มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์
มิเชลล์ แมรี ไฟฟ์เฟอร์ (อังกฤษ: Michelle Marie Pfeiffer; เกิด 29 เมษายน ค.ศ. 1958) เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน เป็นที่รู้จักจากผลงานการแสดงภาพยนตร์และร้องเพลงประกอบภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเธอเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีผลงานมากที่สุดในช่วงระหว่างปี 1980–1990 และเคยได้รับรางวัลจากการแสดงหลายรางวัลทั้งรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลแบฟตา นอกจากนี้ยังเธอยังเคยได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 3 ครั้งและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลไพรม์ไทม์เอมมี 1 ครั้ง[1] ไฟฟ์เฟอร์ เข้าสู่วงการบันเทิงมาตั้งแต่ปี 1978 ด้วยการเป็นตัวประกอบในละครโทรทัศน์ที่ออกอากาศทางช่องเอบีซีหลายเรื่อง จากนั้นเธอได้เริ่มแสดงเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1980 และได้รับบทนักแสดงนำเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง Grease 2 - กรีส 2 (1982) แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้ จนกระทั่งเธอได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการแสดงนำคู่กับ อัล ปาชิโน ในภาพยนตร์แนวอาชญากรรมเรื่อง Scarface - มาเฟียหน้าบาก (1983) ซึ่งจากความสำเร็จอย่างสูงของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่ได้รับความนิยมและเป็นที่จดจำในวงการภาพยนตร์อเมริกันในยุคนั้นเป็นอย่างมาก โดยในยุคคริสต์ทศวรรษ 1980 ถือเป็นช่วงที่เธอประสบความสำเร็จทางการแสดงอย่างต่อเนื่องโดยมีผลงานในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเช่น เลดีฮอว์ก (1985), The Witches of Eastwick - ซาตานรับ (รัก) เละ (1987) และ Tequila Sunrise - เพื่อนหักเพื่อน (1988) ในปี 1988 มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ มีผลงานในภาพยนตร์แนวโรแมนติกดรามาย้อนยุคเรื่อง Dangerous Liaisons - พิศวาสสื่อรัก ซึ่งจากการแสดงของเธอในบทบาท "มาดาม มารี เดอ ตูร์แวล" ทำให้เธอได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์และสื่อต่างๆอย่างล้นหลาม โดยเธอได้รับรางวัลแบฟตา ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 61 แต่พ่ายแพ้ให้กับ จีนา เดวิส จากเรื่อง The Accidental Tourist - หยุดถามหัวใจ จะรักใครดี? ต่อมาในปี 1989 เธอได้บทแสดงนำในภาพยนตร์เพลงเรื่อง The Fabulous Baker Boys - เจ็บไม่ปรารถนา ซึ่งนอกจากเธอจะเป็นนักแสดงนำแล้วยังฝากเสียงร้องไว้ในเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย โดยอัลบั้มเพลงซาวด์แทร็กประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีเสียงร้องของเธอได้รับความนิยมจนขึ้นไปถึงอันดับ 3 ในชาร์ตเพลงแจ๊สของบิลบอร์ด และเธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 62 ซึ่งเป็นการเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สมัยติดต่อกันของเธอ แต่พ่ายแพ้ให้กับ เจสซิกา แทนดี้ จากเรื่อง Driving Miss Daisy - สู่มิตรภาพ ณ ปลายฟ้า ในยุค 1990 เธอยังคงมีผลงานการแสดงที่น่าจดจำอีกหลายเรื่อง โดยเธอสามารถเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมอีก 2 ปี ติดต่อกันจากการแสดงคู่กับ ฌอน คอนเนอรี ใน The Russia House (1990) และการได้กลับมาแสดงคู่กับ อัล ปาชิโน อีกครั้งใน Franky & Johny - สั่งหัวใจ อย่าให้มีเครื่องหมายคำถาม (1991) ทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงที่มีค่าตัวสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว ต่อมาเธอแสดงในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรเป็นครั้งแรกใน แบทแมน รีเทิร์นส ตอน ศึกมนุษย์เพนกวินกับนางแมวป่า (1992) โดยเธอแสดงเป็น แคตวูแมน ก่อนที่จะได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 3 จากเรื่อง Love Field (1992) แต่ก็ยังคงไม่สมหวังเมื่อแพ้ให้กับ เอ็มมา ทอมสัน จากเรื่อง Howards End - วิมานเกียรติยศ อย่างไรก็ตามผลงานในปีต่อมาของเธออย่าง The Age of Innocence - วัยบริสุทธิ์ มิอาจกั้นรักได้ ก็ยังคงได้รับกระแสชื่นชมจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ทั่วโลกโดยเธอได้รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส หลังจากนั้นเธอมีผลงานการแสดงคู่กับ แจ็ก นิโคลสัน ในภาพยนตร์สยองขวัญที่ประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างมหาศาลอย่าง Wolf - มนุษย์หมาป่า (1994) รวมถึงภาพยนตร์ดรามาเรื่อง Dangerous Minds - ใจอันตรายวัยบริสุทธิ์ (1995) ที่โด่งดังจนถูกนำกลับมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ในเวลาต่อมา นอกจากผลงานการแสดงแล้วเธอยังเป็นผู้ร้องเพลงประกอบหลักและให้เสียงพากย์ตัวละคร "ศิปโปราห์" ภรรยาของโมเสสในภาพยนตร์แอนิเมชันของดรีมเวิกส์ เรื่อง เดอะพริ้นซ์ออฟอียิปต์ (1998) ในปี 2000 เธอรับบทนักแสดงนำคู่กับ แฮร์ริสัน ฟอร์ด ในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง What Lies Beneath - ซ่อนอะไรใต้ความหลอน และมีผลงานที่ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง ไวท์ โอเลียนเดอร์ (2002) รวมถึงการให้เสียงพากย์ตัวละครของค่ายดรีมเวิกส์อีกครั้งในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง ซินแบด พิชิตตำนาน 7 คาบสมุทร (2003) ก่อนจะหยุดพักงานในวงการบันเทิงทุกอย่างเป็นเวลาถึง 4 ปี มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ ได้รับเกียรติให้มีการจารึกชื่อของเธอในฮอลลีวูดวอล์กออฟเฟม และได้รับการยกย่องอย่างสูงจากวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดให้เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่สามารถรับประกันความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศได้ง่ายๆ เพียงแค่แสดงในภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ เธอยังติดอันดับผู้หญิงที่สวยที่สุดในภาพยนตร์ และปรากฏตัวบกปกนิตยสารพีเพิล ในฉบับ 50 ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก ในปี 1990 และยังสร้างสถิตินี้อีก 6 ครั้ง ตลอดทศวรรษ และขึ้นปกอีกครั้งในปี 1999[2] เธอแต่งงานกับผู้สร้างและผู้เขียนบทโทรทัศน์ที่ชื่อ เดวิด อี. เคลลีย์ ผลงานภาพยนตร์
เพลงประกอบภาพยนตร์
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia