ฟาริดา สุไลมาน
ฟาริดา สุไลมาน (เกิด 26 มกราคม พ.ศ. 2507) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุรินทร์ และอดีตรองโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นภรรยาของมุข สุไลมาน ประวัติฟาริดา มีชื่อเล่นว่า โน เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2507 ที่อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์[1] ในครอบครัวที่เป็นมุสลิม 1 ใน 5 ครอบครัวในจังหวัดสุรินทร์ บิดาชื่อดรุณ ประธาน เป็นลูกครึ่งปาทานและเขมร[2] ทั้งบิดาและมารดาล้วนเคยดำรงตำแหน่งกำนันในท้องถิ่น[3] จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จากนั้นศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี สาขาจิตวิทยาการแนะแนว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จบการศึกษาปริญญาโท สาขาการแนะแนว จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และปริญญาเอกสาขายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาคจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ฟาริดาสมรสกับมุข สุไลมาน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี มีบุตร 2 คน คือ นัสรี และฟาดิล สุไลมาน งานการเมืองฟาริดา สุไลมานเริ่มทำงานการเมืองโดยเป็นนายกเทศมนตรีตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาจึงได้หันเข้ามาทำงานการเมืองในระดับชาติ โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุรินทร์ และได้รับการเลือกตั้งถึง 3 สมัย ในสังกัดพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และย้ายมาสังกัดพรรคมาตุภูมิ ต่อมาภายหลังการยุบสภาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 จึงได้ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย[4] และลงสมัคร สส. จังหวัดสุรินทร์ ในนามพรรคภูมิใจไทย[5] ซึ่งเป็นคนละพรรคกับมุข สุไลมานผู้เป็นสามี ฟาริดา สุไลมาน เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในปี พ.ศ. 2564 เธอย้ายไปร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งนำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์[6] กระทั่งทางพรรคไทยสร้างไทยได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวนางฟาริดาเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 จังหวัดสุรินทร์ ของทางพรรค[7] กรณีที่เป็นข่าวฟาริดา สุไลมาน เคยตกเป็นข่าวดังเนื่องจากถูกกัปตันการบินไทยขวางไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน เที่ยวบินกรุงเทพฯ-ขอนแก่น เพื่อที่จะเดินทางกลับพื้นที่ที่ จ.สุรินทร์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG1040 กรุงเทพฯ-ขอนแก่น แต่ขณะเดินไปที่ประตูเครื่องบิน มีชายแต่งกายคล้ายกัปตันเครื่องมาขวางและสอบถามว่าตนเองเป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่ พร้อมกล่าวว่า การบินไทย ไม่ต้อนรับ ส.ส.พรรคพลังประชาชน[8] ผลงานงานเขียน
พิธีกร
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia