รหัสลับระทึกโลก
รหัสลับระทึกโลก (อังกฤษ: The Da Vinci Code) เป็นภาพยนตร์แนวลึกลับ/ระทึกขวัญในปี ค.ศ. 2006 กำกับและร่วมอำนวยการสร้างโดยรอน ฮาวเวิร์ด โดยดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง รหัสลับดาวินชี ของแดน บราวน์ นำแสดงโดยทอม แฮงส์ในบท โรเบิร์ต แลงดอน นักสัญลักษณ์วิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สมทบด้วยออเดรย์ ตาตู, เอียน แมคเคลเลน, อัลเฟรด โมลินา, ฌ็อง เรโนและพอล เบ็ตตานีย์ รหัสลับระทึกโลก ออกฉายรอบปฐมทัศน์ในคืนวันเปิดตัวที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2006[3] ออกฉายรอบปกติในหลายประเทศทั่วโลกเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 และออกฉายในสหรัฐอเมริกาโดยโคลัมเบียพิกเจอส์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 เนื่องจากเกิดข้อพิพาทและการตีความหมายไม่ถูกต้องทางด้านประวัติศาสตร์ รวมถึงการต่อต้านจากคาทอลิกเหมือนเช่นที่ฉบับหนังสือได้รับ ภาพยนตร์ก็ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากนิกายโรมันคาทอลิก บางโบสถ์แนะให้ฆราวาสต่อต้านภาพยนตร์เรื่องนี้[4] การออกฉายในช่วงแรกถูกประท้วงและเสียงวิจารณ์ในช่วงแรกเป็นในทางลบ อย่างไรก็ตามจากกระแสด้านลบนี้ทำให้เกิดกระแสภาพยนตร์เล็กน้อยทำให้ขึ้นอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศ ทำรายได้ 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกในสัปดาห์ออกฉาย ในเวลานั้นถือว่าสร้างสถิติภาพยนตร์ที่เปิดตัวได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ (ติดอันดับ 7 ของรายได้เปิดตัวสูงสุด) และทำรายได้มากที่สุดทั่วโลกอันดับ 2 ในปี 2006 โดยทำรายได้ 758,239,851 ดอลลาร์สหรัฐ จากข้อมูลวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2006 และหลังจากนั้นได้มีภาพยนตร์ภาคต่อ เทวากับซาตาน ที่รอน ฮาวเวิร์ดกำกับเช่นกัน เพลงประกอบภาพยนตร์ประพันธ์โดยฮันส์ ซิมเมอร์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปี 2007 ในสาขาเพลงบรรเลงยอดเยี่ยม เรื่องย่อฌาคส์ โซนิแยร์ ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ถูกซิลาส นักบวชผิวเผือกเค้นถามถึง "หลักศิลา" กุญแจซึ่งนำไปสู่จอกศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะถูกฆ่า ตำรวจพบร่างของโซนิแยร์อยู่ในลักษณะคล้ายภาพ "วิทรูเวียนแมน" เบซู ฟาช สารวัตรของกรมตำรวจฝรั่งเศสเชิญตัวโรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์วิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่พักอยู่ในปารีสมาที่เกิดเหตุ แลงดอนพบลำดับเลขฟีโบนัชชีที่ซ่อนอยู่ ต่อมาโซฟี เนอเวอ นักถอดรหัสจากกรมตำรวจและหลานสาวของโซนิแยร์บอกแลงดอนว่าฟาชแอบติดเครื่องติดตามที่ตัวแลงดอนเพราะสงสัยว่าแลงดอนเป็นคนฆ่าโซนิแยร์ เนื่องจากมีข้อความที่โซนิแยร์เขียนไว้ก่อนตายว่า "ตามหาโรเบิร์ต แลงดอน" และฟาชลบออกก่อนที่แลงดอนจะมาถึง แลงดอนและโซฟีทำลายเครื่องติดตามและตามลำดับเลขไปที่ผลงานของเลโอนาร์โด ดา วินชี จนแลงดอนอนุมานได้ว่าโซนิแยร์เป็นประมุขของสมาคม "ไพรเออรีออฟไซออน" ด้านซิลาสที่ทำงานให้กับบิชอปอาริงกาโรซา ประมุขนิกายโอปุสเดอีและบุคคลลึกลับนามว่า "ท่านอาจารย์" หลบซ่อนตัว หลังลอบออกจากพิพิธภัณฑ์มาได้ แลงดอนและโซฟีไปที่ธนาคารรับฝากทรัพย์สินซือริช สาขาปารีสและใช้ลำดับเลขฟีโบนัชชีเป็นรหัสผ่าน ทั้งคู่พบรหัสลิขิต ซึ่งเป็นกระบอกใส่กระดาษพาไพรัสที่เข้ารหัส 5 ตัว หากเปิดด้วยวิธีอื่น กระบอกน้ำส้มสายชูที่อยู่ภายในจะแตกและทำลายกระดาษ ทั้งคู่ได้รับความช่วยเหลือจากอังเดร แวร์เนต์ ผู้จัดการธนาคารให้หลบหนีออกจากธนาคารด้วยรถบรรทุกเมื่อธนาคารถูกตำรวจล้อม แต่ต่อมาแวร์เนต์บังคับเอารหัสลิขิตคืน แลงดอนปลดอาวุธแวร์เนต์และพาโซฟีไปหาเซอร์ลีห์ ทีบบิง ผู้เชี่ยวชาญด้านจอกศักดิ์สิทธิ์และเพื่อนของแลงดอน ทีบบิงอธิบายให้ทั้งคู่ฟังว่า จอกศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หมายถึงจอกจริง ๆ แต่หมายถึงแมรี แม็กดาเลน ภรรยาของพระเยซูที่ตั้งครรภ์ช่วงที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน และสมาคมไพรเออรีออฟไซออนมีหน้าที่ปกป้องสายเลือดของพระเยซู โดยมีองค์กรโอปุสเดอีคอยตามล่า ต่อมาซิลาสบุกมาที่บ้านของทีบบิงแต่ถูกทีบบิงทำร้ายจนสลบ ทั้งหมดไปที่ลอนดอนด้วยเครื่องบินส่วนตัวของทีบบิงและไปที่โบสถ์เทมเพิล ด้านเรมี คนรับใช้ของทีบบิงปล่อยตัวซิลาสและบอกว่าตนคือ "ท่านอาจารย์" เขาจับทีบบิงเป็นตัวประกันและพาขึ้นรถ ต่อมาเรมีถูกทีบบิงวางยาพิษและแจ้งตำรวจให้ไปจับตัวซิลาส ซิลาสพยายามหลบหนีและยิงสู้กับตำรวจ แต่ยิงพลาดไปถูกบิชอปอาริงกาโรซา ก่อนที่ตนจะถูกตำรวจยิงตาย แลงดอนและโซฟีเผชิญหน้ากับทีบบิงที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ทีบบิงเปิดเผยว่าตนคือ "ท่านอาจารย์" และตั้งใจจะใช้ความลับเรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์ในการทำลายวาติกัน เขาจับโซฟีเป็นตัวประกันและบังคับให้แลงดอนเปิดรหัสลิขิตที่หลุมศพของไอแซก นิวตัน อดีตประมุขของไพรเออรี แต่แลงดอนทำลายรหัสลิขิตต่อหน้าทีบบิง ตำรวจที่ตามมาจับกุมทีบบิงที่ตระหนักได้ว่าแลงดอนเปิดรหัสลิขิตได้สำเร็จ แต่แกล้งทำลายรหัสลิขิตต่อหน้าทีบบิง ต่อมา แลงดอนและโซฟีไปที่โบสถ์น้อยโรสลินในสกอตแลนด์ ทั้งคู่พบว่าหลุมศพของแมรี แม็กดาเลนถูกย้ายออกไป แลงดอนตระหนักได้ว่าโซนิแยร์ไม่ใช่คุณตาจริง ๆ ของโซฟี แต่เป็นผู้ปกป้องเธอในฐานะผู้สืบเชื้อสายพระเยซู ทั้งคู่พบกับสมาชิกหลายคนของสมาคมไพรเออรี รวมถึงคุณยายของโซฟี เมื่อแยกกับโซฟี แลงดอนตามเส้นกุหลาบไปที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และพบว่าที่จริงแล้วหลุมศพของแม็กดาเลนอยู่ใต้พีระมิดลูฟวร์ ภาพยนตร์จบลงเมื่อแลงดอนคุกเข่าทำความเคารพแม็กดาเลนเหมือนเช่นอัศวินเทมพลาร์ในอดีต นักแสดง
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia