ศาลยุติธรรม เป็นศาลที่มีอำนาจพิพากษาคดีความที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด ยกเว้นคดีที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือกฎหมายไทยบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น มี 3 ชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา
โครงสร้างศาลยุติธรรม
ศาลยุติธรรมทั้ง 3 ชั้น มีจำนวนรวม 274 ศาล และ 9 สาขา[3]
- ศาลชั้นต้น มีจำนวน 262 ศาล (9 สาขา) แบ่งเป็น 3 หมวดหลัก คือ
- ไม่สังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาประจำภาค 1 - 9 อาทิ ศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี ศาลจังหวัด ศาลแขวง และศาลยุติธรรมอื่นที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลนั้นกำหนดให้เป็นศาลชั้นต้น เช่น ศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลแรงงาน ศาลภาษีอากร ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ศาลล้มละลาย
- ศาลแพ่ง เป็นศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งทั้งปวงและคดีอื่นใดที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมอื่น ศาลแพ่งมีเขตตลอดท้องที่กรุงเทพมหานคร นอกจากท้องที่ที่อยู่ในเขตของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลจังหวัดมีนบุรี และศาลยุติธรรมอื่นตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลนั้นกำหนดไว้ ในกรณีที่มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง และคดีนั้นเกิดขึ้นนอกเขตของศาลแพ่ง ศาลแพ่งอาจใช้ดุลพินิจยอมรับไว้พิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งโอนคดีไปยังศาลยุติธรรมอื่นที่มีเขตอำนาจ
- ศาลอาญา เป็นศาลชั้นต้นซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร นอกจากท้องที่ที่อยู่ในเขตของศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี และศาลจังหวัดมีนบุรี แต่บรรดาคดีที่เกิดขึ้นนอกเขตอำนาจศาลอาญานั้นจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญาก็ได้ ทั้งนี้อยู่ในดุลพินิจของศาลอาญาที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีใดคดีหนึ่งที่ยื่นฟ้องเช่นนั้นก็ได้ เว้นแต่คดีนั้นจะโอนมาตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ทำการศาลอาญาตั้งอยู่ที่ ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
- สังกัดสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาประจำภาค 1 - 9
- ศาลจังหวัด จำนวน 111 ศาล
- ศาลแขวง จำนวน 39 ศาล
- ศาลชำนัญพิเศษที่อยู่ในสังกัด ได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด จำนวน 76 ศาล
- ศาลสาขา จำนวน 9 ได้แก่
- ศาลจังหวัดสีคิ้ว สาขาปากช่อง
- ศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย
- ศาลจังหวัดน่าน สาขาปัว
- ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย
- ศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า
- ศาลจังหวัดพิษณุโลก สาขานครไทย
- ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สาขามีนบุรี
- ศาลแรงงานภาค 1 สาขาพระนครศรีอยุธยา
- ศาลแรงงานภาค 2 สาขาระยอง
- ศาลอุทธรณ์ ได้แก่ ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค และศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ มีจำนวน 11 ศาล ประกอบไปด้วย
- ศาลอุทธรณ์
- ศาลอุทธรณ์ภาค 1
- ศาลอุทธรณ์ภาค 2
- ศาลอุทธรณ์ภาค 3
- ศาลอุทธรณ์ภาค 4
- ศาลอุทธรณ์ภาค 5
- ศาลอุทธรณ์ภาค 6
- ศาลอุทธรณ์ภาค 7
- ศาลอุทธรณ์ภาค 8
- ศาลอุทธรณ์ภาค 9
- ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
ภาพศาลฎีกา - ศาลยุติธรรมชั้นสูงสุดของประเทศไทย
- ศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลยุติธรรมสูงสุด
- ศาลฎีกา ในประเทศไทยที่มีอยู่เพียงศาลเดียว
สำนักงานศาลยุติธรรม
สำนักงานศาลยุติธรรมCourt of Justice Office |
 ตราสัญลักษณ์ |
ภาพรวมสำนักงาน |
---|
ก่อตั้ง | 20 สิงหาคม พ.ศ. 2543; 24 ปีก่อน (2543-08-20) |
---|
สำนักงานก่อนหน้า | - สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
|
---|
ประเภท | ส่วนราชการ |
