาลิกามาครองได้สำเร็จในฤดูกาล 1999-2000 เชลซี / เรอัลมูร์เซียหลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งฤดูกาลกับลาโกรุญญา ยอกานอวิชก็ทำสัญญากับสโมสรฟุตบอลเชลซี ทีมในพรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2000 ด้วยค่าตัว 1.7 ล้านปอนด์ เขาได้ลงเล่นค่อนข้างน้อยในช่วงสองฤดูกาลเพราะอายุที่เริ่มมากขึ้นและถูกปล่อยตัวในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2002 ในวัย 34 ปี[1] และแขวนสตั๊ดของเขาในช่วงที่สองกับการย้ายมาเล่นในลีกสเปนกับเรอัลมูร์เซีย ซึ่งได้แค่สามเดือน และลงสนามเพียง 6 นัดเท่านั้น ประวัติการคุมสโมสรพาร์ทีซันยอกานอวิชอาศัยอยู่ในมาดริดตอนที่เขาเข้ามาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 อย่างไรก็ตามสามเดือนต่อมาเขาก็กลายเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรฟุตบอลพาร์ทีซัน ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008 ทีมพาร์ทีซันสามารถคว้าทั้งแชมป์ลีกและแชมป์ถ้วยภายใต้การคุมทีมของยอกานอวิช ยอกานอวิชยังได้รับการคัดเลือกให้เป็น "ผู้ฝึกสอนที่ดีที่สุดในเซอร์เบีย" จากสมาคมฟุตบอลเซอร์เบีย แต่เขาปฏิเสธที่จะรับรางวัลนี้เนื่องจากพาร์ทีซันทำผลงานได้แย่ในถ้วยยุโรปอย่างยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 2008-09 รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาลแรกในการเป็นผู้จัดการทีมของเขา ยอกานอวิชนำพาร์ทีซันชนะในลีกกับพร้อมกับแซงหน้าอดีตสโมสรเก่าที่เคยเล่นอย่างสโมสรฟุตบอลวอยวอดีนา ดังนั้นเขาก็กลายเป็นผู้ฝึกสอนคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2009 เขาก็ออกจากตำแหน่งโดยความยินยอมร่วมกัน[2] ด้วยการอำลาสโมสรประมูลผ่านจดหมายเปิดผนึก[3] เมืองทอง ยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ทำสัญญากับยอกานอวิชอย่างเป็นทางการ เขาได้ลงคุมทีมนัดแรกในนัดกระชับมิตรก่อนเปิดฤดูกาลกับสโมสรฟุตบอลจังหวัดนครราชสีมา ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 จังหวัดนครราชสีมา ผลเสมอกันไป 0-0 ส่วนการคุมทีมลงสนามไทยพรีเมียร์ลีก 2555 นัดแรก ลงสนามพบกับบีอีซีเทโร ศาสน ที่สนามเอสซีจีสเตเดียม ผล เมืองทองฯ ชนะ 2-1 โดยเมืองทองฯ ได้ประตูจากลูกยิงไกลของดัสกร ทองเหลา และการโหม่งทำประตูของดาโน เซียกา ในช่วงท้ายเกม และในฤดูกาล 2555 นี้ได้พาทีมเมืองทองยูไนเต็ดคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 3 พร้อมสถิติทำไร้พ่าย เกียรติประวัติผู้เล่นวอยวอดีนา พาร์ทีซัน ลาโกรุญญา ผู้ฝึกสอนพาร์ทีซัน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ฟูลัม รางวัลส่วนตัว
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia