ลีนา จังจรรจา
ลีนา จังจรรจา เป็นที่รู้จักในชื่อ ลีน่าจัง (เกิด 14 กันยายน พ.ศ. 2502) นักธุรกิจ ทนายความ และ พิธีกรสตรีชาวไทย เป็นอดีตเจ้าของสถานีโทรทัศน์ฮอตทีวี อดีตหัวหน้าพรรคมหาประชาชน เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี 2547, 2551 และ 2552 นอกจากนี้ ยังเปิดร้านขายเครื่องสำอาง "ไฮโซไซตี้" ที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์[2] ประวัติลีนาเกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน มีชื่อแต่แรกเกิดว่า ลีนา แซ่จัง เป็นบุตรคนที่ 9 จากทั้งหมด 12 คน บิดาชื่อ คี่หงอ แซ่จัง มารดาชื่อ ล่วงมุ้ย แซ่ตั้ง[1] ลีนาสมรสกับวันชัย แสงพรศรีอรุณ มีบุตรชายด้วยกันสองคน ต่อมาหย่าร้างกัน ลีนากล่าวถึงที่มาของชื่อว่า บิดามารดาของเธอนั้นเป็นชาวจีนอพยพ ทำอาชีพขายน้ำตาลสด ไม่รู้ภาษาไทย เมื่อบิดาของเธอไปแจ้งเกิดที่อำเภอ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตั้งชื่อจริงภาษาไทยให้เธอ ปรากฏว่าช่วงนั้นมีภาพยนตร์อินเดียที่มีชื่อเสียงเรื่องหนึ่งมีนางเอกชื่อ ลีนา เจ้าหน้าที่จึงตั้งชื่อดังกล่าวให้ ส่วนนามสกุล "จังจรรจา" เธอได้เปลี่ยนใน พ.ศ. 2547 เมื่อครั้งลงสมัครเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร [3] ลีนาสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง[4] เคยร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองในการขับไล่พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี โดยแต่งกายฉูดฉาด เพราะอยากเป็นจุดเด่น และยังแต่งกายลักษณะเดียวกันเข้าชมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ลีนาเปิดและเป็นประธานบริษัทขายส่งเครื่องสำอาง ตั้งร้านชื่อไฮโซไซตี้อยู่ที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ ลีนายังเปิดมูลนิธิลีนา เพื่อให้การช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ประชาชน และเคลื่อนไหวทางการเมือง[5] ลีนาเป็นจุดเด่นเพราะมักปฏิบัติกิจกรรมโดยแต่งกายฉูดฉาด เมื่อรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกถอดออกจากช่อง 9 ลีนาก็ได้มอบดอกไม้ให้แก่สนธิ ลิ้มทองกุล และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ระหว่างดำเนินรายการนอกสถานเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2548 วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ลีนาให้ข่าวแก่เอเอสทีวีผู้จัดการว่า สภาทนายความแห่งประเทศไทยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ให้เงินเจ็ดหมื่นบาทแก่แม่บ้านของนาธาน โอมาน และการให้สัมภาษณ์ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยโดยไม่เหมาะสม[6][7] วันที่ 17 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่อุทยานได้ดำเนินคดีตามความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ตามมาตรา 16 ฐานเข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่าด้วยการเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์ในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ในมาตรา 27 นอกจากนี้ยังมีความผิดในมาตรอื่นๆ หลายมาตรา ขณะนี้แจ้งความร้องทุกข์กับ สภ.สามร้อยยอดไว้แล้ว[8] เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 ลีนา จังจรรจา ได้เฟซบุ๊กไลฟ์กลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมือง พร้อมทั้งได้โทรศัพท์ไปยังคอลเซ็นเตอร์ของห้าง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความไม่พอใจที่มีต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง หลังจากถูกค้นกระเป๋าก่อนเข้าห้างสรรพสินค้า เธอกล่าวว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างปฏิบัติต่อเธอไม่สุภาพ ต่อมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกมากล่าวว่าเขาปฏิบัติตามหน้าที่ตามปกติ เขาก็ไม่ได้ไม่สุภาพหรือกร่างอะไรกับเธอเลย แค่ขอตรวจกระเป๋า เรื่องนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว[9][10] ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 ในช่วงท้ายของการออกอากาศสดผ่านยูทูบที่บ้านของคชาภา ตันเจริญ ลีนาได้ดึงวิกผมของ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือแพรรี่ ซึ่งเป็นผู้ร่วมรายการดังกล่าว ตามด้วยการหัวเราะ หลังจากนั้นไพรวัลย์ได้ไลฟ์สดระบุการกระทำดังกล่าวเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีของตน และประกาศไม่ร่วมงานกับลีนาอีก[11] ด้านลีนาได้แจ้งความไพรวัลย์และผู้มาคอมเมนต์ในโซเชียลอีกจำนวนหนึ่ง ข้อหาหมิ่นประมาท อีกทั้งอ้างว่าการกระทำของตนนั้นเป็นการแสดง มิได้เจตนาทำให้อับอาย และยังพร้อมร่วมงานกับไพรวัลย์อีกในโอกาสต่อไป[12] นอกจากนี้เธอยังระบุว่าหลังเกิดเหตุตนถูกสื่อบางส่วนประณาม และอ้างว่าตนเป็นเหยื่อจากเหตุดังกล่าว[13] ในเดือนกันยายน 2567 รายการ โหนกระแส มีการพาดพิงลีน่าจัง ในประเด็นร้านทองที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ต่อมาลีน่าจังได้ตอบกลับประเด็นถึงกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการดังกล่าว โดยใช้ถ้อยคำเสียดสีดูหมิ่นกรรชัยและลูกสาว[14] ต่อมาเขาเรียกค่าเสียหายจากลีน่าจัง 5 ล้านบาท[15][16] ผลงานการแสดง
บทบาททางการเมือง
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia