วรรณยศ มิตรานนท์
นาย วรรณยศ มิตรานนท์[1] ชื่อเล่น ต๊อด วัน เดือน ปีเกิด 28 พฤศจิกายน 2492 (อายุ 75 ปี) เล่นกลองและร้องเพลงเป็นอาชีพประจำตัว เมื่อวัยเยาว์ อาศัยอยู่บ้านคุณปู่-คุณย่าในย่านสะพานวันชาติ เข้าเรียนชั้นประถมตอนต้น ป.1-2 ที่โรงเรียนดำเนินศึกษา ถ.วิสุทธิกษัตริย์ แล้วย้ายมาอยู่บ้านคุณตา-คุณยายในย่านบางลำภูล่าง เข้าเรียน ป.3-4 ที่โรงเรียนวัดเศวตฉัตร จนจบชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ปี 2502 ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดสุทธิวรารามในชั้น ม.1 และจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในปีการศึกษา 2508 เนื่องจากเวลานั้นทางบ้านได้ก่อตั้งวงดนตรีขึ้นการเรียนจึงตกลง (ไม่สนใจการเรียนเท่าที่ควร) ทำให้ไม่อยากเรียนต่อหวังที่จะหันมาเอาดีทางการเล่นดนตรี ตั้งใจไว้ว่าจะเรียนเพิ่มเติมต่อในภายหลังเมื่อมีโอกาสให้จบมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกอบกับมีแรงจูงใจการเล่นกลองมาจากวงดุริยางค์ของโรงเรียนวัดสุทธิวรารามซึ่งเคยขออนุญาตจากทางบ้านหวังจะได้เล่นในวงดุริยางค์ของโรงเรียน แต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอด พอได้โอกาสจึงมุมานะฝึกช้อมอย่างหนักด้วยตัวเองเพราะสมัยนั้นจะหาโรงเรียนสอนดนตรียากมากที่สำคัญต้องแอบฝึกจนเล่นเข้าวงได้ซึ่งก็แอบดูจากรุ่นพี่ๆ แอบซ้อมเวลาเขากลับบ้านกันแล้ว เมื่อเริ่มเข้าสู่วงการดนตรีอาศัยที่มีคุณลุงเป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง คุณลุง สกนธ์ มิตรานนท์ ได้ให้แนวทางในการที่จะทำตัวอย่างไรให้เป็นศิลปินที่ดี ได้ซึมชับการเล่นดนตรีจากรุ่นพี่ๆมาทำให้มีความฮึกเหิมที่กล้าแสดงออก เริ่มต้นชีวิตนักดนตรีอาชีพ ในปี 2509 มีผู้ประกอบการร้านอาหารใน จ.อุบลราชธานี มาติดต่อให้ไปแสดงประจำที่นั่น ยุคนั้นเป็นยุคที่มีทหารอเมริกัน จีไอ มาประจำอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ โดยเฉพาะทางภาคอีสาน เพื่อไปรบในสงครามเวียตนาม[2] ประสบการณ์ครั้งแรกที่ต้องออกไปแสดงดนตรีกับวงที่บ้านตั้งขึ้นโดยมีพี่ชายคนหนึ่งและเพื่อนอีก 2 คนได้ไปเจอผู้ชมซึ่งเป็นฝรั่งทั้งนั้นทำให้ต้องฝึกภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารเบื้องต้นจนต่อมาก็มีความชำนาญสามารถใช้เป็นภาษาที่ 2 ได้ประสบการณ์ที่เมื่อเราได้มีการพบปะสังสรรค์กับคนอเมริกัน แน่นอนเราจะต้องได้พบกับผู้มีความรู้ในการเล่นกลอง[3]อย่างถูกวิธี จึงขอศึกษาจากเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อเราฝึกได้แล้วก็เอามาพัฒนาใช้ต่อไป การเดินทางออกต่างประเทศ เมื่อสงครามเวียตนามยุติลงในปี 2518 ได้รวมตัวกับเพื่อนๆตั้งวงดนตรี The Reasons เดินทางไปแสดงที่ประเทศไต้หวัน 2 ครั้งๆละ 2 เดือนเมื่อกลับมาเพื่อนๆก็ขอแยกย้ายไปทำภารกิจส่วนตัว เลยย้อนกลับไปไต้หวันเพียงลำพัง เป็นเวลา 4 ปี การใช้ชีวิตจึงต้องฝึกภาษาจีนกลางเพื่อสื่อสารกับนักดนตรีท้องถิ่นจนสามารถใช้ภาษาจีนกลางได้เป็นภาษาที่ 3 ปี 2525 กลับบ้าน อาศัยประสบการณ์ดนตรีที่ผ่านมาต้องการเปลี่ยนแนวดนตรีที่เคยเล่นให้พัฒนาขึ้น ปี 2526 ได้รับการชักชวนจาก คุณ โอสถ ประยูรเวช (แฮงค์) มาตั้งวง Bangkok Connection เล่นดนตรีประเภท Fusion Jazz & Funky ได้ร่วมเล่นดนตรีกับ คุณ เมธวัช (เทวัญ) ทรัพย์แสนยากร วง Tewan Novel Jazz เดินทางไปแสดงในประเทศอเมริกา ยุโรป และงานเทศกาลดนตรีแจ๊สในประเทศ อินโดนีเชีย มาเลเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ได้รู้จักและร่วมแสดงดนตรีกับนักดนตรีต่างประเทศระดับนานาชาติมากมาย ต่อมาได้ร่วมงานกับวงดนตรี Infinity มีผลงานที่บันทึกเสียงด้วยกันใน อัลบั้ม Four Colors เป็นผลงานที่ออกสู่ต่างประเทศ ปัจจุบันยังคงร้องเพลงอยู่กับวง Infinity ผลงานส่วนตัวที่ผ่านมา อัลบั้ม Four Colors กับวง Infinity ขับร้องเพลง You'll be mine คู่กับคุณ สุภาวดี บุญมี อัลบั้ม Night Wings (ปีกฝัน) กับวง Infinity เพลง Love matter คู่กับ Ms Angelita Lee อัลบั้ม Together กับวง Infinity เพลง Another Chance อัดเสียงกลองชุดแรกให้วง Soul After Six[4] อัดเสียงกลองอัลบั้มเดี่ยวของคุณ ปรีชา ชนะภัย (เล็ก คาราบาว) 4 ชุดตั้งแต่ชุด ดนตรีที่มีวิญญาณ, นางาซากิ, ฯลฯ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง อุปนายกฝ่ายศูนย์ประสานงาน และ ต่างประเทศ สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากการที่มีประสบการณ์และผ่านการทำงานในวงการดนตรีและขับร้องมากว่า 50 ปีจนเป็นที่ยอมรับทั้งนักดนตรีอาชีพและผู้ฟัง จึงได้รับการเชิดชูเกียรติมอบรางวัล "ผู้มีคุณูปการกับวงการดนตรีแจ๊ส ประเทศไทย" Thailand International Jazz Conference Lifetime Achievement Award 2019 โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นคนที่ 11
|
Portal di Ensiklopedia Dunia