---|
เขตอำนาจ | ทั่วราชอาณาจักร |
---|
สำนักงานใหญ่ | เลขที่ 55 อาคารสำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 |
---|
บุคลากร | 10,695 คน (พ.ศ. 2566)[1] |
---|
งบประมาณต่อปี | 22,677,201,300 บาท (พ.ศ. 2568)[1] |
---|
ฝ่ายบริหารสำนักงาน | - ธีรทัย เจริญวงศ์, เลขาธิการ
- ภพ เอครพานิช, รองเลขาธิการ
- เผ่าพันธ์ ชอบน้ำตาล, รองเลขาธิการ
- พรนิภา ธนาธรรมนันท์, รองเลขาธิการ
- มาดี ธรรมสัจจกูล, รองเลขาธิการ
|
---|
ต้นสังกัดสำนักงาน | ศาลยุติธรรม |
---|
เว็บไซต์ | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
---|
สำนักงานศาลยุติธรรม เป็นองค์กรอิสระที่ดูแลงานธุรการของศาลยุติธรรม มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีอิสระในการบริหารงานบุคคลการงบประมาณและการดำเนินการอื่น ตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยมีเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้บังคับบัญชาขึ้นตรงต่อประธานศาลฎีกา ซึ่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องได้รับการแต่งตั้งโดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมก่อน โดยในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ธีรชัย เจริญวงศ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แทนธานี สิงหนาท ที่โอนกลับไปเป็นข้าราชการตุลาการ
ปัจจุบันมีสำนักงานศาลยุติธรรมที่ทำการตั้งอยู่ที่เลขที่ 55 อาคารสำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ด้านหลังอาคารศาลอุทธรณ์ โดยมีพิธีบวงสรวงและอัญเชิญตราแผ่นดินขึ้นประดิษฐานบนอาคารเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566[4] จากนั้นสำนักงานศาลยุติธรรมได้ย้ายที่ทำการจากอาคารศาลอาญาเดิมมาตั้งอยู่ที่อาคารใหม่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2567[5] และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารนี้เมื่อวันที่ 21 กันยายน[6]
โครงสร้างสำนักงานศาลยุติธรรม
ศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกา
- สำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.)
- สำนักคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.)
- สำนักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม (ก.ศ.)
ศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกา
- สำนักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
- รองเลขาธิการ สำนักงานศาลยุติธรรม
- สำนักตรวจสอบภายใน
- สำนักอำนวยการประธานศาลฎีกา
- สำนักประธานศาลฎีกา
- สำนักงานศาลยุติธรรมประจำภาค 1 - 9
- สำนักอำนวยการประจำศาล
- สำนักงานประจำศาล
สำนักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
- สำนักคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม
- สถาบันวิจัยและพัฒนารพีพัฒนศักดิ์
- สำนักการเจ้าหน้าที่
- สำนักบริหารทรัพย์สิน
- สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
- ศูนย์รักษาความปลอดภัย
- สำนักงานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
- สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
- สำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรม
- สำนักกิจการคดี
- ศูนย์วิทยบริการศาลยุติธรรม
- กองสวัสดิการศาลยุติธรรม
- สำนักการแพทย์
- สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม
- สำนักแผนงานและงบประมาณ
- สำนักการคลัง
- สำนักบริหารงานออกแบบและก่อสร้าง
- สำนักการต่างประเทศ
- สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ
- สำนักส่งเสริมงานตุลาการ
- สำนักอนุญาโตตุลาการ (หรือสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม)
- กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์
- สำนักบริหารกลาง
- ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำนักงานศาลยุติธรรม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
กระทรวง | | |
---|
อดีต | |
---|
องค์กรตามรัฐธรรมนูญ | ศาล | |
---|
ศาลรัฐธรรมนูญ | |
---|
องค์กรอิสระ | |
---|
องค์กรอัยการ | |
---|
|
---|
|