พระเทพวิมลญาณ (ถาวร จิตฺตถาวโร)
พระเทพวิมลญาณ นามเดิม ถาวร ฉายา จิตฺตถาวโร เป็นพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร และรองเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต) ผู้มีชื่อเสียงจากการสอนกรรมฐาน และก่อตั้งศาสนสถานหลายแห่ง เช่น วัดพุทธไทยถาวรรัฐนิวยอร์ก วัดป่าศรีถาวรรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา วัดเนรัญชราวาส ประเทศอินเดีย เป็นต้น[1] ประวัติชาติกำเนิดพระเทพวิมลญาณ มีนามเดิมว่า ถาวร วงศ์มาลัย เกิดเมื่อวันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2495 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านโนนศิลาเลิง ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นบุตรของนายโส-นางศรีทา นาชัยเพชร โยมมารดาเสียชีวิตเมื่อคลอดท่าน นายนิ่ง-นางพั้ว วงศ์มาลัย จึงรับท่านไปอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม[2] เมื่ออายุได้ 8 ปี ท่านได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนโนนศิลาราษฎร์ผดุง (ปัจจุบันคือโรงเรียนโนนศิลาสว่างวิทย์) จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงมาช่วยมารดาบิดาทำเกษตรกรรมเป็นเวลา 3 ปี[3] อุปสมบทพ.ศ. 2509 ขณะอายุได้ 14 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านปอแดง อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีพระราชธรรมานุวัตร (อ่อน จกฺกธมฺโม) วัดประชานิยม ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ในขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วไปจำพรรษาอยู่กับพระครูวิจิตรบุญญาภรณ์ (บุญเคน จิตฺตปุญฺโญ) ซึ่งเป็นน้องชายของโยมแม่ศรีทา ที่วัดสำโรงยุทธาวาส จังหวัดอุดรธานี จนถึงปี พ.ศ. 2510 จึงย้ายไปศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรมที่วัดโพธิสมภรณ์ ในช่วงนี้ท่านได้อยู่อุปฐากพระเทพเมธาจารย์ (จันทร์ศรี จนฺททีโป) นานถึง 6 ปี[4] ต่อมาท่านย้ายไปจำพรรษา ณ วัดปทุมวนาราม และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ. 2516 โดยมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมฺมสาโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระเทพมงคลปัญญาจารย์ (บุญมั่น มนฺตาสโย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระญาณรักขิต (สายหยุด ปญฺญาสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์[5] การศึกษาหลังจากบรรพชาอุปสมบทแล้ว ท่านได้จบการศึกษาต่างและได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ดังนี้ดังนี้[6]
ปฏิบัติธรรมนอกจากศึกษาพระปริยัติธรรมแล้ว ท่านยังปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์หลายรูปในสายพระป่าของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เช่น หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) พระราชมุนี (โฮม โสภโณ)[7] ในพรรษาที่ 8 ท่านได้ตั้งปณิธานว่าจะไม่ลาสิกขาบท และอุทิศชีวิตต่อพระรัตนตรัย จากนั้นท่านจึงจาริกไปถ้ำสระแก้ว เขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ตั้งใจบำเพ็ญเพียรอย่างอุกฤษฏ์โดยทำสมาธิ และไม่ฉันภัตตาหารและไม่พูดจาตลอด 7 วัน คือตั้งแต่เวลา 21.30 น. ของวันที่ 1 กรกฎาคม ถึงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2523 ท่านได้บันทึกผลการปฏิบัติไว้ว่า
สมณศักดิ์
มรณภาพพระเทพวิมลญาณ มรณภาพเนื่องจากเลือดออกในสมอง ณ โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 01.19 น. สิริอายุได้ 63 ปี 228 วัน พรรษา 42 ศพตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงรับศพไว้ในพระบราราชานุเคราะห์ 7 วัน มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน มีกำหนด 7 คืน[12] การดำเนินการก่อสร้างศาลาพระราชศรัทธา“ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร” นั้น จัดสร้างขึ้นตามพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งเสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์ ณ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร เมื่อวันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2533 ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรสถานที่ปฏิบัติธรรมชั่วคราว หรือ ศาลามุงจาก ซึ่งพระครูปลัดสัมพิพัฒนเมธาจารย์ (ถาวร จิตตถาวโร) ใช้ดำเนินการอบรมสั่งสอนธรรมปฏิบัติแก่พุทธศาสนิกชนอยู่ในขณะนั้น จึงทรงมีพระราชปรารถว่า ‘สมควรสร้างอาคารอันเป็นถาวรวัตถุขึ้น เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ใช้ศึกษาและปฏิบัติ จากพระราชปรารภนั้นเอง คณะศิษยานุศิษย์ในพระครูปลัดสัมพิพัฒนเมธาจารย์ (ถาวร จิตตถาวโร) และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาจึงได้ร่วมกันสนองพระราชดำริ โดยจัดตั้ง “มูลนิธิศาลาพระราชศรัทธา” ขึ้น และจัดสร้างพระพุทธรูปบูชา “พระเสริมจำลอง” รวมทั้ง พระกริ่งนวปทุม, พระกริ่งไพรีพินาศ, พระชัยวัฒน์, พระเสริมจำลองเนื้อผง และเหรียญสิริจันโท เพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ ในการสมทบทุนสร้างศาลาพระราชศรัทธา โดยได้รับพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญ ‘ตรา ภปร.’ ประดิษฐานไว้ที่หน้าบันศาลา ทั้ง 2 ด้าน และที่ผ้าทิพย์องค์พระพุทธรูปพระเสริมจำลอง ซึ่งอัญเชิญเป็นพระประธาน ตลอดจนวัตถุมงคลต่าง ๆ พร้อมกันนั้น ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ ประกอบพิธีเจิมป้ายและเปิด “ศาลาพระราชศรัทธา” ด้วยพระองค์เองในวันพฤหัสบดี ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2536 โดยอยู่ในการดูแลและการบริหารงานของมูลนิธิศาลาพระราชศรัทธา, มูลนิธิถาวรจิตฺตถาวโร-วงศ์มาลัย นับจากนั้นศาลาพระราชศรัทธาก็ได้ทำหน้าที่ของพุทธสถานกลางกรุงที่เผยแผ่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แก่พุทธศาสนิกชนที่อาศัยอยู่กลางกรุงเทพฯ มาโดยตลอด พุทธศาสนิกชนที่ไปฟังเทศน์และปฏิบัติธรรมในทุกวัน จะมีโรงทานสำหรับรับประทานอาหารทั้งมื้อเช้าและเที่ยงและยังมีอาหารมื้อเย็นแก่ผู้ที่ปฏิบัติงานภายใต้อุปถัมภ์อีกด้วย กระทั่งถึงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2561 มูลนิธิศาลาพระราชศรัทธา และมูลนิธิถาวรจิตฺตถาวโร-วงศ์มาลัย จึงได้สิ้นสุดสัญญาเช่าพื้นที่กับสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงได้ย้ายที่ทำการไปยัง วัดป่าศรีถาวรนิมิต เลขที่ 133 หมู่ที่ 8 บ้านบุ่งแข้ ตำบลหนองแสง อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ปัจจุบันศาลาพระราชศรัทธาอยู่ในการดูแล และการบริหารงานของ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ โดยหลังจากที่ปิดปรับปรุงไประยะหนึ่ง ขณะนี้ได้เปิดดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อให้พุทธศาสนิกชนเข้ากราบไหว้บูชาพระและปฏิบัติธรรมได้ตามปรกติแล้ว แหล่งรวบรวมคติธรรมคำสอนFacebook Page พระเทพวิมลญาณ:ถาวรจิตตถาวโร YouTube Channel พระเทพวิมลญาณ อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia