พระเจ้าซองจงแห่งโครยอ
พระเจ้าซองจงแห่งโครยอ (เกาหลี: 성종; ฮันจา: 成宗; อาร์อาร์: Seongjong; เอ็มอาร์: Sŏngchong ค.ศ. 961 - ค.ศ. 997) พระราชาองค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์โครยอ (ค.ศ. 981 - ค.ศ. 997) เป็นกษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์โดยการก่อกบฏยึดอำนาจ จากพระเจ้าคยองจงแห่งโครยอกษัตริย์พระองค์ก่อน โดยร่วมมือกับขุนนางกลุ่มซิลลาที่ยังมีอำนาจหวังจะกอบกู้อาณาจักรซิลลาขึ้นมาใหม่ โดยการใช้กำลังทหารยึดวังหลวงและวางยาพิษพระเจ้าคยองจง ให้เนรเทศสมเด็จพระราชินีฮอนแอและสมเด็จพระราชินีฮอนจองพระมเหสีของพระเจ้าคยองจง โดยที่พระมเหสีทั้งสองพระองค์เป็นน้องสาวของพระองค์ และพระเจ้าซองจงเป็นผู้ทำให้พระนางซินจองผู้เป็นพระอัยยิกาและพระนางฮอนจองผู้เป็นพระขนิษฐาสิ้นพระชนม์ด้วย ในรัชสมัยของพระองค์มีการปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่เพื่อกำจัดอำนาจขุนนางท้องถิ่น และมีสงครามกับพวกคิตันราชวงศ์เหลียว องค์ชายวัง ชี (왕치, 王治) เป็นพระโอรสของสมเด็จพระชายาซอนอึยกับองค์ชายวัง อุก (왕욱, 王旭) หรือพระเจ้าแทจง พระราชโอรสของพระเจ้าแทโจกับสมเด็จพระจักรรพรดินีซินจอง (신정왕후, 神靜王后) ตระกูล ฮวางจู ในค.ศ. 981 พระเจ้าคยองจงแห่งโครยอสวรรคต พระราชโอรสองค์ชายวัง ซง (왕송, 王訟 ภายหลังขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ามกจง) ก็พระชนมายุเพียง 2 พรรษา ไม่อาจขึ้นครองบ้านเมืองได้ บัลลังก์จึงตกมาสู่องค์ชายวัง ชี ซึ่งเป็นพระโอรสขององค์ชายวังอุก และเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าแทโจ เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว พระเจ้าซองจงก็สถาปนาพระราชบิดาองค์ชายวัง อุกเป็นพระเจ้าแทจง (대종, 戴宗) ในค.ศ. 982 พระเจ้าซองจงปฏิรูปการปกครองท้องถิ่นเสียใหม่ตามแบบจีน เดิมที่การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นของขุนนางที่ยึดครองดินแดนเหล่านั้นมาตั้งแต่ปลายสมัยชิลลา และตำแหน่งผู้ครองนครนั้นก็สามารถตกไปให้ลูกหลานได้[1] แต่พระเจ้าซองจงเปลี่ยนใหม่แบ่งอาณาจักรออกเป็น 12 ส่วน แต่ละส่วนมีเจ้าครองนครให้มีวาระการดำรงตำแหน่ง และสืบทอดไปยังลูกหลานไม่ได้ต้องได้รับการแต่งตั้งจากส่วนกลางเท่านั้น เป็นการล้มล้างอำนาจของขุนนางท้องถิ่นที่มีมานานตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักร พระเจ้าซองจงยังทรงตั้งโรงเรียนขึ้นตามท้องถิ่นต่างๆเพื่อให้บุคคลที่มีความสามารถสอบจอหงวนเข้ารับราชการมาแทนที่กลุ่มขุนนางเดิม ในค.ศ. 983 ฮ่องเต้เหลียวเซิ่งจง (遼聖宗) มีพระราชโองการให้ทัพคิตันบุกยึดลุ่มแม่น้ำยาลู ทำให้ต้องทำสงครามกับราชวงศ์ซ้อง ฮ่องเต้เซิ่งจงสร้างป้อมปราการขึ้นตามลุ่มแม่น้ำยาลูเพื่อกันไม่ให้พวกนูร์เชนให้ความช่วยเหลือราชวงศ์ซ้อง แต่พระเจ้าซองจงเห็นว่าพวกคิตันอาจมาบุกโครยอจึงสร้างป้อมปราการขึ้นบ้างตามแม่น้ำยาลู ฮ่องเต้เซิ่งจงเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่าโครยอเป็นปฏิปักษ์ต่อตน จึงส่งทัพคิตันมาบุกภายใต้การนำของเสี้ยวซุนหนิง (蕭遜寧) ทัพคิตันบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เผาทำลายบ้านเมือง แต่ถูกทัพโครยอหยุดไว้ได้ที่แม่น้ำชองชอน เซี่ยวซุนหนิงจึงมาเจรจาสงบศึกกับพระเจ้าซองจง แต่ข้อเรียกร้องของเสี้ยวซุนหนิงนั้นรุนแรง คือต้องการให้โครยอยกดินแดนตอนเหนือให้เหลียว ตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้อง และมาเป็นประเทศราชของเหลียว ทำให้ราชสำนักโครยอแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่เห็นว่าควรยอมจำนนกับฝ่ายที่เห็นว่าควรสู้ต่อไป นำโดยแม่ทัพซอ ฮี แม่ทัพโครยอในศึกครั้งนี้ ระหว่างที่ราชสำนักกำลังถกเถียงกันอยู่เสี้ยวซุนหนิงก็ยกทัพบุกเข้ามาอีกทำให้ราชสำนักตกใจแทบสิ้นสติ แม่ทัพซอ ฮี จึงของอาสาเป็นผู้แทนเจรจากับพวกคิตัน แม่ทัพซอฮี (서희) หลอกเสี้ยวซุนหนิงว่า ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลทางตอนเหนือรวมทั้งคาบสมุทรเหลียวตงเป็นของอาณาจักรโคกูรยอ ดังนั้นจึงควรจะเป็นของโครยอด้วย และบอกอีกว่าโครยอจะยอมเป็นข้าของราชวงศ์เหลียวต่อเมื่อราชวงศ์เหลียวกำจัดพวกนูร์เชนที่อยู่ตามแม่น้ำยาลูออกไป เสี้ยวซุนหนิงเห็นว่า เหลียวก็ทำสงครามกับซ้องหนักอยู่แล้ว จะต้องมาปราบพวกนูร์เชนอีกคงไม่ไหว[2] จึงยกดินแดนทางตอนเหนือจรดแม่น้ำยาลูที่พวกนูร์เชนอาศัยอยู่ ให้โครยอไปเลยดีกว่า สิ้นสุดสงครามราชสำนักโครยอเริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับราชวงศ์เหลียว และตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้องไปชั่วคราว แม่ทัพซอ ฮี นำทัพเข้าปราบปรามชาวนูร์เชน ได้ดินแดนเพิ่มขึ้นไปจรดแม่น้ำยาลู พระเจ้าซองจงมีพระราชโองการให้สะสมกำลังกองทัพและสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่ขึ้นหกแห่งที่ชายแดน ค.ศ. 997 พระเจ้าซองจงสวรรคตเมื่อพระชนมายุ 37 พรรษา โดยที่ไม่มีพระราชโอรสสืบบัลลังก์ องค์ชายวังซงพระราชโอรสของพระเจ้าคยองจงจึงขึ้นครองราชย์ต่อเป็นพระเจ้ามกจง พระราชวงศ์
พระมเหสี
พระสนม
พระขนิษฐา
พระราชธิดา
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia