ในศาสนาอิสลาม มุนาฟิกูน ('พวกหน้าไหว้หลังหลอก', อาหรับ: منافقون, เอกพจน์ منافق มุนาฟิก) หรือ มุสลิมจอมปลอม เป็นกลุ่มคนในอัลกุรอานที่ถูกกล่าวว่าเป็นมุสลิมแค่ภายนอก แต่ในใจปฏิเสธและวางแผนทำลายสังคมมุสลิม[1] มุนาฟิกเป็นบุคคลที่สาธารณะและสังคมมองว่าเขาเป็นมุสลิม แต่ปฏิเสธอิสลาม หรือเผยแพร่ความเกลียดชังต่ออิสลามทั้งในใจและศัตรูของอิสลาม. การเสแสร้งถูกเรียกว่า นิฟาก (نفاق)[2]
ประเภทของการเสแสร้ง
- เสแสร้งต่อพระเจ้าตามหลักศรัทธาที่แท้จริง ตามรายงานในอัลกุรอานซูเราะฮ์ที่ 2:8 และ 2:14
- เสแสร้งต่อหลักคำสอนของหลักศรัทธา: ตัวอย่างเช่น บางคนอาจศรัทธาต่อพระเจ้า, วันพิพากษา, การสอบสวน, ตาชั่งความดีความชั่ว และนรก (ด้วยความคลุมเครือและสงสัย) แต่ (ในความจริงแล้ว) ไม่กลัวเลยหรือหยุดทำบาปเพราะมัน แต่ยังคงอ้างว่า "ฉันกลัวพระเจ้า"
- เสแสร้งต่อผู้อื่น: บางคนที่เป็นพวกสองหน้าและลิ้นสองแฉก. เขาสรรเสริญใครสักคนต่อหน้า แต่ลับหลังเขาประณามและสร้างความเจ็บปวดแก่พวกเขา"
มุนาฟิกในอัลกุรอาน
ในอัลกุรอาน หลายอายะฮ์ได้กล่าวถึง มุนาฟิกูน ไว้ว่า พวกมันอันตรายต่อมุสลิมยิ่งกว่าผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ชั่วร้ายที่สุด
พฤติกรรมของพวกมุนาฟิกตามรายงานฮะดีษ
ฮะดีษในอิสลามคือบันทึกคำพูด, การกระทำ และการยอมรับของศาสดามุฮัมมัด ฮะดีษถูกกล่าวว่าเป็น "กระดูกสันหลัง" ของอารยธรรมอิสลาม[3] ศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวถึงพฤติกรรมบางประการของพวกหน้าไหว้หลังหลอกทั้งการกระทำและอีมาน/หลักศรัทธาไว้ว่า
- อับดุลลอฮ์ อิบน์ อัมร์ อิบน์ อัลอาส รายงานว่าศาสนทูตของอัลลอฮ์ได้กล่าวว่า: สี่พฤติกรรมนี้ใครที่ทำอยู่ จะเป็นส่วนหนึ่งของพวกหน้าไหว้หลังหลอก (มุนาฟิก) และใครก็ตามที่มีหนึ่งในพฤติกรรมเหล่านั้น จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของพวกหน้าไหว้หลังหลอก จนกว่าเขาจะละทิ้งมัน:
- เมื่อเขาพูด เขาก็จะโกหก
- เมื่อเขาสัญญา เขาก็จะละเมิดสัญญา
- เมื่อเขาทำข้อตกลง เขาจะหักหลัง และ
- เมื่อเขาถกเถียง เขาจะเบี่ยงเบนออกจากความจริง[4][5][6][7][8][9]
- รายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮ์: ท่านศาสดาได้กล่าวว่า "สัญลักษณ์ของพวกมุนาฟิกมีสามข้อ:
- เมื่อใดที่เขาพูด เขาก็จะโกหก.
- เมื่อใดที่เขาสัญญา เขาจะละเมิดสัญญา
- ถ้าคุณเชื่อเขา เขาจะถูกยืนยันว่าไม่สุจริต. (ถ้าคุณฝากบางอย่างแก่เขา เขาจะไม่ให้คุณกลับ)" ในบางรายงานได้เพิ่มเติมว่า: "ถึงแม้ว่าเขาจะถือศีลอด ละหมาด และกล่าวว่าตนเองเป็นมุสลิมก็ตาม"[10][11]
- รายงานจากอับดุลเลาะฮ์ อิบน์ อุมัร: ศาสนทูตของอัลลอฮ์ได้กล่าวว่า "ผู้ศรัทธากินแค่ลำไส้เดียว (พอใจกับอาหารเพียงเล็กน้อย) และกาฟิร (ผู้ปฏิเสธศรัทธา) หรือมุนาฟิกกินถึงเจ็ดลำไส้ (กินมากเกินไป).[12]
- มันถูกรายงานว่า ซิรร์กล่าวว่า: อะลีได้กล่าวว่า: "ท่านศาสดาผู้ไม่รู้หนังสือ (มุฮัมมัด) ได้ให้ข้อตกลงว่า ไม่มีใครรักฉันเว้นแต่จะเป็นผู้ศรัทธา และไม่มีใครเกลียดฉันเว้นแต่จะเป็นมุนาฟิก"[15][16][17][18]
- รายงานจากอิบน์อุมัรว่า :ศาสนทูตของอัลลอฮ์ได้กล่าวว่า: "อุปมาของพวกมุนาฟิกนั้น คือแกะที่ลังเลอยู่ระหว่างฝูงแกะสองฝูง บางครั้งมันตามฝูงหนึ่ง และบางครั้งมันก็ตามอีกฝูงหนึ่ง โดยมันไม่รู้ว่าจะตามฝูงไหนกันแน่"[22]
- อบูฮุร็อยเราะฮ์รายงานว่า ศาสนทูตของอัลลอฮ์ได้กล่าวว่า: อุปมาของผู้ศรัทธาคือรวงข้าว (ที่ยืนต้น) ซึ่งโน้มลงตามลมที่พัดจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง... ส่วนอุปมาของมุนาฟิกคือต้นไซเปรสที่ไม่ยอมขยับจนกระทั่งมันล้มแบบถอนรากถอนโคน[23][24]
- มีรายงานว่าท่านศาสดาได้กล่าวว่า: "หญิงใดก็ตามที่แสวงหาการหย่าร้างและคุลอ์ เธอก็จะเหมือนกับมุนาฟิกหญิง" [25][26]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ Nisan, Mordechai (5 July 2017). Politics and War in Lebanon: Unraveling the Enigma. Routledge. p. 243. ISBN 9781351498333.
- ↑ Lamptey, Jerusha Tanner (15 January 2016). Never Wholly Other: A Muslima Theology of Religious Pluralism. Oxford University Press. pp. 134–135. ISBN 9780190458010.
- ↑ J.A.C. Brown, Misquoting Muhammad, 2014: p.6
- ↑ สุนัน อบูดาวูด 4688
In-book reference : Book 42, Hadith 93
English translation : Book 41, Hadith 4671
- ↑ รียาด อัสซาลีฮีน Book 2, Hadith 690
- ↑ รียาด อัสซาลีฮีน Book 18, Hadith 1584
- ↑ ญามิอ์ อัตติรมีซี
In-book reference : Book 40, Hadith 27
English translation : Vol. 5, Book 38, Hadith 2632
- ↑ ซอฮิฮ์ มุสลิม 58
In-book reference : Book 1, Hadith 116
USC-MSA web (English) reference : Book 1, Hadith 111
(deprecated numbering scheme)
- ↑ ซอฮิฮ์ อัล-บุคอรี 34
In-book reference : Book 2, Hadith 27
USC-MSA web (English) reference : Vol. 1, Book 2, Hadith 34
(deprecated numbering scheme)
- ↑ ซอฮิฮ์ อัล-บุคอรี 33
In-book reference : Book 2, Hadith 26
USC-MSA web (English) reference : Vol. 1, Book 2, Hadith 33
(deprecated numbering scheme)
- ↑ รียาด อัสซาลีฮีน Book 2, Hadith 689 ซอฮิฮ์ อัล-บุคอรี และซอฮิฮ์ มุสลิม
- ↑ ซอฮิฮ์ อัล-บุคอรี 5394
In-book reference : Book 70, Hadith 22
USC-MSA web (English) reference : Vol. 7, Book 65, Hadith 306
(deprecated numbering scheme)
- ↑ ญามิอ์ อัตติรมีซี 2027
In-book reference : Book 27, Hadith 133
English translation : Vol. 4, Book 1, Hadith 2027
- ↑ มิชกัต อัลมะซาบิฮ์ 4796
- ↑ สุนัน อันนาซาอี 5018
In-book reference : Book 47, Hadith 34
English translation : Vol. 6, Book 47, Hadith 5021
- ↑ ซอฮิฮ์ มุสลิม 78
In-book reference : Book 1, Hadith 146
USC-MSA web (English) reference : Book 1, Hadith 141
(deprecated numbering scheme)
- ↑ สุนัน อัตติรมีซี English reference : Vol. 1, Book 46, Hadith 3736
Arabic reference : Book 49, Hadith 4101
- ↑ สุนัน อิบน์มาญะฮ์ English reference : Vol. 1, Book 1, Hadith 114
Arabic reference : Book 1, Hadith 119
- ↑ ซอฮิฮ์ อัล-บุคอรี 17
In-book reference : Book 2, Hadith 10
USC-MSA web (English) reference : Vol. 1, Book 2, Hadith 17
(deprecated numbering scheme)
- ↑ ซอฮิฮ์ อัล-บุคอรี 3784
In-book reference : Book 63, Hadith 9
USC-MSA web (English) reference : Vol. 5, Book 58, Hadith 128
(deprecated numbering scheme)
- ↑ ซอฮิฮ์ มุสลิม 74 b
In-book reference : Book 1, Hadith 142
USC-MSA web (English) reference : Book 1, Hadith 137
(deprecated numbering scheme)
- ↑ สุนัน อันนาซาอี 5037
In-book reference : Book 47, Hadith 53
English translation : Vol. 6, Book 47, Hadith 5040
- ↑ ซอฮิฮ์ มุสลิม 2809 a
In-book reference : Book 52, Hadith 46
USC-MSA web (English) reference : Book 39, Hadith 6742
(deprecated numbering scheme)
- ↑ ซอฮิฮ์ มุสลิม 2810 b
In-book reference : Book 52, Hadith 49
USC-MSA web (English) reference : Book 39, Hadith 6745
(deprecated numbering scheme)
- ↑ สุนัน อันนาซาอี จากอัยยูบ, จากอัลฮะซัน, จากอบูฮุร็อยเราะฮ์, 3461
In-book reference : Book 27, Hadith 73
English translation : Vol. 4, Book 27, Hadith 3491
- ↑ สุนัน อัตติรมีซี from Thawban 1186
In-book reference : Book 13, Hadith 13
English translation : Vol. 2, Book 8, Hadith 1186
|